แบรนด์ ‘Rare Beauty’ ของ ‘Selena Gomez’ กวาดรายได้ต่อปีกว่า 70 ล้านดอลลาร์

แบรนด์ ‘Rare Beauty’ ของ ‘Selena Gomez’ กวาดรายได้ต่อปีกว่า 70 ล้านดอลลาร์

นอกจากวงการบันเทิงแล้ว “Selena Gomez” ก็ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจเช่นกัน เพราะแบรนด์ “Rare Beauty” สามารถสร้างรายได้ปีละ 70 ล้านดอลลาร์ หลังเปิดตัวเพียง 2 ปีกว่า

Key Points:

  • เครื่องสำอาง “Rare Beauty” ของศิลปินสาว “Selena Gomez”  สร้างรายได้จากการขายต่อปีได้มากถึง 70 ล้านดอลลาร์ แม้จะเปิดตัวได้ไม่นาน
  • หัวใจสำคัญของแบรนด์เน้นให้ผู้บริโภคมองเห็นความงามที่แท้จริงของตัวเอง และใส่ใจปัญหาสุขภาพจิต
  • การตลาดที่สำคัญของ Rare Beauty คือการโปรโมตผ่านโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ TikTok และบัญชี Instagram

เป็นที่รู้จักในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนานสำหรับ “Selena Gomez” หรือ เซเลนา โกเมซ ที่เริ่มเข้าสู่วงการด้วยการเป็นนักแสดงเด็กของซีรีส์เด็กชื่อดัง “Barney & Friends” และรายการสำหรับเด็กจากค่ายดังอย่าง Disney (ดิสนีย์)

นอกจากชื่อเสียงในฐานะนักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ อีกมุมหนึ่งเธอคือนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จจากสร้างแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเองเมื่อปี 2020 ในชื่อ “Rare Beauty

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ปัจจุบันคนดังในวงการบันเทิงหันมาทำธุรกิจมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จทุกคน เนื่องจากเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง และเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แต่แบรนด์ Rare Beauty ของศิลปินสาว Selena Gomez กลับประสบความสำเร็จและเอาชนะคู่แข่งในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง โดยส่วนหนึ่งมาจากการใช้โซเชียลมีเดียในการโปรโมตสินค้า และเน้นสื่อสารถึงแก่นหลักของแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพจิต

แน่นอนว่าช่วงแรกของการเปิดตัวแบรนด์ดังกล่าว บางคนอาจมองว่าธุรกิจของศิลปินย่อมได้รับความสนใจเป็นธรรมดา เนื่องจากมีฐานแฟนคลับเป็นจำนวนมาก ทำให้ได้เปรียบในเรื่องของแรงสนับสนุนแบรนด์ จึงมักจะบูมขึ้นมาในช่วงแรกแต่หลังจากนั้นกระแสก็จะแผ่วลงไป แต่สถานการณ์ดังกล่าวกลับไม่เกิดขึ้นกับ “Rare Beauty” แบรนด์เครื่องสำอางที่พิสูจน์ว่าแม้เป็นของศิลปินชื่อดัง แต่ด้วยทัศนคติของแบรนด์ที่ต้องการให้ผู้หญิงสวยในแบบที่ตัวเองเป็น และใส่ใจถึงปัญหาด้านสุขภาพจิต กลายเป็นปัจจัยที่หลายคนให้การสนับสนุน จนสามารถสร้างรายได้ถึงปีละกว่า 70 ล้านดอลลาร์

  • จากดาราเด็ก สู่ศิลปินระดับโลกที่ถูกปัญหาชีวิตถาโถม

“Selena Gomez” เกิดเมื่อ 22 ก.ค. 1992 เป็นศิลปินชาวอเมริกัน-เม็กซิกัน เพราะพ่อของเธอมีเชื้อสายเม็กซิกัน ส่วนแม่ของเธอเป็นอดีตนักแสดงชาวอิตาเลียน แต่ชีวิตวัยเด็กของเธอไม่ได้สมบูรณ์แบบเท่าไรนัก เพราะพ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เธออายุ 5 ขวบ และหลังจากนั้นเธอก็อยู่กับครอบครัวของแม่เป็นหลัก

หลังจากนั้นเธอเริ่มต้นชีวิตในเส้นทางบันเทิง โดยรับบทเป็นเจียนนา หนึ่งในกลุ่มเพื่อนของไดโนเสาร์ตัวใหญ่สีม่วงจากซีรีส์เรื่อง Barney & Friends ตอนเธออายุ 7 ขวบ ในปี 2002 ก่อนจะออกจากรายการไปในปี 2004 เพราะอายุที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ซีรีส์ดังกล่าวกลายเป็นใบเบิกทางให้เธอมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะนักแสดง ต่อมาเธอได้ร่วมแสดงในรายการซิตคอมชื่อดังของอเมริกาที่ออกอากาศทางช่องดิสนีย์เรื่อง Hannah Montana ที่มี Miley Cyrus เป็นนักแสดงนำ

แบรนด์ ‘Rare Beauty’ ของ ‘Selena Gomez’ กวาดรายได้ต่อปีกว่า 70 ล้านดอลลาร์

ภาพ Selena Gomez ในซีรีส์ Barney & Friends จาก Daily Mail

แต่ผลงานที่ทำให้ชื่อเสียงของ Selena Gomez เป็นที่รู้จักมากขึ้นก็คือ การออกอัลบั้มในฐานะศิลปินเดี่ยวเมื่อปี 2013 ในชื่อ Stars Dance แม้ว่าจะไม่ได้ทำให้เธอโด่งดังเป็นพลุแตก แต่ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี หลังจากนั้นเธอก็มีผลงานเพลงในฐานะศิลปินเดี่ยวอีก 2 อัลบั้ม ได้แก่ Revival และ Rare ซึ่งมีเพลงฮิตติดชาร์ตไปทั่วโลก มีคอนเสิร์ตเดี่ยวถึง 3 ครั้ง และได้ร่วมงานกับศิลปินชื่อดังมากมาย เช่น Charlie Puth, Zedd, A$AP Rocky และ BlackPink เป็นต้น

แม้ว่า Selena Gomez จะเป็นหนึ่งในศิลปินที่ประสบความสำเร็จระดับโลก แต่เธอก็ต้องเผชิญปัญหาด้านสุขภาพทั้งจิตใจและร่างกาย เธอเริ่มหายหน้าไปจากวงการจนแฟนคลับเริ่มสังเกตว่าเธอไม่ขึ้นเวทีหรือเดินสายออกรายการเพื่อโปรโมตเพลงใหม่ของเธอเลย และยังมีภาพที่เธอดูอ้วนขึ้นตามสื่อออนไลน์จนทำให้เธอถูกบูลลี่เรื่องรูปร่าง

หลังจากนั้นเธอได้เปิดเผยผ่าน Instagram ส่วนตัวว่า เธอป่วยเป็นโรค Lupus หรือ โรคแพ้ภูมิคุ้มกันร่างกายตัวเองตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งเธอทนอยู่กับความเจ็บปวดมานานจนต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และในที่สุดเธอก็ตัดสินผ่าตัดเปลี่ยนไตเพื่อที่จะกลับมาใช้ชีวิตและทำงานได้ตามปกติ

นอกจากนี้เธอยังพบกับปัญหาสุขภาพจิตโดยเฉพาะภาวะวิตกกังวลและซึมเศร้า จนต้องเข้ารับการบำบัดนานเป็นสัปดาห์ และหลังจากที่เธอกลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง เธอก็เริ่มต้นธุรกิจเครื่องสำอาง “Rare Beauty” ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก

  • “Rare Beauty” เครื่องสำอาง ที่ให้มากกว่าความงาม

แบรนด์เครื่องสำอางของ Selena Gomez เปิดตัวเมื่อปี 2020 ในคอนเซ็ปต์ปลุกพลังให้ทุกคนละทิ้งมาตรฐานความงาม (Beauty Standard) แบบเดิมๆ แต่ควรให้ความสำคัญกับการยอมรับว่าความสวยที่แท้จริงคือการเป็นตัวเองที่ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ เพราะเมื่อยอมรับในความเป็นตัวเองได้ก็จะส่งผลให้มีสุขภาพจิตที่ดีตามมา

แบรนด์ ‘Rare Beauty’ ของ ‘Selena Gomez’ กวาดรายได้ต่อปีกว่า 70 ล้านดอลลาร์ ภาพ Selena Gomez จาก Rare Beauty

สำหรับสโลแกนของแบรนด์ก็คือ “Makeup Made To Feel Good In” ที่หมายถึงให้เลือกใช้เครื่องสำอางที่ทำให้เรารู้สึกดี ดังนั้นแบรนด์จึงมีไลน์เครื่องสำอางที่เหมาะสำหรับการแต่งหน้าหลากหลายลุคและเข้ากับสีผิวทุกเฉด ที่สำคัญยังมีราคาที่เป็นมิตรกับเงินในกระเป๋าอีกด้วย

นอกจากเรื่องความสวยความงามแล้ว Rare Beauty ยังมองว่าปัญหา “สุขภาพจิต” เป็นเรื่องสำคัญของคนในสังคม จึงก่อตั้งองค์กรสำหรับช่วยเหลือผู้คนให้เข้าถึงข้อมูลต่างๆ เพื่อเยียวยาสุขภาพจิตของตัวเอง ในชื่อ “Rare Impact Fund” โดยแบรนด์จะบริจาค 1% จากยอดขายทั้งหมดให้กับองค์กร รวมถึงมีการระดมทุนร่วมกับมูลนิธิเพื่อการกุศลอื่นๆ จากทั่วโลก เพื่อช่วยเหลือคนที่มีปัญหาในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพจิตอีกด้วย ซึ่งล่าสุดยอดเงินระดมทุนอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านดอลลาร์

แบรนด์ ‘Rare Beauty’ ของ ‘Selena Gomez’ กวาดรายได้ต่อปีกว่า 70 ล้านดอลลาร์

ภาพข้อความให้กำลังใจจาก IG : Rare Beauty

  • แค่บลัชออนอย่างเดียว ก็ขายได้ 70 ล้านดอลลาร์ ต่อปี

แม้ว่า “Rare Beauty” จะเปิดตัวได้เพียง 2 ปีกว่า แต่ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่า แบรนด์สร้างรายได้ต่อปีประมาณ 70 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.4 พันล้านบาท และขยายสาขาได้มากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ด้านข้อมูลจาก Fashionnetwork ระบุว่า แบรนด์ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมความงามด้วยมูลค่าประมาณ 2.5 แสนล้านดอลลาร์ทั่วโลก (ประมาณ 850 ล้านล้านบาท)

แบรนด์ ‘Rare Beauty’ ของ ‘Selena Gomez’ กวาดรายได้ต่อปีกว่า 70 ล้านดอลลาร์ ภาพ Soft Pinch Liquid Blush สินค้าขายดีของแบรนด์ จาก Sephora

สำหรับการเติบโตของแบรนด์นี้ในปี 2023 นั้น เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าตัวจากปี 2022 ซึ่งสินค้าขายดีที่สุดคือ “บลัชออน” ที่ขายได้มากถึง 3.1 ล้านชิ้น มีราคาขายตกชิ้นละ 23 ดอลลาร์ หมายความว่าแค่ขายบลัชออนเพียงอย่างเดียวก็เสกเม็ดเงินได้ประมาณ 70 ล้านดอลลาร์ต่อปี

ส่วนสำคัญที่ทำให้ “Rare Beauty” ประสบความสำเร็จก็คือ การตลาดบนโลกออนไลน์ในหลากหลายแพลตฟอร์มที่มีเนื้อหาการโฆษณาแตกต่างกันออกไป แต่สิ่งสำคัญที่เหมือนกันคือจะมีการโพสต์เรื่องราวของปัญหาสุขภาพจิตเพิ่มเติมด้วย โดยบัญชี TikTok ของแบรนด์มีผู้ติดตามมากกว่า 3 ล้านคน ขณะที่บัญชี Instagram ของแบรนด์มีผู้ติดตามประมาณ 6 ล้านคน รวมถึง Instagram ส่วนตัวของ Selena Gomez เองก็มีผู้ติดตามมากกว่า 4 ล้านคน เธอจึงถือโอกาสใช้เป็นช่องทางในการโปรโมตอีกทางหนึ่งด้วย

กล่าวโดยสรุปคือแบรนด์ Rare Beauty ไม่ได้ให้ความสำคัญกับความงามอย่างเดียว แต่ยังผลักดันให้ผู้บริโภคมีทัศนคติที่ดีต่อตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะการทลายกรอบ Beauty Standard และการใส่ใจ ให้ความรู้ และความช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เครื่องสำอางแบรนด์นี้กลายเป็นแบรนด์โปรดของใครหลายคน ไม่ใช่แค่กลุ่มแฟนคลับของ Selena Gomez เท่านั้น

อ้างอิงข้อมูล : BloombergFashionnetwork, VOGUE, Self, BBC, Sephora และ Rare Beauty