ไขปริศนา มนต์เสน่ห์ “แฟชั่นสีดำ” ความงดงามเหนือกาลเวลา

ไขปริศนา มนต์เสน่ห์ “แฟชั่นสีดำ” ความงดงามเหนือกาลเวลา

เปิดประวัติศาสตร์แฟชั่นสีดำ สีที่มีความหมายหลากหลายทั้งอำนาจ กบฏ ความตาย เสน่ห์เย้ายวน และเหนือกาลเวลา ที่นิยมใส่ในทุกเวลาและทุกโอกาส

คริสเตียน ดิออร์ กล่าวเอาไว้ว่า ชุดสีดำเป็นสีที่ใส่แล้วผอมเพรียวที่สุด ขณะที่ อีฟ แซงต์ โลรองต์ ยืนยันว่าสีดำแสดงถึงการดีไซน์และความมีสไตล์ อีกทั้งเป็นสีโคโค ชาแนล ตัวแม่แห่งวงการนิยมใส่ เช่นเดียวกับ คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ราชาแห่งวงการแฟชั่น ที่แทบจะไม่แต่งตัวด้วยสีอื่นเลยนอกจากสีดำ

ไม่ว่าจะเป็นชุดธรรมดา ชุดไปรเวท ชุดทำงาน ชุดสูทสุดเท่ หรือแม้กระทั่งชุดราตรีเปิดไหล่เพื่อออกงานสังคมระดับสูง แฟชั่นสีดำ ล้วนแต่ได้รับความนิยมของทุกคน และนี่คือเรื่องราวของสีดำในวงการแฟชั่นที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ไม่เคยตกเทรนด์เสมอมา

 

สีดำในวงการแฟชั่น

คริสโตบัล บาเลนเซียกา ดีไซเนอร์ผู้ได้รับยกย่องว่าเป็นปรมาจารย์ (le maître) แห่งวงการแฟชั่นชั้นสูง หรือที่รู้จักกันอย่างดีในชื่อ โอต์กูตูร์ (Haute Couture) เป็นคนแรก ๆ ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าสีดำจากชุดใส่ไปงานศพ ให้กลายเป็นชุดน้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ ไฮแฟชั่น

ในโอกาสครบรอบการเสียชีวิต 50 ปีของบาเลนเซียกา Maison Balenciaga และ Palais Galliera พิพิธภัณฑ์แฟชั่น จึงได้ร่วมมือกันจัดนิทรรศการรวบรวมผลงานชิ้นเอกชุดสีดำของบาเลนเซียกากว่า 100 ชิ้นในชื่อ “Balenciaga in Black” โดยจะเดินทางจัดแสดงไปในหลายเมืองทั่วโลก ซึ่งในนิทรรศการนั้นจะมีตั้งแต่โครงร่างแรกของชุดที่เป็นสีดำ แตกต่างจากงานของดีไซเนอร์อื่นที่นิยมใช้ผ้าฝ้ายสีน้ำตาลเข้มขึ้นโครง ไปจนถึงชุดโอต์กูตูร์

“เขาใช้สีดำมากกว่าดีไซเนอร์คนอื่น ๆ โดยใช้มันในวิธีที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง” มาเดลีฟ โฮเฮ ภัณฑารักษ์ของนิทรรศการกล่าวกับสำนักข่าว BBC โดยสีดำช่วยเน้นโครงสร้างของชุดที่เป็นรูปทรงเรขาคณิตหรืองานประติมากรรม เช่น เดรสทรงบอลลูน และทรงซองจดหมาย ซึ่งเพิ่มช่วยความสนใจให้แก่ตัวชุดได้เป็นอย่างดี

ขณะที่โคโค ชาแนล เพื่อนรักของบาเลนเซียกา ก็หลงใหลในสีดำเช่นกัน และชุด Little Black Dress ที่ออกแบบไว้ตั้งแต่ทศวรรษ 1920 ก็ยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน “ชาแนลออกแบบให้คุณสามารถใส่เดรสตัวนี้ได้ทั้งวัน เพียงแค่คุณเปลี่ยนเครื่องประดับ เท่านี้ก็กลายเป็นอีกชุดหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นวิธีการดีไซน์ที่แตกต่างจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง เช่นเดียวกับบาเลนเซียกาใช้สีเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบ” โฮเฮอธิบาย

ไขปริศนา มนต์เสน่ห์ “แฟชั่นสีดำ” ความงดงามเหนือกาลเวลา

ชุด Little Black Dress ของ โคโค ชาแนล

 

บาเลนเซียกายังรับแรงบันดาลใจการออกแบบชุดจากภาพวาดบุคคล (Portrait) ของจิตรกรชาวสเปนหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ฟรันซิสโก โกยา และ ฆวน ปันโตจา เด ลา ครูซ ที่สวมใส่ชุดเป็นทางการแบบดั้งเดิม มาปรับปรุงใหม่ให้มีลูกเล่น และมีเอกลักษณ์ยิ่งขึ้นด้วยผ้าเพียงสีเดียว

“เมื่อบาเลนเซียกามีผ้าอยู่ในมือ เขารู้ดีว่าต้องใช้ดำเฉดใดให้เข้ากับวัสดุแต่ละประเภท บางครั้งก็เป็นดำน้ำตาล ดำน้ำเงิน หรือดำเทา จนบางครั้งเหมือนกับว่าคุณดำดิ่งลงไปในสีดำ เมื่อคุณถึงแก่นของมัน คุณจะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ” แกสปาร์ เดอ แมสเซ  ตัวแทนจาก Balenciaga Archives ในกรุงปารีสกล่าว

ไขปริศนา มนต์เสน่ห์ “แฟชั่นสีดำ” ความงดงามเหนือกาลเวลา

ภาพ The Black Duchess โดย ฟรันซิสโก โกยา หนึ่งในแรงบันดาลใจของบาเลนเซียก้า

 

แม้ว่ายุคสมัยของผู้ก่อตั้งบาเลนเซียกาจะล่วงเลยมานานแล้ว แต่เสน่ห์ของสีดำที่เป็นเหมือนดีเอ็นเอของแบรนด์ยังคงอยู่ ด้วยฝีมือของ เดมนา กวาซาเลีย  ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของบาเลนเซียกา ผู้ออกแบบชุดสีดำโลกไม่ลืมที่ คิม คาร์เดเชียน ใส่ไปงาน Met Gala 2021 ซึ่งเป็นชุดดำที่ปกคลุมทั้งร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่เน้นให้เห็นสัดส่วนทรงนาฬิกาทรายอันเป็นเอกลักษณ์ของคาร์เดเชียน และชุดในคอลเล็กชันประจำฤดูใบไม้ผลิประจำปีนี้ของแบรนด์ก็ยังคงใช้สีดำเป็นหลักเช่นเดิม

ไขปริศนา มนต์เสน่ห์ “แฟชั่นสีดำ” ความงดงามเหนือกาลเวลา

ชุดของคิม คาร์เดเชียน ในงาน Met Gala 2021

สีดำสีแห่งความคลาสสิก

ไม่ใช่แต่บาเลนเซียกาเท่านั้นที่ใช้สีดำในคอลเล็กชันล่าสุด แต่ยังมี โดลเช่ แอนด์ กับบานา เวอร์ซาเช และ โยจิ ยามาโมโตะ ต่างก็นำเสนอคอลเล็กชันสีดำในงานแฟชั่นวีคด้วยเช่นกัน

สีดำไม่ได้ขายได้เฉพาะบนแคทวอล์ก เสื้อผ้าแนวสตรีททั้งหลายก็ได้รับความนิยมเช่นกัน เว็บไซต์ผลิตเสื้อผ้าที่ผู้ซื้อสามารถออกแบบได้ตามต้องการ เช่น Bonfire และ Spreadshirt ต่างระบุว่า สีดำขายได้ดีกว่าสีอื่น อีกทั้งยังช่วยให้ลายกราฟิกโดดเด่นเหนือกว่าสีอื่น ๆ อีกด้วย

จอห์น ฮาร์วีย์ ผู้เขียนหนังสือ “The Story of Black” ระบุว่า แรงดึงดูดของสีดำนั้นเป็นสัญญาณของการเอาชีวิตรอด “เซลล์ประสาทสองขั้วภายในดวงตาจะส่งสัญญาณคลื่นไฟฟ้า เมื่อได้รับแสงและอยู่ในความมืด เพราะในความมืดสามารถเป็นได้ทั้งสถานที่อันตราย และปลอดภัยจนสามารถเป็นที่หลบภัยได้”

ฮาร์วีย์อธิบายต่อว่า เมื่อมองแถบสีขาวดำ สีดำจะโดดเด่นกว่าและสีขาวจะกลายเป็นพื้นหลัง “ตาของเราจะมองเห็นสีดำเด่นชัดที่สุด แม้บางทฤษฎีจะบอกว่าสีดำไม่ใช่สี แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นสีที่ทรงพลังที่สุด”

 

สีดำกับความหมายที่หลากหลาย

ตั้งแต่อดีตของมีมูลค่าสูงมักจะเป็นสีดำอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นไม้มะเกลือสีดำขลับ หินอ่อนสีดำ ตลอดจนเสื้อขนแกะสีดำชั้นดี จึงไม่แปลกที่สีดำจะมีความหมายถึงความสูงส่ง ในขณะเดียวกันก็มีความหมายถึงคุณธรรมและหน้าที่ เนื่องจากตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 เป็นต้นมา เหล่านักบวชต่างใส่ชุดสีดำ ซึ่งกษัตริย์ต่าง ๆ ได้นำสีดำของคริสตจักรเข้ามาใช้ในราชวงศ์ เช่น พระเจ้าเฟลิเปที่ 2 แห่งสเปน ที่นิยมใส่สีดำ ทำให้สีดำแสดงถึงความเคารพและอำนาจอีกด้วย

“สีดำกลายเป็นสีที่บอกว่าคุณจริงจัง มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ แสดงถึงความแข็งแกร่งและน่าเกรงขาม” ฮาร์วีย์กล่าว

นอกจากนี้ แม้เสื้อผ้าจะเป็นสีดำเหมือนกัน แต่หากเป็นคนละเนื้อผ้าความหมายก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วย คนธรรมดาทั่วไปจะใส่เสื้อสีดำเนื้อหยาบที่มีความหมายถึง ความอ่อนน้อมถ่อมตน การบริการ และการอุทิศตน แต่ถ้าหากสีดำไปอยู่บนผ้ากำมะหยี่และผ้าซาตินที่ระดับขุนนางขึ้นไปเท่านั้นถึงจะใส่ได้ จะหมายถึงความมีระดับ ศักดินา และความมั่งคั่ง

เมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ 19 ยุคที่อุตสาหกรรมเริ่มผลิบาน กลุ่มพ่อค้าและชนชั้นกลางมีมากขึ้นทำให้สีดำเริ่มแพร่กระจายเข้าสู่คนกลุ่มนี้อย่างรวดเร็ว หนึ่งในนั้นคือ โบ บรุมเมลล์ คนดังของยุคนั้น ที่นิยมสวมใส่สูทสีดำ ทำให้สีดำกลับมามีชีวิตชีวา และสนุกอีกครั้ง ทั้งเป็นการยอมรับการเพิ่มขึ้นของกลุ่มคนชนชั้นกลางอีกด้วย 

ในยุคของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียสีดำมีภาพลักษณ์ใหม่อีกครั้ง ทั้งในแง่ของศีลธรรมและความอ่อนโยน และยังคงอยู่โดดเด่นในแวดวงแฟชั่นต่อไป

ไขปริศนา มนต์เสน่ห์ “แฟชั่นสีดำ” ความงดงามเหนือกาลเวลา

โบ บรุมเมลล์ และสูทสีดำคู่ใจ

 

อย่างไรก็ตาม สียังถูกใช้ในทางการเมืองอีกด้วย ฝ่ายขวาจัดมักนิยมใส่เครื่องแบบสีดำ ไม่ว่าจะเป็น ไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์ ทหารคนสำคัญของกองทัพนาซี และ เบนิโต มุสโสลินี ผู้นำของพรรคชาตินิยมฟาสซิสต์ของอิตาลี ได้ทำให้สีดำกลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวาดกลัว

อีกทั้งสีดำยังเป็นสัญลักษณ์ของการโค่นล้มและการต่อต้าน ฮาร์วีย์กล่าวว่า ในกลุ่มวัฒนธรรมย่อย เช่น ชาวร็อค พังก์ และก็อธนิยมใส่ชุดสีดำที่ดูมืดหม่นและน่ากลัวในสายตาของคนทั่วไป เพื่อแสดงการต่อต้านบรรทัดฐานทางสังคม และสะท้อนถึงตัวตนของพวกเขา คล้ายกับบรรดาเหล่านักแสดงระดับเอลิสต์ที่พร้อมกันใส่ชุดดำเพื่อสนับสนุน Time’s Up องค์กรต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศ และกระแส #Metoo ในงานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำเมื่อปี 2561

ไขปริศนา มนต์เสน่ห์ “แฟชั่นสีดำ” ความงดงามเหนือกาลเวลา

เหล่านักแสดงระดับแถวหน้าของวงการแต่งกายด้วยสีดำในงานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำเมื่อปี 2561

 

ในปัจจุบัน เจ้าสาวหลายคนเลือกใส่ชุดเจ้าสาวสีดำ ซึ่งเป็นตัวแทนของความมั่นใจและประสบการณ์ แทนที่จะใส่สีขาวอันเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ผุดผ่อง นอกจากนี้ ในวัฒนธรรมตะวันตกสีดำยังเป็นตัวแทนของความเซ็กซี่ เสน่ห์เย้ายวนใจ เห็นได้จากในภาพยนตร์หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Breakfast at Tiffany หรือ Grease ก็ตาม

 

อเล็กซ์ ลองมอร์ แฟชั่นสไตลิสต์ชื่อดัง กล่าวว่า “สีดำเป็นสีที่ทรงพลังอย่างมากในวงการแฟชั่น มันให้ทั้งความรู้สึกที่แรงกล้า อีกทั้งยังให้ประโยชน์ในแง่การใช้งานไปพร้อม ๆ กัน” โดยลองมอร์ได้ยกตัวอย่าง พระราชพิธีศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่ฝูงชนพร้อมใจกันใส่สีดำเพื่อไว้อาลัย “ท่ามกลางคนเรือนแสน แต่ใบหน้าของผู้คนเหล่านั้นกลับโดดเด่นขึ้นมา เพราะสีดำทำให้คุณสนใจในวัตถุ มากกว่าสิ่งรอบ ๆ ตัว”

จะเห็นได้ว่าความหมายของสีดำนั้นมีหลากหลายความหมาย ซึ่งหลายความหมายก็มีความขัดแย้งในตัวมันเอง ไม่ว่าจะเป็นมีความอนุรักษนิยมแต่ก็ขบถด้วย (conservative yet rebellious) ชัดเจนแต่ขณะเดียวกันก็ดูคลุมเครือ (structured yet nebulous) มีระดับแต่ก็เพลย์เซฟ (stylish yet safe)

“ลูกค้าของฉันหลายคนที่มีตำแหน่งหรือเป็นบุคคลสาธารณะ ชอบสีดำ เพราะสีดำอยู่เหนือทุกสิ่ง คุณสามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน และเข้ากันได้กับทุกสิ่ง" ลองมอร์กล่าว "ฉันคิดว่าสีดำจะคงอยู่ตลอดไป"

เหมือนกับสำนวน “The New Black” ที่มักใช้กับเป็นสีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน จนสามารถเทียบได้กับสีดำที่สีถือว่าเป็นสีที่ได้ได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย ซึ่ง The New Black มักจะได้รับความนิยมในระยะเวลาหนึ่งแต่สีดำก็ยังคงอยู่ไม่ไปไหน เพราะสุดท้ายแล้ว BLACK IS THE NEW BLACK

 

ที่มา: Artsy, BBC, Vogue