"ไอซ์ อภิษฎา" เปิดใจเคลียร์ทุกประเด็นหลังสาวปริศนาแฉ ยันชัดไม่ใช่เมียน้อย

หลังถูกสาวปริศนาออกมาแฉว่าใช้ "สามี" ร่วมกับตนเอง ล่าสุด "ไอซ์ อภิษฎา" หรือ ไอซ์ อภิษฎา เครือคงคา นักแสดงสุดเซ็กซี่ และว่าที่คุณแม่ป้ายแดง ได้ออกมาชี้แจงเคลียร์ชัดทุกประเด็นถึงเรื่องราวที่ถูกพาดพิง หลังปล่อยให้หลายคนสงสัยมานาน

 

 

โดยนักแสดงสุดเซ็กซี่และว่าที่คุณแม่ป้ายแดง "ไอซ์ อภิษฎา" หรือ ไอซ์ อภิษฎา เครือคงคา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เคลียร์ชัดทุกประเด็นร้อน ทั้งกรณีถูกสาวปริศนาแฉใช้สามีร่วมกัน สาเหตุที่ไม่เปิดตัวสามี รวมถึงอัปเดตเรื่องการตั้งครรภ์

 

ชีวิตตอนนี้เปลี่ยนไป?

 

ไอซ์ อภิษฎา : เราทั้งดีใจ ตกใจ และกลัว เหมือนเรารับผิดชอบอีกชีวิตหนึ่ง มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่เขาอาศัยอยู่ในท้องเรา และเราเป็นคนชอบออกกำลังกาย เป็นคนชอบกินของแซ่บ ก็เลยต้องมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองเยอะ ส่วนน้องก็เป็นลูกสาวค่ะ ตอนแรกมั่นใจว่าได้ลูกผู้ชาย ในใจคนแรกอยากได้เป็นผู้ชายเพราะเรามีพี่ชายให้ปกป้องน้อง แต่พออัลตร้าซาวด์ออกมาได้ลูกสาว บอกเลยคือลูกพ่อแน่นอน ซึ่งไอซ์ก็แพลนไว้ว่าอยากมี 2 คน คุณสามีบอกอยากมี 3 คน เราก็บอกว่าพักก่อน

 

ตอนนี้ใกล้คลอดแล้ว?

 

ไอซ์ อภิษฎา : ใกล้แล้ว คิดว่ามกราคมปีหน้า ส่วนวันยังไม่มีเลย คุณหมอก็พูดว่าฤกษ์หาไปสุดท้ายเด็กก็เลือกวันเอง เพราะเราต้องเช็กอาทิตย์ต่ออาทิตย์

 

คลอดธรรมชาติ?

 

ไอซ์ อภิษฎา : เราอยากให้เขาอยู่ในท้องเรานานที่สุด ถามว่าธรรมชาติไหม ผ่าแหละ เดาเอานะตอนนี้ ตอนแรกคุณหมออยากให้อยู่ใกล้ 39 วีคที่สุด เพราะฉะนั้นเราก็อยากจะเก็บให้ถึงยาวที่สุด ตอนแรกเรามีฤกษ์นึงที่เราอยากได้ แล้วพอถามคุณหมอยังไม่ถึง 38 วีค ก็ให้เขาโตเต็มที่ในท้องเราดีกว่า ก็เลยยังไม่หาฤกษ์ จะคลอดที่ภูเก็ต บ้านที่กรุงเทพฯไม่เสร็จ บ้านที่สร้างให้คุณพ่อคุณแม่ก็ดีเลย์ แล้วเรามีบ้านที่ภูเก็ตด้วย ซึ่งมีก้อย (ก้อย รัชวิน) เลยบอกขอลอกการบ้านหน่อย เขาก็แนะนำคุณหมอ แนะนำคนนวดน้ำนม ขั้นพื้นฐานอย่างน้อยมีก้อยเราก็สบายใจ ก็มีไปปรึกษาโน่นนี่เพราะเราก็ไม่รู้

 

 

 

หลายคนอยากเห็นหน้าสามี?

 

ไอซ์ อภิษฎา : ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเราจะอยากเปิดเมื่อไหร่ เอาจริงๆด้วยความที่ตั้งแต่แรกเรารู้สึกว่าอยากมีพื้นที่ส่วนตัวให้เขา ไม่ได้แอ๊บอะไรนะ แต่รู้สึกว่าอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าโดยส่วนตัวของเรา เราไม่ใช่คนลงรูปโพสต์กับแฟนตั้งแต่อยู่วงการมา 10 กว่าปี อาจจะมีแค่คนนึงเพราะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันมันแยกกันไม่ได้ แต่กับคนอื่นที่เราเป็นแฟนที่คบกันมาไม่ค่อยมีรูปไอซ์กับแฟนเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นสิ่งนี้มันเป็นสิ่งนึงที่มันคือตัวตนของเราด้วย แล้วพอกับเขาก็ไม่ใช่คนที่จะชอบถ่ายรูป แต่เราก็ไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้ปิด ไม่ได้รู้สึกว่าเจอใครแล้วทำเป็นความลับ แต่แค่รู้สึกว่าไม่รู้จะโพสต์อะไร แต่ถ้ามีรูปอะไรพิเศษจริงๆที่อยากลงก็จะลง แต่ตอนนี้ไม่มีรูปที่อยากลง

 

จะลงรูปพ่อแม่ลูกหลังคลอดหรือเปล่า?

 

ไอซ์ อภิษฎา : ก็ต้องดูหน้าเราว่าตอนนั้นเป็นยังไง มันอยู่ในแพ็กเกจของโรงพยาบาลอยู่แล้ว ไอซ์อาจจะไม่แฮปปี้รูปนั้นก็ได้ (หัวเราะ) ก็เลยตอบไม่ได้ หรือรูปนั้นอาจจะมีอยู่แล้วแต่เราไม่อยากโพสต์ก็ได้ ไม่อยากตอบอะไรทั้งนั้น เพราะเราก็ไม่รู้ว่าชีวิตเราจะเป็นยังไง

 

หลายคนบอกว่าถือเคล็ด ไม่กล้าเปิดเรื่องความรัก?

 

ไอซ์ อภิษฎา : ก็อาจจะเป็นเรื่องนั้นด้วยที่เรารู้สึก แต่แรกเลยนะหมอดูทุกคนจะพูดเลยความรักถ้าไม่เปิดเผยจะดีที่สุด แต่เราไม่เป็นเมียน้อยใครนะ แต่ถ้าเปิดจะมีปัญหา เราก็รู้สึกว่าเป็นคำพูดที่ฝังหัวอยู่แล้ว แล้วทุกครั้งที่เปิดก็ชอบมีปัญหา พอเรามานั่งคิดพิจารณาว่าตอนเราอยู่กันสองคนเราไม่มีปัญหา แต่พอมีคนเอาไปทำโน่นนี่ ปัญหาก็มาจากคนอื่นไม่ใช่เรา

 

ดราม่าเจอหลายเรื่องมาก?

 

ไอซ์ อภิษฎา : ตอนนั้นเราคิดแค่ว่าเราอยู่ในยุคที่เราจะต้องใช้สติมากๆในการรับฟังข่าวหรือวิเคราะห์ ในหัวมีอยู่ 2 อย่างว่า เราจะต้องออกมาแก้ข่าวไหม แต่เรารู้สึกว่าถ้าเราออกมาแก้ข่าวก็ถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติตัวเอง ทำไมเราต้องดิ้นรนกับอะไรที่มันไม่ใช่เรื่องเป็นเรื่องที่เราจำเป็นจะต้องออกมาพูด มันไม่จำเป็นทุกคนที่ถ้าไม่ออกมาพูดแปลว่าจริง แต่สำหรับเรา เรามองว่าถ้าออกมาพูดเป็นการไม่ให้เกียรติตัวเองอย่างหนึ่ง อย่าไปเดือดร้อนกับสิ่งที่มันไม่ใช่ เราต้องยืนหยัดหนักแน่นกับความจริงของเรา ถ้าออกมาพูดแล้วเขาเปลี่ยนแอคเคาท์เอาเรื่องอะไรมาพูดอีกก็ต้องออกมาพูดทุกครั้งเหรอ ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ค่ากับอะไรอย่างนี้ แล้วไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นอีกกี่รอบ ไอซ์เลยหนักแน่นและปล่อยผ่าน แล้วมันก็ผ่านไป

 

กระทบจิตใจมากไหม?

 

ไอซ์ อภิษฎา : จะบอกว่าเราโชคดีมากที่เรามีน้องอยู่ในท้อง และเราไม่อยากส่งอารมณ์อะไรที่ไม่ดีไปถึงลูก คุณสามีเขาก็ขอบคุณเราและประทับใจเราที่เราหนักแน่นพอ และเราก็รู้สึกว่าพอมันใช้คำว่าครอบครัว เราไม่จำเป็นที่จะต้องเอาพายุเข้าบ้าน

 

สามีรับรู้ตลอดว่าไอซ์โดนอะไรมาบ้าง?

 

ไอซ์ อภิษฎา : ก็มีคนส่งให้เขาบ้าง แต่อะไรที่เป็นภาษาไทยมากเขาก็ไม่รู้เรื่อง และไอซ์ก็จะไม่ส่งอารมณ์ที่ไม่ดีไปถึงลูก คือไอซ์ว่ามันอยู่ในจังหวะที่เป็นบททดสอบใหญ่ เพราะสมมติเราสติแตกมันก็สามารถเป็นบ้าเป็นบอได้เหมือนกันนะ บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับเรามองว่ามันก็เป็นเรื่องที่ใจร้ายเหมือนกัน ในการที่รู้ว่าผู้หญิงที่กำลังท้องและมาทำอะไรแบบนี้ แต่เราก็เข้าใจเจตนาว่าคนทำคงไม่ได้หวังดีเท่าไหร่ และเราก็จะไม่อนุญาตให้เขาเอาอารมณ์ที่ไม่ดีมาใส่เราได้ ช่วงนั้นก็โชคดีมากที่อยู่ต่างประเทศ เราก็ใช้ชีวิตของเราไป

 

ไม่มีใครบอกให้เรารู้เรื่องนี้ด้วยใช่ไหม?

 

ไอซ์ อภิษฎา : จริง โชคดีมาก เพราะไทม์โซนมันต่างกันมาก แต่ก็มีคนส่งมาให้เรา รู้แหละว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนั้นเราโชคดีที่เราปล่อย อะไรที่มันไม่ใช่ก็อย่าเอาเข้ามา อย่าทำร้ายตัวเอง อย่าทำร้ายครอบครัว อย่าทำร้ายลูกสาว

 

ปล่อยผ่าน?

 

ไอซ์ อภิษฎา : ใช่ รู้สึกว่าเรารู้ว่าอะไรเป็นอะไร และเราก็ถามตัวเองแล้วว่าเราไม่ใช่คนที่ใครก็ได้ วันนี้ที่เราอายุมาถึงขนาดนี้ และเรามีประสบการณ์ชีวิตกับความรัก และรู้ว่าเราเลือกอะไร ในวันที่เราจะมีน้อง พูดเลยว่านี่คือความตั้งใจมากๆ เราไม่ใช่เด็กๆที่จะมาใช้คำว่าพลาดหรืออะไร มันเป็นสิ่งที่เราตั้งใจ แต่อาจจะไม่ใช่ตามสเต็ปทุกคนที่จะต้องจัดงานแต่งงาน แต่เรื่องนั้นสำหรับเราคือเราเองที่ไม่อยาก คือเรารู้สึกว่ามันไม่ได้หมายความว่าอะไรเลยในงานแต่งงาน และเราก็เคยเฉียดๆตรงนั้นมาแล้ว และเราเห็นแล้วว่ามันไม่ได้มีความหมายอะไรที่จะทำให้ชีวิตรักอันนี้มันยืนหยัดมั่นคง เพราะมีภาพงานแต่งงานๆนึง แต่สิ่งที่สำคัญคือต่อจากนี้เราจะใช้ความเป็นครอบครัวของเรายังไงให้มันมีความสุขอยู่ยาวที่สุด

 

สามีอยากมีงานแต่งไหม?

 

ไอซ์ อภิษฎา : เอาจริงๆเขาอยากมี แต่จากที่เขาอยากจัดที่ต่างประเทศอยู่แล้ว และเราก็บอกว่าตั๋วคราวที่แล้วยังมีอยู่เลย ไม่กล้าเชิญใครไปต่างประเทศ (หัวเราะ) เขาก็พูดว่างั้นจัดงานเล็กๆ 30 คน เราก็เลือกไม่ถูก กลุ่มเดียวก็ไม่ได้แล้ว และเราก็เกรงใจเพื่อนว่าจะต้องบินไปต่างประเทศ ช่วงนั้นก็ยังโควิดอยู่ ก็คิดว่าถ้าเรามานั่งรออะไรที่มันตามสเต็ป และคิดว่าตอนนี้ด้วยอายุเราสิ่งสำคัญสุดคือการมีน้อง มันรู้สึกว่าถึงเวลาที่ใช่แล้ว และอยากมีขั้นต่ำ 2 คน อายุก็จะมากขึ้นแล้ว และเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะติดหรือไม่ติด เราก็รู้สึกว่ามันก็เป็นสิ่งที่เสี่ยง เราก็รู้แหละ แต่มันถึงเวลาแล้วที่เราพร้อมที่จะเสี่ยง เพราะเรามีครอบครัว

 

ให้คะแนนตัวเองเท่าไหร่กับความเป็นคุณแม่มือใหม่?

 

ไอซ์ อภิษฎา : ไม่กล้าให้เต็มร้อยเลย (หัวเราะ) คือตอนนั้นให้ตัวเองว่าเราต้องไปบอกแฟนด้วยซ้ำว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวพวกนี้แป๊บเดียวเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร ความสุขฉัน เรารู้อะไรเป็นอะไรก่อนที่ฉันจะเลือกเธอฉันรู้ทุกอย่างแล้ว เขาก็รู้จักเรา ทุกคนมีอดีตแล้วเราก็รู้สึกว่า เฮ้ย มันเป็นเรื่องที่เราเลือกฝรั่ง เพราะอะไรรู้ไหม เพราะเรารู้สึกว่าเขาไม่ยุ่งวุ่นวายกับเรื่องอดีตของเรา แล้วเราก็จะไม่ยุ่ง เราอยู่ปัจจุบัน และเรารู้สึกว่าจากที่เราปฏิบัติก็ดูกันที่ปัจจุบันดีกว่า ก็ให้คะแนนตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์ (หัวเราะ)

 

สามีเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 5 ของฝรั่งเศส?

 

ไอซ์ อภิษฎา : โอ๊ย อันดับ 5 ประเทศ ไม่ขนาดนั้นหรอก แต่เขามาจากครอบครัวมีเงินไหม เขาก็มาจากครอบครัวมีเงิน แล้วธุรกิจจากครอบครัวก็คือธุรกิจจะ 100 ปีแล้ว บางทีที่มาที่ไปที่เขาเขียนพยายามโจมตีว่าทำธุรกิจไม่ดีหรือมาจากอะไร คือเรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขานะ เขาบอกว่าเขาอยากปกป้องตัวเอง แต่ไอซ์ก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเรื่องพวกนี้ก็ผ่านไป คนที่เขาไม่เชื่อเขาก็ไม่เชื่อ เพราะถ้าเขาไปหานามสกุลดูก็จะรู้ว่ามันมีบริษัทอะไรที่เป็นเกี่ยวกับธุรกิจครอบครัวมา 100 ปีอยู่แล้ว

 

ถูกจับตามองตลอดเวลา?

 

ไอซ์ อภิษฎา : ไอซ์ไม่โทษเขา ไอซ์รู้สึกว่ามันเป็นดวงของไอซ์อีกแล้วที่เราต้องมาเจออะไรแบบนี้ ครั้งที่แล้วก็สงสารทุกคนที่เข้ามายุ่งกับเราเหมือนกัน แล้วเขาต้องเจออะไรแบบนี้ เราก็รู้สึกว่าเราเข้มแข็งพอ แต่คนอื่นที่เขาไม่ได้อยู่จุดเรา เขาไม่มีประสบการณ์แบบเรามา 10 ปี มันก็ลำบากสำหรับเขาเหมือนนะ

 

แหวนที่นิ้ววงใหญ่มาก?

 

ไอซ์ อภิษฎา : แหวนหมั้น (ยิ้ม) เอาจริงๆนะตั้งแต่วันนั้นที่บอกเขา เขาถามว่าถ้าแต่งงานเธออยากได้แบบไหน จัดงานที่ไหน อะไรยังไง เราก็บอกเอาเงินที่จะทำทั้งหมดมาที่แหวน เอาจริงๆเรารู้สึกว่างานแต่งงานเป็นวันเดียวแล้วมันก็จบ แต่อันนี้มันอยู่กับเราตลอด วันนั้นพูดเล่นๆ แล้วเขาก็ถามสนใจอะไร หลังจากนั้นสิ่งที่เขาหามาก็รู้สึกว่าเขาตั้งใจแล้วเขาพยายามหาดีที่สุดเท่าที่เขาหาได้ ส่วนกี่กะรัตไม่บอกแล้วกัน (ยิ้ม) แต่เขาหาสิ่งที่ไอซ์รู้สึกเห็นความตั้งใจแล้วนอกเหนือจากสิ่งที่มันจะต้องเป็นไซส์หรืออะไรที่ทุกคนสนใจ แต่เราสนใจว่าเขาพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดให้เรา ก็ใส่ติดตัวตลอด

 

ชอบในความใส่ใจของสามี?

 

ไอซ์ อภิษฎา : คือไอซ์รู้สึกว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องที่เราเห็นว่าสำหรับเรามันดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว มันดีที่สุดเท่าที่เขาหาให้ได้แล้ว แล้วก็พอใจแล้ว

 

สามีที่ดี?

 

ไอซ์ อภิษฎา : คือจริงๆเรื่องนี้ที่ไอซ์เลือกเขานะคะ ไอซ์คิดว่าเราเห็นข้อดีของเขา ซึ่งเรื่องแบบนี้คนก็ไม่ได้มองเหมือนไอซ์กันทุกคน อย่างเรามองเขา เรามองเห็นข้อดีของเขา แล้วไอซ์รู้จากประสบการณ์ในชีวิตว่าไอซ์อยากได้คนนั้นเป็นสามี แล้วไอซ์เห็นคุณสมบัตินั้น ไอซ์ก็เลยเลือกเขา (ยิ้ม)