"บิ๊กซี โสตศิลป์ สืบสาน ดนตรีไทย” เวทีคุณภาพของเยาวชนที่มีฝัน

“มันเป็นความโชคดีของบ้านเราที่มีพิณอีสาน ซึ่งเสียงของมันเล่นแล้วเปิง แล้วยังสามารถเข้ากับดนตรีสากลได้ง่าย เบลนเข้ากับโลกได้ง่ายมาก อยากให้น้องหา Distortion ซักตัวหนึ่งมาเพิ่มความหลากหลายให้กับการแสดง”

“อยากให้ฟังเพลงเยอะๆ หลากหลายแนว แล้วหัดเล่นเปียโน หัดแต่งเพลง มันจะช่วยเปิดอีกมุมมองหนึ่งของเราเลย เปิดโลกให้กว้าง ดนตรีไทยยังทำอะไรได้อีกเยอะ เรามีสกิลอยู่แล้ว แค่พยายามทำสกิลนี้ให้เป็นสากลมากยิ่งขึ้น”

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำแนะนำอันมีค่าที่คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีให้แก่เยาวชนที่เข้าร่วมการแข่งขันในโครงการ“บิ๊กซี โสตศิลป์ สืบสาน ดนตรีไทย”ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 24 กันยายน 2565 ณ ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี สาขาบางนา เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงความสามารถด้านดนตรีไทยอย่างสร้างสรรค์และสืบสานเอกลักษณ์ความเป็นไทยไปพร้อม ๆ กัน 

เปิดพื้นที่ดนตรีไทย

ท่ามกลางยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปสู่ความไฮเทค ความทันสมัย และการเข้ามาของวัฒนธรรมต่างชาติ โดยเฉพาะในเรื่องของดนตรีที่ต้องยอมรับว่า “ดนตรีไทยพื้นบ้าน” ยังไม่มีพื้นที่ให้ยืนในระดับสากลหรือแม้แต่ในบ้านเราเองมากนัก

ดังนั้นโครงการ “บิ๊กซี โสตศิลป์ สืบสาน ดนตรีไทย” จึงถือเป็นเวทีที่ทรงคุณค่ายิ่งเพราะนอกจากจะเปิดโอกาสให้เยาวชนทั่วประเทศได้ประชันฝีมือ และความคิดสร้างสรรค์กันอย่างเต็มที่แล้ว พวกเขายังมีโอกาสได้รับคำชี้แนะจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งนำประสบการณ์จริงที่พบเจอมาจากการเล่นดนตรีไทยทั้งในระดับประเทศและระดับสากล มาบอกกล่าวกับเด็กๆ

 

อัศวิน - ฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการ “บิ๊กซี โสตศิลป์ สืบสาน ดนตรีไทย” เอาไว้ว่า

“บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ได้ดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญในการฟื้นฟู เผยแพร่ และสืบสานคุณค่าความหลากหลายของศิลปะและวัฒนธรรม ทั้งที่เป็นวิถีชีวิต ค่านิยม และความเป็นไทย จึงจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสนับสนุนและสืบสานวัฒนธรรมไทย ภายใต้โครงการ “บิ๊กซี โสตศิลป์ สืบสาน ดนตรีไทย”

บิ๊กซีเปิดเวทีแข่งขันดนตรีไทยครั้งแรก

ที่สำคัญคือ การแข่งขันในปี 2565 นี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการรวมตัวเครื่องดนตรีพื้นบ้านของไทยเอาไว้หลากหลายชนิดมากที่สุด ครบทั้งเครื่องดนตรีประเภทดีด สี ตี เป่า นอกจากนี้ผู้ที่ชนะการแข่งขันจะได้บันทึกเสียงเพลงปีใหม่ สงกรานต์ และลอยกระทง เพื่อนำไปเปิดประชาสัมพันธ์ตามเทศกาลภายในบิ๊กซีทุกสาขาอีกด้วย”

โครงการ “บิ๊กซี โสตศิลป์ สืบสาน ดนตรีไทย” เปิดรับเยาวชนไทยอายุตั้งแต่ 6 -19 ปีซึ่งมีผู้สนใจสมัครจากทั่วประเทศกว่า 500 ทีม โดยมีผลงานที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศรวม 70 ราย (ประเภทเดี่ยว 370 คน ประเภทคู่ 87 ทีม) แบ่งเป็นรุ่นอายุ 6-12 ปี จำนวน 27 ราย และรุ่นอายุ 13-19 ปี จำนวน 43 ราย

โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้เกียรติร่วมตัดสิน รวม 6 ท่าน ประกอบด้วย

-อาจารย์อานันท์ นาคคง ศิลปินศิลปาธร ประจำปี 2564 สาขาดนตรี ผู้เชี่ยวชาญด้านมนุษยวิทยาดนตรีและมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเครื่องดนตรีพื้นบ้านชาติพันธุ์ ทั้งเครื่องดนตรีของไทยและต่างประเทศ

-อาจารย์ชัยภัค ภัทรจินดา ศิลปินศิลปาธร ประจำปี 2565 สาขาดนตรี ผู้มีพรสวรรค์ในระดับแนวหน้าของประเทศไทย สามารถบรรเลงดนตรีไทยในหลากหลายเครื่องดนตรีทั้ง ดีด สี ตีและเป่า นอกจากนี้ ยังเป็นนักประพันธ์เพลงไทยเดิมและเพลงไทยร่วมสมัยกว่า 100 บทเพลง

-ดร.ยศ วณีสอน นักคลาริเน็ตระดับแนวหน้าของประเทศ ที่มีประสบการณ์แสดงดนตรีร่วมกับศิลปินในเวทีระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญด้านการบรรเลงดนตรีคลาสสิกและการประพันธ์เพลงในหลากหลายรูปแบบ

-ว่าที่ร้อยตรี กามเทพ ธีรเลิศรัตน์ ครูและศิลปินดนตรีไทยร่วมสมัยที่มีผลงานการสนับสนุนเยาวชนรุ่นใหม่ออกไปประชันฝีมือบนเวทีโลกและมีประสบการณ์เวทีประกวดดนตรีไทยมากว่า 20 ปี

-นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจากโก้ มิสเตอร์แซกแมน หรือเศกพล อุ่นสำราญ นักดนตรีที่หลงใหลความเป็นไทย นักประพันธ์เพลงและนักแซกโซโฟนผู้นำพาความเป็นไทยไปสู่เวทีสากล

และ เก่ง เดอะ วอยซ์- ธชย ประทุมวรรณ ศิลปินที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยร่วมสมัยที่โดดเด่นทั้งเวทีในประเทศและต่างประเทศ มีความสามารถทั้งร้องและเล่นดนตรีไทยที่เป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง

ความเห็นกรรมการตัดสินดนตรีไทย

เก่งเดอะ วอยซ์ - ธชย ประทุมวรรณ หนึ่งในคณะกรรมการ กล่าวถึงเวทีนี้เอาไว้ว่า “รู้สึกภาคภูมิใจกับการประกวด โครงการ “บิ๊กซี โสตศิลป์ สืบสาน ดนตรีไทย” ที่ได้เห็นเยาวชนร่วมสืบสานอนุรักษ์ดนตรีไทยอย่างสร้างสรรค์”

ว่าที่ร้อยตรี กามเทพ ธีรเลิศรัตน์ (ตัวแทนอาจารย์ผู้สอนดนตรีไทย)กล่าวเสริมว่า “เด็กต้องการความโปร่งใสในการตัดสิน ต้องการทราบเหตุผลว่าทำไมถึงแพ้หรือชนะอย่างไร จึงรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเชิญมาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการการตัดสินการประกวดในวันนี้”

ขณะที่ ด.ญ. กิรณา ลี อายุ 14 ปี ผู้เข้าประกวดเครื่องดนตรีประเภทดีด บรรเลงพิณเปี๊ยะ 4 สาย ได้ถ่ายทอดมุมมองในฐานะของผู้เข้าแข่งขันที่มีต่อเวทีนี้ให้ฟังว่า

“หนูรู้สึกดีใจมากที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้เวทีนี้มีจุดเด่นคือไม่จำกัดประเภทเครื่องดนตรี ทำนอง และอยากให้มีการประกวดแบบนี้ต่อเนื่องทุกปี และเชื่อว่าจะเป็นก้าวที่สำคัญที่ช่วยพัฒนาไปอีกก้าว ซึ่งการแสดงดนตรีไทยเป็นความฝันของหนู อีกทั้งการเล่นดนตรี ทำให้หนูได้ส่งมอบความสุข ให้กับผู้ชมการแสดง”

รางวัลโครงการดนตรี“บิ๊กซี”

สำหรับรางวัลประกอบด้วย ประเภทเดี่ยวและประเภทคู่ รุ่นอายุ 6-12 ปีและรุ่นอายุ 13-19 ปี

-รางวัลชนะเลิศ : ประเภทเดี่ยว

รุ่นอายุ 6-12 ปี และรุ่นอายุ 13-19 ปี แยกเป็นหมวดเครื่องดนตรี ดีด สี ตีและเป่า รับโล่รางวัล ทุนการศึกษาหมวดดนตรีละ 10,000 บาท เกียรติบัตร พร้อมบันทึกเสียงเพลงบรรเลงเพื่อเปิดประชาสัมพันธ์ภายในบิ๊กซีทุกสาขา

-รางวัลชนะเลิศ : ประเภทคู่

รุ่นอายุ 6-12 ปี และรุ่นอายุ 13-19 ปี รับโล่รางวัล ทุนการศึกษา 15,000 บาท เกียรติบัตร พร้อมบันทึกเสียงเพลงบรรเลงเพื่อเปิดประชาสัมพันธ์ภายในบิ๊กซีทุกสาขา

-รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 และรองชนะเลิศ อันดับ 2 ประเภทเดี่ยว

รุ่นอายุ 6-12 ปี และรุ่นอายุ 13-19 ปี แยกเป็นหมวดเครื่องดนตรี ดีด สี ตีและเป่า รับทุนการศึกษา 7,000 บาท และ 5,000 บาท ตามลำดับ พร้อมเกียรติบัตร

-รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 และรองชนะเลิศ อันดับ 2 ประเภทคู่

รุ่นอายุ 6-12 ปี และรุ่นอายุ 13-19 ปี รับทุนการศึกษา 10,000 บาท และ 7,000 บาท ตามลำดับ พร้อมเกียรติบัตร

-รางวัลขวัญใจกรรมการ : สำหรับประเภทเดี่ยวและประเภทคู่

รุ่นอายุ 6-12 ปี และรุ่นอายุ 13-19 ปี รับทุนการศึกษา รางวัลละ 3,000 บาทเกียรติบัตร : สำหรับผู้เข้ารอบโดยแบ่งเป็นระดับผู้ได้รับคะแนนในเกณฑ์ระดับเหรียญทอง เงินและทองแดง รวมถึงมอบให้ครูผู้สอนอีกด้วย