"หมาก ปริญ" เผยฤกษ์แต่ง "คิมเบอร์ลี่" สานฝันฝ่ายหญิงจัดงาน 2 ประเทศ

หลังจากที่ขอแฟนสาว "คิมเบอร์ลี่" คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส แต่งงาน เมื่อช่วงเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา ล่าสุดพระเอกชื่อดัง "หมาก ปริญ" เผยว่าขณะนี้ได้ฤกษ์แต่งเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการจัดงานแต่ง 2 ประเทศ

 

 

โดย หมาก ปริญ เผยว่า ตอนนี้ได้ฤกษ์แล้ว จะมีการจัดงานแต่ง 2 งาน คือที่ต่างประเทศและที่ไทย ในช่วงเดือนกันยายน กับ พฤศจิกายนนี้ ที่จะจัดต่างประเทศด้วยนั้นเพราะญาติของคิมเบอร์ลี่ก็อยู่ในแถบนั้นด้วย พองานเสร็จปุ๊บเราก็อาจจะไปเที่ยวต่อด้วย ส่วนจะจัดที่ไหนเดี๋ยวรอดูครับ

 

หมาก เผยต่ออีกว่า เรื่องความพร้อมในการเตรียมงานแต่งก็ลุล่วงไปเยอะแล้วครับ จ่ายเงินไปแล้ว ยกเลิกไม่ได้ด้วย (หัวเราะ) ต่างประเทศเป็นสถานที่ที่จองยากมาก ที่ไม่ได้มาออกอีเวนท์ช่วงนี้ก็เพราะนี่แหละ ทำหลังบ้านอยู่ เตรียมงานอยู่ครับ

 

ถามว่ากังวลอะไรมั้ย จริงๆแล้วก็ไม่มีนะ ผมอะไรก็ได้ แต่ความเป็นผู้หญิงของน้อง (คิมเบอร์ลี่) ผมว่าเขาก็ต้องการให้งานสมบูรณ์ที่สุดในทุกๆด้าน ทั้งการเดินทาง ที่พัก อาหาร ปีนี้ก็คงต้องบินบ่อยมากเพื่อไปดูสถานที่และการเตรียมงาน ถามว่าเราตื่นเต้นมั้ยก็ตื่นเต้น แต่เราก็ให้เขาเป็นคนตัดสินใจ เขาอยากได้อะไรก็ให้เขาดูดีกว่า เพราะเขาตัดสินใจดีกว่าผม

 

 

ส่วนชุดเจ้าสาวมีหลายชุด ชุดเจ้าบ่าวก็ต้องหลายชุดตาม เราจะน้อยหน้ากันไม่ได้ (หัวเราะ) อาจจะไม่ได้เยอะมาก แต่ว่ามันต้องดูดีมาก มันต้องสนุกมาก ชุดได้มาแล้ว แต่ก็ยังอยู่ที่น้องว่าจะเอากี่ชุด แล้วค่อยหาเพิ่ม แต่เรามีลิสต์ไว้แล้ว ตอนนี้มีประมาณ 4 ชุดเอง น้อยมาก เรามี 2 งานไง ช่วงเตรียมงานเราไม่มีทะเลาะกันเลย เพราะผมตามใจเขาทุกอย่าง อย่างที่บอกเขาและเราต้องดูดีที่สุดในวันนั้น

 

"จริงๆคงไม่ต้องมีอะไรมาก เพราะเราสองคนก็ดูแลตัวเองในระดับหนึ่งอยู่แล้ว และพอใกล้ถึงเวลาเราก็ดูแลให้มากขึ้นนิดหน่อยก็พอแล้ว เดี๋ยวต้องบินไปถ่ายพรีเวดดิ้งอีก ขอไม่บอกที่ไหน เพราะเราอยากจะให้มันเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์ด้วย คือคิดไว้เยอะมากเลยว่าจะไปที่ไหน ตอนนี้ก็กำลังเคลียร์งาน เคลียร์ละคร ใกล้จะปิดเดือนมีนาคมนี้แล้ว ส่วนคิมเบอร์ลี่ก็จะปิดกุมภาพันธ์แล้ว หลังจากนั้นก็จะเป็นช่วงที่เราต้องบินไปเตรียมงานและทำหน้าที่ของเรา ปีนี้อาจจะเป็นปีที่ต้องเดินทางบ่อยหน่อย สถานที่นี้คือสิ่งที่เป็นความฝันของคิม และคิมก็เปิดไปเจอและเราก็จองได้ มันเป็นข่าวดีสำหรับเรามากๆ แต่ของจริงยังไม่เคยเห็น เราเลยจะต้องบินไปเจอของจริง ไปจัดการ"