บียอนเซ่ สร้างประวัติศาสตร์ คว้ารางวัลแกรมมี่มากสุด 32 ตัว

บียอนเซ่ สร้างประวัติศาสตร์ คว้ารางวัลแกรมมี่มากสุด 32 ตัว

มาเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ ‘บียอนเซ่’ กลายเป็นศิลปินที่ได้รางวัลแกรมมี่ไปครองมากที่สุด 32 ตัว ขณะที่ศิลปินชื่อดังที่มีผลงานโดดเด่นในปีนี้อย่าง แฮร์รี สไตล์, แซม สมิธ, อะเดล ต่างได้รับรางวัลไปครองกันถ้วนหน้า

ประวัติศาสตร์แกรมมีถูกทำลายลงโดยนักร้องหญิงที่ชื่อ ‘บียอนเซ่’ เมื่อเธอเก็บเกี่ยวรางวัลไปได้ 4 สาขาในปีนี้ ส่งผลให้นักร้องหญิง คนนี้กลายเป็นศิลปินที่ได้รับรางวัลแกรมมีไปครองมากที่สุดรวมทั้งสิ้น 32 ตัว

 

งานประกาศรางวัลแกรมมี่ครั้งที่ 65 ประจำปี 2023 จัดขึ้นที่นครลอสแองเจลีส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงเช้าวันจันทร์ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ตามเวลาประเทศไทย โดยบียอนเซ่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลทั้งหมด 9 สาขา แต่ได้รับรางวัลไปครอง 4 สาขา ได้แก่

  • รางวัลอัลบั้มเพลงแดนซ์/อิเล็กทรอนิกยอดเยี่ยม (Best Dance/Electronic Music Album) จากอัลบั้ม Renaissance
  • รางวัลบันทึกเสียงเพลงแดนซ์-อิเล็กทรอนิกยอดเยี่ยม (Best Dance/Electronic Recording) จากเพลง Break My Soul
  • รางวัลเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม (Best R&B Song) จากเพลง Cuff It
  • รางวัลการแสดงเพลงอาร์แอนด์บีแบบเทรดิชันนอลยอดเยี่ยม (Traditional R&B Performance) Plastic Off the Sofa

 

 

แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เธอกลายเป็นผู้ได้รับรางวัลแกรมมีไปครองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ แทนที่ จอร์จ โซลติ (George Solti) คอนดักเตอร์ชาวฮังกาเรียน-อังกฤษ เจ้าของรางวัลแกรมมี่ 31 ตัว ซึ่งเป็นแชมป์เก่ามานานกว่า 20 ปี

 

บียอนเซ่ สร้างประวัติศาสตร์ คว้ารางวัลแกรมมี่มากสุด 32 ตัว บียอนเซ่ ขณะรับรางวัล Best Dance/Electronic Music Album 
เครดิตรูป : VALERIE MACON / AFP

 

ชัยชนะของศิลปินฝั่งอังกฤษ

งานแกรมมี่ครั้งที่ 65 นี้ถือเป็นชัยชนะของศิลปินสัญชาติอังกฤษที่ได้รับรางวัลไปครองกันเป็นจำนวนมาก เช่น แฮร์รี สไตล์ส นักร้องหนุ่มที่กำลังฮอตสุด ๆในช่วงนี้ โดยเขาได้รางวัลแกรมมีไปครอง 2 สาขา ได้แก่ อัลบั้มแห่งปี (Album of the Year) และอัลบั้มเพลงป๊อปยอดเยี่ยม (Pop Vocal Album) จาก Harry's House

 

บียอนเซ่ สร้างประวัติศาสตร์ คว้ารางวัลแกรมมี่มากสุด 32 ตัว

Credit : Frederic J. Brown / AFP

 

ขณะที่ แซม สมิธ ได้รับรางวัลการแสดงเพลงป๊อปดูโอ/กลุ่มยอดเยี่ยม (best pop duo/group performance) ไปครองจากเพลง Unholy ที่ร้องคู่กับ คิม เพทราส (Kim Petras)

 

บียอนเซ่ สร้างประวัติศาสตร์ คว้ารางวัลแกรมมี่มากสุด 32 ตัว

Credit : Frederic J. Brown / AFP

 

 

โดยในช่วงรับรางวัลบนเวที Petras นักร้องสัญชาติเยอรมนี ได้คว้าไมค์ไปพูดว่า “แซมอยากให้ฉันเป็นคนรับรางวัลนี้เพราะว่าฉันเป็นผู้หญิงข้ามเพศคนแรกที่ชนะรางวัลนี้”

นอกจากนี้ Petras ยังขอบคุณศิลปินเพลงป๊อปข้ามเพศ Sophie ในฐานะที่ “เตะประตูนี้ให้เปิดออก” ขอบคุณ มาดอนนา ที่ต่อสู้เพื่อสิทธิชาว LGBTQ และขอบคุณแม่ของเธอที่เชื่อว่าเธอนั้นเป็นผู้หญิง ซึ่งเธอคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้หากปราศจากการสนับสนุนและให้กำลังใจจากแม่

 

ทางด้าน อะเดล (Adele) นักร้องชื่อดังชาวอังกฤษ ได้รับรางวัล Best Pop Vocal Performance ไปครองจากเพลง Easy On Me ซึ่งเธอมอบรางวัลนี้ให้กับลูกชาย แองเจโล พร้อมกับเล่าเกร็ดของเพลงนี้ให้ฟังตอนขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีว่าเธอแต่งท่อนแรกตอนที่กำลังอาบน้ำ และเลือกที่จะเปลี่ยนชีวิตของลูกชายด้วยการหย่าจากสามี

 

บียอนเซ่ สร้างประวัติศาสตร์ คว้ารางวัลแกรมมี่มากสุด 32 ตัว

 Credit : Frederic J. Brown / AFP

 

 

รายชื่อผู้ชนะรางวัลแกรมมี่ครั้งที่ 65สาขาต่าง ๆ

  • Album of the Year - “Harry’s House,” Harry Styles
  • Record of the Year - “About Damn Time,” Lizzo
  • Song of the Year - “Just Like That,” Bonnie Raitt, songwriter
  • Best New Artist - Samara Joy
  • Best Pop Solo Performance - “Easy on Me,” Adele
  • Best Pop Duo or Group Performance - “Unholy,” Sam Smith and Kim Petras
  • Best Traditional Pop Vocal Album - “Higher,” Michael Bublé
  • Best Pop Vocal Album - “Break My Soul,” Beyoncé
  • Best Dance/Electronic Music Album - “Renaissance,” Beyoncé
  • Best Rap Album - “Mr. Morale & the Big Steppers,” Kendrick Lamar
  • Best Rap Performance - “The Heart Part 5,” Kendrick Lamar
  • Best Latin Pop Album - “Pasieros,” Rubén Blades and Boca Livre
  • Best Musica Urbana Album - “Un Verano Sin Ti,” Bad Bunny
  • Best Alternative Music Album - “Wet Leg,” Wet Leg
  • Best Traditional R&B Performance - “Plastic Off the Sofa,” Beyoncé
  • Best R&B Song - “Cuff It,” Beyoncé
  • Best R&B Album - “Black Radio III,” Robert Glasper
  • Best Country Solo Performance - “Live Forever,” Willie Nelson
  • Best Country Duo or Group Performance - “Never Wanted to Be That Girl,” Carly Pearce and Ashley McBryde
  • Best Country Album - “A Beautiful Time,” Willie Nelson
  • Best Rock Performance - “Broken Horses,” Brandi Carlie
  • Best Rock Album - “Patient Number 9,” Ozzy Osbourne
  • Best Comedy Album - “The Closer,” Dave Chappelle
  • Best Compilation Soundtrack for Visual Media - “Encanto,” Various Artists