INGU เผย 5 กลยุทธ์ สร้าง Brand Love ครองใจคนไทย ตั้งเป้าสู่ตลาดต่างประเทศ

INGU เผย 5 กลยุทธ์ สร้าง Brand Love ครองใจคนไทย ตั้งเป้าสู่ตลาดต่างประเทศ

"INGU" อิงกุ เผย 5 กลยุทธ์ สร้าง Brand Love ครองใจคนไทย เร่งสปีดการเติบโต ขยายฐานลูกค้าใหม่ ตั้งเป้าสู่ตลาดต่างประเทศ ภายในปี 2567

คุณอิ๊ง ชยธร กิติยาดิศัย (Head of Product Department) หรือ “Ingck” พลิกหลังกล่อง และพี่ชาย คุณธัช-กีรธัช กิติยาดิศัย (Managing Director) นำแบรนด์ "INGU" อิงกุ ต่อยอดธุรกิจสร้างแบรนด์ของตัวเองสู่ความสำเร็จที่มากกว่า กวาดรายได้ยอดขายทะลุ 100 ล้านบาท เพียง 6 เดือนภายในปี 2566 พร้อมตั้งเป้าดันยอดขายเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า เตรียมเดินหน้าสู่ตลาดต่างประเทศแบบเต็มตัวภายในปี 2567 จ่อตีตลาดสกินแคร์และเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทั้ง Existing Customer และ Potential Customer ทั่วทั้งประเทศ

เพื่อให้แบรนด์สามารถสร้างประสบการณ์ให้แก่ลูกค้าได้ครบทุกจุดสัมผัส ภายใต้แนวคิด Business Core Value 5 ข้อหลักการสร้างแบรนด์ของ INGU เพราะตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา INGU ไม่ได้ทำแค่เรื่องของกลยุทธ์การตลาด แต่ได้เข้าใจใน Insight ของลูกค้าอย่างแท้จริง พร้อมตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ ที่เน้นความต้องการพื้นฐานของผิวมากกว่าการทำการตลาด พร้อมงานวิจัยรองรับจากทั่วโลก จนทำให้แบรนด์ได้รับรางวัลในหมวด “ผลิตภัณฑ์สกินแคร์” ไปถึง 2 รางวัลภายในปี 2566 คือ THE BEST MOISTURIZER FOR SENSITIVE SKIN จาก HELLO! Beauty Awards 2023 และ Best of MOISTURIZING CREAM จากสุดสัปดาห์ Beauty Awards 2023 เพราะเชื่อเสมอว่าคนไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากแบรนด์สกินแคร์สัญชาติไทย

INGU เผย 5 กลยุทธ์ สร้าง Brand Love ครองใจคนไทย ตั้งเป้าสู่ตลาดต่างประเทศ

คุณชยธร กิติยาดิศัย กล่าวว่า แบรนด์ INGU เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2565 ที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นจากการทำตลาดออนไลน์ จนเริ่มขยายธุรกิจผ่านช่องทางต่างๆ เพราะเราเชื่อว่าสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ นอกจากความจริงใจที่เน้นการทำเพื่อผลประโยชน์ของผู้บริโภค ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เข้าใจ Insight ของกลุ่มเป้าหมายแล้ว การมีพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่ดีก็มีส่วนช่วยให้แบรนด์เติบโตอย่างก้าวกระโดด และประสบความสำเร็จตามเป้าหมายได้ เพราะเมื่อต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ได้มีการขยายช่องทางการขายในรูปแบบออฟไลน์เปิดช็อป Physical Store ไปตามสาขาต่างๆที่ร้าน EVEANDBOY ทั่วประเทศ, Beautrium พร้อมเดินหน้าขยายอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เพื่อนำเสนอ Brand Experience ชูจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ สร้างความเชื่อมั่นต่อคุณภาพสินค้าให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น

ซึ่งในปัจจุบัน INGU มีการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์เป็น 5 ประเภท ทั้ง Essential Series, Supplement Series, Lip Care Products, Skin Accessories และ Body Series ครอบคลุมทั้งผิวหน้าและผิวกาย ทางแบรนด์มีแผนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยภายในปี 2567 มีแผนในการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมอัพเดทสูตรใหม่เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคด้าน Wellness นอกเหนือจากสกินแคร์ เพราะเราต้องการจะสร้างพื้นฐาน Healthy Lifestyle และตั้งใจที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดหย่อน

INGU เผย 5 กลยุทธ์ สร้าง Brand Love ครองใจคนไทย ตั้งเป้าสู่ตลาดต่างประเทศ

ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี จุดเด่นหรือความสำเร็จของแบรนด์ INGU ที่ผ่านมา คือการนำเสนอด้วย “Facts without Fear” ใช้ความจริง ไม่ใช่การโฆษณาแบบเกินจริง แต่บอกให้คำแนะนำช่วยเหลือมากกว่า ช่วยลูกค้าทำความเข้าใจ ให้ข้อมูลกับลูกค้าลองพิจารณาถึงความจำเป็นในการเลือกใช้ด้วยตัวของพวกเขาเอง ซึ่งได้ผลมากและลูกค้าจำได้ถึงความจริงใจนี้ ส่งผลให้ยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้นและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้ามีการแชร์ประสบการณ์จากผู้ใช้จริงบนโซเชียลมีเดีย มีการกลับมาซื้อสินค้าซ้ำนี่คือการตลาดสู่ผู้บริโภคที่ยั่งยืนที่สุด

นอกจากนี้ยังคงเน้นย้ำถึงกลยุทธ์ของแบรนด์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการดำเนินธุรกิจ คือ Business Core Value 5 ข้อ ได้แก่ 1. Simplicity สกินแคร์ที่ดีจะต้องมีความเรียบง่าย และมีส่วนผสมจำเป็นต่อผิวเท่านั้น  2. Transparent Science การพัฒนาสูตรโดยใช้งานวิจัยคุณภาพและวิทยาศาสตร์ที่ดีเป็นตัวตั้งต้นเสมอ 3. Empower Local Producers เลือกใช้สารสกัดท้องถิ่นเข้ามาเป็นส่วนผสม และการให้ลูกค้าได้ใช้สารสกัดที่ดี 4. Realistically Sustainable ทุกบรรจุภัณฑ์ของ INGU จะใช้วัสดุรีไซเคิล รังสรรค์ผลิตภัณฑ์จากแนวคิด PCR (Post-Consumer Recycled) เพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยลดการสร้างพลาสติกใหม่และใช้ซ้ำอย่างยั่งยืน 5. Facts without Fear การสื่อถึงความจริงใจ ไม่ใช้คำเคลมเกินจริงเพื่อโน้มน้าวใจ มีการให้ความรู้และความเข้าใจถึงผลลัพธ์ของสกินแคร์อย่างแท้จริง

INGU เผย 5 กลยุทธ์ สร้าง Brand Love ครองใจคนไทย ตั้งเป้าสู่ตลาดต่างประเทศ

คุณกีรธัช กิติยาดิศัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทั้งนี้สำหรับตลาดกลุ่มลูกค้าของ INGU ในปัจจุบัน มีลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น ได้รับการยอมรับจากทุกเพศ ทุกวัย กับราคาที่จับต้องได้ ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงแบรนด์ได้ง่าย ทางแบรนด์จึงเล็งเห็นถึงโอกาสที่จะขยายช่องทางการขายให้มากขึ้น และเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออนไลน์ หรือหน้าร้านก็ตาม และต้องบอกว่าปัจจุบันผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยฉลาดเลือกมากขึ้น มีการค้นหาข้อมูล อ่านรีเสิร์จ ดูรีวิว ก่อนตัดสินใจซื้อจริง ซึ่งตรงกับ Passion ของแบรนด์อยู่แล้ว เพราะแบรนด์เน้นให้ความรู้กับผู้บริโภคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ในมุมมองส่วนผสมในสกินแคร์ที่สามารถเลือกใช้ว่าอะไรเหมาะสมกับตัวเองจริงๆ ทำเรื่องสกินแคร์เป็นเรื่องง่าย มากกว่าการทำการตลาดแบบพูดแต่ข้อดีสินค้า โดยไม่ได้คำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคจริงๆ ในฐานะของคนทำแบรนด์จึงอยากจะฝากเรื่องนี้ไว้