เบื้องหลัง 'มงฟ้า' โอปอล สุชาตา Miss World 2025 ความหมายเกินต้าน

จูเลีย มอร์ลีย์ ซีอีโอมิสเวิลด์ เผยความหมายเบื้องหลัง "มงฟ้า" The Blue Crown มงกุฎ Miss World 2025 ซึ่ง โอปอล สุชาตา คว้ามาครองสำเร็จ ฝีมือช่างอัญมณีหลวงราชวงศ์อังกฤษ
KEY
POINTS
- มงกุฎ Miss World ที่เรียกว่า The Blue Crown (มงกุฎสีฟ้า) สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษโดยช่างอัญมณีหลวงในลอนดอน หรือช่างอัญมณีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 (Queen's Jewelers)
- มงกุฎนี้เดินทางไปทุกที่ในกระเป๋าพิเศษเฉพาะ และต้องนำขึ้นเครื่องบินไปด้วย บางครั้งอาจมีปัญหาที่สนามบินเพราะเจ้าหน้าที่อาจสงสัยว่ากำลังขโมยเครื่องเพชรของราชวงศ์
- The Blue Crown เป็นสัญลักษณ์ของการระดมทุน เงินทั้งหมดที่ได้จะมอบให้กับเด็กๆ โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ
- ผู้ครองตำแหน่ง Miss World จะสวมมงกุฎนี้เป็นเวลาหนึ่งปี และต้องคืนมงกุฎ ไม่มีการมอบให้เป็นการถาวร มงกุฎจะได้รับการเก็บรักษาไว้สำหรับผู้ชนะคนต่อไป
สร้างความสุขใจให้คนไทยและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยไปทั่วโลกเมื่อ โอปอล สุชาตา ช่วงศรี สร้างประวัติศาสตร์เป็นสาวงามตัวแทนประเทศไทยคนแรกที่สามารถ คว้ามงกุฎ Miss World จากการประกวด Miss World 2025 รอบชิงชนะเลิศซึ่งจัดขึ้นที่เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย เมื่อค่ำคืนวันที่ 31 พ.ค.2568
โอปอล สุชาตา เป็นสาวไทยคนแรกในรอบ 57 ปีที่สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์สำเร็จนับตั้งแต่ประเทศไทยส่งตัวแทนสาวงามเข้าประกวด Miss World ครั้งแรกเมื่อปีค.ศ.1968
วินาทีที่ คริสตีนา ปิสโควา (Krystyna Pyszková) สาวงามจากสาธารณรัฐเช็กผู้ครองตำแหน่งมิสเวิลด์ 2024 ใช้สองมือยกมงกุฎมิสเวิลด์ขึ้นจากศีรษะตนเองแล้วประคองวางลงบนศีรษะ โอปอล สุชาตา มิสเวิลด์ 2025 ทำให้ผู้เฝ้าชมการประกวดประจักษ์ถึงความสวยงามแปลกตาของ มงกุฎมิสเวิลด์ อย่างชัดเจน
ประวัติเวทีการประกวดมิสเวิลด์
มิสเวิลด์ (Miss World) เป็นการประกวดความงามระดับนานาชาติที่มีความเป็นมายาวนาน เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร ริเริ่มขึ้นในปี 1951 โดย อีริค มอร์ลีย์ (Eric Morley) ผู้จัดรายการโทรทัศน์ในประเทศอังกฤษ
หลังจากอีริคเสียชีวิตในปี 2000 ภรรยาของเขา จูเลีย มอร์ลีย์ (Julia Morley) ได้ร่วมเป็นประธานในการประกวดนี้จนถึงปัจจุบัน
ใครเคยเห็นคลิป คุณปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก เฉลยเหตุผลทำไมจึงแต่งตั้ง โอปอล สุชาตา เป็นมิสเวิลด์ไทยแลนด์เพื่อเข้าประกวดมิสเวิลด์ 2025 แบบเร่งด่วน แล้วเอ่ยถึง “ป้าจู” ก็คือ จูเลีย มอร์ลีย์ คนนี้นั่นเอง
ในปี 1951 เอริค มอร์ลีย์ จัดการแข่งขันบิกินี่เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลอง Festival of Britain (เทศกาลของอังกฤษ) ซึ่งเขาเรียกการแข่งขันนี้ว่า Festival Bikini Contest (เทศกาลการแข่งขันบิกินี่) ได้รับความนิยมจากสื่อมวลชนซึ่งพากันเรียกการแข่งขันนี้ด้วยคำใหม่ว่า "มิสเวิลด์"
จริงๆ การแข่งขันนี้มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมบิกินี่ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวในตลาดและยังถือว่าเป็นของใหม่และค่อนข้างไม่เหมาะสมในช่วงเวลานั้น
เดิมการประกวดถูกวางแผนให้เป็นกิจกรรมสำหรับ Festival of Britain แต่มอร์ลีย์ตัดสินใจที่จะทำให้การประกวดเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เขาจึงจดทะเบียนชื่อ Miss World เป็นเครื่องหมายการค้า ในฐานะการประกวดความงามและกลายเป็นกิจกรรมระดับนานาชาติประจำปีอย่างรวดเร็ว
การประกวดมิสเวิลด์ได้รับความนิยมมากขึ้นในศตวรรษที่ 20 แม้จะเผชิญกับการวิจารณ์และข้อถกเถียง โดยเฉพาะจากกลุ่มสตรีนิยม
ปลายศตวรรษที่ 20 การประกวดมิสเวิลด์ได้ขยายไปทั่วโลกพร้อมกับแนะนำโครงการ Beauty With a Purpose (ความงามที่มีจุดประสงค์) เพื่อมุ่งเน้นไปที่งานการกุศลของผู้เข้าประกวด
การประกวด Miss World ยุคปัจจุบัน ได้เห็นความพยายามในการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของมิสเวิลด์ให้เป็นการ เสริมพลังให้กับผู้หญิง โดยเน้นที่ความสำเร็จส่วนบุคคลและการมีส่วนร่วมทางสังคมมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก
ปัจจุบัน มิสเวิลด์คือหนึ่งในการประกวดความงามที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด โดยส่งเสริมการแสดงออกที่หลากหลายของความงามและสาเหตุด้านมนุษยธรรม
มงฟ้า หรือ มงกุฎสีฟ้า
มงกุฎประจำการประกวดมิสเวิลด์มีชื่อเป็นทางการว่า The Blue Crown หรือ มงกุฎสีฟ้า หรือที่สื่อออนไลน์ไทยเรียกกันสั้นๆ ว่า “มงฟ้า”
ตามประวัติพบว่าผู้ครองตำแหน่งมิสเวิลด์ตั้งแต่ปี 1951-1954 ยังไม่มีใครได้สวมมงกุฎ จนกระทั่งการประกวดปี 1955 สาวงามผู้ชนะเลิศจึงได้สวมมงกุฎเป็นครั้งแรก
นับตั้งแต่การประกวดปี 1955 ถึงปี 1971 มงกุฎมิสเวิลด์เปลี่ยนดีไซน์ไปแล้ว 6 ครั้ง กระทั่งปี 1972 จึงปรากฎ ‘มงกุฎสีฟ้า’ หรือ The Blue Crown ขึ้นเป็นครั้งแรก แต่ใช้อยู่เพียงปีเดียว เพราะปีรุ่งขึ้นจนถึงปี 1978 มิสเวิลด์เปลี่ยนดีไซน์มงกุฎอีก 3 ครั้ง
ปี 1979 มงกุฎมิสเวิลด์เปลี่ยนดีไซน์อีกครั้ง ผู้จัดการประกวดฯ ได้เลือกนำมงกุฎ The Blue Crown ที่ใช้ในการประกวดปี 1972 หรือ ‘มงฟ้า’ กลับมาใช้ใหม่จนถึงการประกวดครั้งล่าสุดปี 2025 ซึ่งได้รับการสวมลงบนศีรษะ โอปอล สุชาตา ตัวแทนสาวงามผู้เข้าประกวดจากประเทศไทยผู้คว้าตำแหน่ง Miss World 2025
“มงกุฎนี้สร้างขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษโดยช่างอัญมณีหลวงในกรุงลอนดอน เรียกว่า The Blue Crown เป็นมงกุฎที่มีเอกลักษณ์และพิเศษมาก จนไม่สามารถประเมินค่าหรือซื้อได้” จูเลีย มอร์ลีย์ ซีอีโอของมิสเวิลด์ ให้สัมภาษณ์กับ The New Indian Express
“ช่างอัญมณีที่ทำมงกุฎนี้คือผู้ทำเครื่องประดับให้กับบุคคลสำคัญในราชวงศ์และเครื่องประดับสำคัญระดับโลกหลายชิ้น พวกเขาใช้เวลาอย่างมากในการคิดและสร้างสรรค์”
ขณะที่อีกคลิป เสียงผู้บรรยายใช้คำว่า Queen’s Jewelers จึงหมายถึงช่างอัญมณีประจำพระองค์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งในปี 1972 พระองค์ยังคงครองสิริราชสมบัติ
จูเลียเล่าด้วยว่า มงกุฎสีฟ้าต้องเดินทางไปทุกที่ในกระเป๋าพิเศษเฉพาะ และต้องนำขึ้นเครื่องบินไปด้วย
“มีปัญหาเรื่องการนำออกนอกประเทศบ้าง เพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่ที่สนามบินอาจสงสัยว่าคุณกำลังขโมยเครื่องเพชรของราชวงศ์ (crown jewels) หรือไม่ แต่ในลอนดอนเริ่มมีความเข้าใจแล้ว”
The Blue Crown เป็นมงกุฎที่สวยงามทั้งภายนอกและมีความหมายอย่างยิ่ง เพราะเป็นสัญลักษณ์ของการระดมทุนเพื่อการกุศล
“ผู้ครองตำแหน่งมิสเวิลด์มักได้รับการเชิญไปร่วมงานการกุศลในประเทศต่างๆ โดยมีการแสดงแฟชั่น และในตอนท้ายผู้ครองตำแหน่งจะสวมมงกุฎนี้ขึ้นมา การปรากฏตัวพร้อมมงกุฎนี้ช่วยระดมเงินจำนวนมากสำหรับเด็กๆ เงินทั้งหมดที่ได้จากการระดมทุนนี้จะมอบให้กับเด็กๆ โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ◦ดังนั้น มงกุฎนี้จึงสร้างขึ้นด้วยเหตุผลที่อบอุ่น ซาบซึ้ง และพิเศษ” จูเลีย กล่าว
มงกุฎสีฟ้าประดับด้วยอัญมณีประเภทไพลิน เทอควอยช์ เพชร ทองคำ คริสตัล และกำมะหยี่ โครงสร้างรูปข้าวหลามตัด (diamond) 6 ชิ้นรอบมงกุฎคือตัวแทนทวีปต่างๆ ของโลกและการมาสมาคมกันเพื่อวัตถุประสงค์ทางสังคมตามความหมาย Beauty With a Purpose
“ผู้ครองตำแหน่ง Miss World จะสวมมงกุฎนี้เป็นเวลาหนึ่งปี และต้องคืนมงกุฎ ไม่มีการมอบมงกุฎนี้ให้เป็นการถาวร มงกุฎนี้จะได้รับการเก็บรักษาไว้สำหรับผู้ชนะคนต่อไป ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มงกุฎนี้มีส่วนรับผิดชอบในสิ่งดีๆ มากมาย” จูเลีย กล่าว
ภาพ - อ้างอิง







