ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ

ดิบ บางกอก (Dib Bangkok) พื้นที่จัดแสดงศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ก่อตั้งโดย ภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ดัดแปลงจากโกดังเก่าบนพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตร

KEY

POINTS

  • ดิบ บางกอก (Dib Bangkok) คือพื้นที่จัดแสดงศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ก่อตั้งโดย ภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์ โดยดัดแปลงจากโกดังเก่าบนพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตร
  • เปิดตัวเป็นทางการด้วยนิทรรศการปฐมฤกษ์ชื่อ "ล่อง(ไม่)หน" หรือ (In)visible Presence
  • นิทรรศการนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการรับรู้และจดจำสิ่งที่มองไม่เห็น โดยเน้นให้ผู้ชมสัมผัสงานศิลปะผ่านประสาทสัมผัสที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่การมองด้วยสายตา
  • จัดแสดงผลงาน 81 ชิ้นจากศิลปินไทยและนานาชาติที่มีชื่อเสียง 40 ท่าน อาทิ มาร์โค ฟูซินาโต, มณเฑียร บุญมา, สมบูรณ์ หอมเทียนทอง และ เจมส์ เทอร์เรลล์

Dib Bangkok ออกเสียงว่า ดิบ บางกอก คือพื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ที่มุ่งสร้างแรงบันดาลใจ การเชื่อมต่อ และการมองเห็นในมิติที่ลึกขึ้น ผ่านบทสนทนาที่ข้ามพรมแดนวัฒนธรรมและคนหลายรุ่น

ชวนร่วมสัมผัสผลงาน ศิลปะร่วมสมัย ของศิลปินประเทศไทยและนานาชาติ ภายใต้วิสัยทัศน์ของ ภูรัตน์ (แฌง) โอสถานุเคราะห์ ประธานผู้ก่อตั้ง ดิบ บางกอก ผู้ซึ่งนำแรงบันดาลใจจากสิ่งที่เป็นความฝันของ เพชร โอสถานุเคราะห์ ผู้เป็นบิดา มาตีความและต่อยอดใหม่ให้สอดคล้องกับโลกปัจจุบัน

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ประตูทางเข้า Dib Bangkok (ดิบ บางกอก)

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ Dib Bangkok (ดิบ บางกอก)

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์ (ภาพโดยความอนุเคราะห์จาก ดิบ บางกอก)

“การสนับสนุนศิลปะและการศึกษา เป็นเป้าหมายสำคัญของครอบครัวเรามาโดยตลอด เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้แนะนำมิวเซียมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติแห่งแรกของประเทศไทยในกรุงเทพฯ และยินดีต้อนรับทุกท่านสู่พื้นที่ซึ่งศิลปะสามารถรับรู้ได้ด้วยความรู้สึก ไม่เพียงแค่ชมได้ด้วยสายตาเท่านั้น พื้นที่แห่งนี้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมใช้เวลากับความคิด การสำรวจ และความสนุกเชิงสร้างสรรค์ โดยในทุกครั้งที่มาเยือน ผู้ชมจะค้นพบสิ่งใหม่และไม่คาดคิด” แฌง ภูรัตน์ กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ ดิบ บางกอก

ภูรัตน์ กล่าวด้วยว่า “กรุงเทพฯ เมืองที่เต็มไปด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์และไม่หยุดนิ่ง และเราคงเห็นตรงกันว่า กรุงเทพฯ มีห้างสรรพสินค้าเพียงพอแล้ว เป้าหมายของเราคือการสร้างพื้นที่ในอีกรูปแบบหนึ่ง พื้นที่ที่เชิญชวนให้ผู้คนได้ใช้เวลาอยู่กับศิลปะ”

ไม่ผิดจากที่ภูรัตน์กล่าว Dib Bangkok ตั้งอยู่บนพื้นที่รวมกว่า 7,000 ตารางเมตร กว้างใหญ่ราวสนามฟุตบอล เดิมเป็นโกดังเก่าที่สร้างขึ้นในยุคทศวรรษ 1980 ก่อนได้รับการปรับปรุงและออกแบบใหม่โดย WHY Architecture ด้วยความร่วมมือกับ สถาปนิก 49 (A49) โดยไม่เสียอรรถรสความเป็นโกดังเก่า แต่กลับเพิ่มความน่าสนใจด้วยหลังคาทรงฟันเลื่อยเปิดรับแสงธรรมชาติ

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ  The Chapel ทรงกรวย

ด้านขวามือเป็น อาคาร 3 ชั้น ตัวอาคารยาวมากกว่า 100 เมตร จัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยทั้งสามชั้น จุดหนึ่งของตัวอาคารเชื่อมต่อกับสถาปัตยกรรมทรงกรวย เรียก The Chapel ภายในจัดแสดงงานศิลปะเช่นกัน

ด้านซ้ายมือเป็นอาคารชั้นเดียว แบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็น จุดบริการข้อมูล และ วัตถุดิบ บิสโทร แอนด์ บาร์ พื้นที่บริการอาหารและเครื่องดื่ม เหนืออาคารด้านนี้ติดตั้ง Art Wall ความยาว 85 เมตร

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ลาน Sculpture Garden มองลงไปด้านล่างเห็น Courtyard

ปลายสุดด้านในของสองอาคารเชื่อมกันที่ชั้นสองด้วยลาน Sculpture Garden สามารถเดินออกมาได้จากอาคารขวามือ และมีบันไดรูปทรงเวียนสำหรับเดินลงมาสู่ชั้นล่างของอาคารซ้ายมือ

ลานกว้างตรงกลางระหว่างอาคารด้านซ้ายและขวา เรียก Courtyard พื้นที่ 1,400 ตารางเมตร จัดแสดงผลงานศิลปะเช่นกัน

Dib Bangkok เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2568 ด้วยนิทรรศการปฐมฤกษ์ ล่อง(ไม่)หน หรือ (In)visible Presence

นิทรรศการ ล่อง(ไม่)หน หรือ (In)visible Presence มีที่มาจากการตั้งคำถามที่ว่า “เราจะยังคงจดจำสิ่งสำคัญที่ไม่สามารถจับต้องมองเห็นได้อีกแล้ว...ได้อย่างไร”

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ดร.มิวาโกะ เทสุกะ และ  อารียนา ชัยวาระนนท์ 
(ภาพโดยความอนุเคราะห์จาก ดิบ บางกอก)

ดร.มิวาโกะ เทสุกะ ผู้อำนวยการ Dib Bangkok กล่าวว่า “ล่อง(ไม่)หน (In)visible Presence คือศิลปะที่ขยายการรับรู้ไปไกลกว่าการมองเห็นด้วยสายตา แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจในการยกย่องและรำลึกถึงคุณเพชร โอสถานุเคราะห์ ก่อนถ่ายทอดมาเป็นกรอบการทำงานด้านภัณฑารักษ์ โดยเราได้คัดเลือกผลงาน 81 ชิ้นจากศิลปิน 40 ท่าน ซึ่งร่วมกันตั้งคำถามว่า เราจะรับรู้และจดจำสิ่งที่มีความหมายแต่ไม่อาจมองเห็นได้อย่างไร แนวคิดนี้ยังสะท้อนบริบทของยุคสมัยที่โลกถูกโอบล้อมถาโถมด้วยภาพจำนวนมหาศาล จำเป็นต้องใช้ความใส่ใจที่ลึกซึ้งและสภาวะนิ่งสงบเพื่อสร้างสมดุลให้เกิดขึ้น”

อารียนา ชัยวาระนนท์ ภัณฑารักษ์ กล่าวเสริมว่า “สำหรับนิทรรศการ ล่อง(ไม่)หน (In)visible Presence เรามุ่งหมายให้ผู้ชมได้สัมผัสงานศิลปะผ่านประสาทสัมผัส ไม่ใช่เพียงรับชมด้วยสายตาเท่านั้น แต่ผลงานหลายชิ้นกระตุ้นประสาทสัมผัสหลายด้าน ทั้งเสียง กลิ่น แสง รวมถึงท้าทายความคาดหมายเรื่องขนาด น้ำหนัก และวัสดุในชีวิตประจำวัน กระบวนการเหล่านี้เผยให้เห็นความสอดคล้องตามธรรมชาติระหว่างแนวทางการสร้างสรรค์ศิลปะที่หลากหลาย รวมถึงความสัมพันธ์กับขบวนการศิลปะหลังสงครามอย่าง อาร์เต โปเวรา (arte povera ศิลปะสมถะ) ซึ่งใช้วัสดุธรรมดาเป็นสื่อสะท้อนถึงการดำรงอยู่และความทรงจำอันลึกซึ้งของมนุษย์”

 

ผู้สร้างและผู้ทำลาย

มาร์โค ฟูซินาโต (Marco Fusinato) ศิลปินร่วมสมัยและนักดนตรีทดลอง เป็นที่รู้จักจากผลงานนามธรรมและมีพลัง การทำงานของเขาสำรวจถึงวาทกรรมของความสุดโต่งในสาขาต่างๆ เช่น การเมือง ศิลปะ ดนตรี และเสียง เป็นศิลปินตัวแทนประเทศออสเตรเลียใน เวนิสเบียนนาเล ปี 2022

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ Constellations โดย มาร์โค ฟูซินาโต

เมื่อนิทรรศการ ล่อง(ไม่)หน เชิญมาร์โคมาร่วมแสดงงาน เขาสร้างสรรค์ผลงานชื่อ Constellations ประกอบด้วยผนังสีขาวยาวตลอดแนวอาคาร ไม้เบสบอล และโซ่

สิ่งที่ศิลปินต้องการคือ ให้ผู้ชมนิทรรศการหยิบไม้เบสบอลขึ้นมาและหวดลงบนผนัง!

แน่นอน ผนังย่อมบุบ มีรอยร้าวหรือปริแตกตามแรงหวดไม้เบสบอลของแต่ละคน นี่คืองานศิลปะที่ทุกคนช่วยกันทำให้ ‘สิ่งที่ล่องหน’ คือ ‘พลกำลัง’ ปรากฏเป็นรูปร่าง

ผนังนี้ยังซ่อนระบบกระจายเสียงได้ดังสูงสุด 120 เดซิเบล ดังนั้นท่วงท่าการฟาดไม้เบสบอลไปบนผนังยังกลายเป็นเสียงที่ดังสนั่น ทำให้เราได้ยิน ‘สิ่งที่ล่องหน’ นั้นด้วย

Constellations ของมาร์โค ฟูซินาโต คืองานศิลปะร่วมสมัยที่โยงให้ผู้ชมเป็นผู้แสดง เป็นผู้สร้างและผู้ทำลายในคราวเดียวกัน เป็นข้อคิดให้กับทุกคนว่า ศิลปะต้องการเราในการมีส่วนร่วมในศิลปะอยู่เสมอ เพื่อดำรงความเป็นศิลปะให้อยู่ต่อไป

ขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถฝากร่องรอยของตนเองไว้ที่ ‘ดิบ บางกอก’

 

บางอย่างอยู่เหนือการรับรู้

ใครชื่นชอบผลงานของ มณเฑียร บุญมา (พ.ศ.2496-2543) หนึ่งในศิลปินผู้บุกเบิกงานศิลปะร่วมสมัยในประเทศไทย มีผลงานให้ชมหลายชิ้น ‘ดิบ บางกอก’ มอบพื้นที่จัดแสดงไว้ด้วยห้องขนาดมหึมา

หนึ่งในผลงานที่จัดแสดงได้แก่ Zodiac Houses, 2541-2542 ศิลปินใช้แท่งเหล็ก ฟิล์มใส ไม้ สมุนไพรและชาด จำลองเป็นรูปทรงโครงสร้างหลังคาอาคาร 6 แห่งในเมืองสตุ๊ตการ์ท ประเทศเยอรมนี ระหว่างที่พำนักอยู่ในเมืองนี้ในช่วงสุดท้ายของชีวิต

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ลานจัดแสดง Zodiac Houses, 2541-2542 ของ มณเฑียร บุญมา

หลังคาอาคารทั้ง 6 แห่งประกอบด้วยยอดโบสถ์ 3 แห่ง และศูนย์ศิลปวัฒนธรรมอีก 3 แห่ง แต่ละแห่งใช้เวลาเดินถึงกันประมาณ 15 นาที

ระหว่างเดินสำรวจย่านเมืองเก่าชตุทท์การ์ท ศิลปินประทับใจเกิดความรู้สึกที่ว่า โบสถ์และศูนย์ศิลปวัฒนธรรมดังกล่าวสื่อถึงความต้องการร่วมกันของมนุษย์ในการก้าวข้ามโลกนี้ เชื่อมโยงกับบางสิ่งบางอย่างที่อยู่เหนือการรับรู้และการมองเห็น เป็นสิ่งที่ศิลปินเคยสำรวจมาแล้วและผลงานที่อ้างอิงถึงวัดในประเทศไทย จึงนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ Zodiac Houses

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ภาพกลุ่มดาวตามจักรราศี ไม่ใช่รอยเปื้อน

ผนังด้านนอกของชิ้นงานดูเหมือนมีรอยเปื้อน แต่จริงๆ แล้วศิลปินตกแต่งผนังด้านนอกของแต่ละชิ้นงานอย่างประณีตด้วยภาพถ่ายโปร่งแสงของกลุ่มดาวจักรราศี พร้อมเจาะรูเล็กๆ บนหลังคาเป็นลวดลายรูปกลุ่มดาวของจักรราศีนั้นๆ

ด้านในหลังคาเคลือบด้วย ‘ผงสมุนไพร’ ที่ศิลปินเปรียบเหมือนพลังเช่นเดียวกับพระเจ้า มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่กลับทรงพลังแห่งศรัทธา

ศิลปินเชื้อเชิญให้เข้าไปยืนใต้ชิ้นงาน เงยหน้ามองขึ้นด้านบน สูดหายใจลึกๆ ลองไตร่ตรองภาพที่เห็นกลิ่นที่ได้รับ ทำให้คุณรู้สึกหรือนึกถึงเรื่องใดในชีวิต

Zodiac Houses, 2541-2542 ยังได้รับการจัดวางทิศทางตามตำแหน่งจริงของอาคารในเมืองสตุ๊ตการ์ท เปรียบแผนที่แห่งการเดินทางของศิลปินผ่านเมืองนั้น

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ รักนิรันดร์ของศิลปินและภรรยา

บนลานจัดแสดง มี Zodiac Houses สองชิ้นวางเคียงกัน เพราะจำลองมาจากหลังคาโบสถ์สติฟเคอเชอร์ (Stiftskirche) ที่มียอดหลังคา 2 แบบ ศิลปินนำกลุ่มดาวราศีมีนซึ่งเป็นเดือนเกิดของตนวาดบนผนังด้านนอกและเจาะรูด้านใน ขณะที่โครงสร้างอีกชิ้นวาดรูปกลุ่มดาวราศีเกิดของภริยา

แสดงให้ถึงความทรงจำอันยั่งยืนที่ศิลปินมีให้ต่อภริยา เป็นความปรารถนาที่จะเชื่อมโยงให้ได้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง

 

ร่างที่เคยค้ำจุนศาสนสถาน

อีกหนึ่งผลงานไม่ควรพลาดชม เสียงพูดที่ไม่ได้ยิน, 2538 ศิลปะจัดวางประกอบด้วย เสาวิหาร เครื่องแก้ว ชุดกรวดน้ำ และผ้า โดย สมบูรณ์ หอมเทียนทอง ศิลปินไทยผู้มีชื่อเสียงระดับสากล เคยใช้ชีวิตในต่างประเทศกว่า 30 ปี

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ เสียงพูดที่ไม่ได้ยิน, 2538 โดย สมบูรณ์ หอมเทียนทอง

ศิลปินนำเสาวิหารที่ปลดระวางเป็นของเก่ามาทำความสะอาด พันห่อด้วยผ้า เปรียบร่างไร้วิญญาณของบุคคลอันที่เป็นที่รัก จากนั้นนิมนต์พระสงฆ์ 14 รูป สวดบังสุกุล 

ปัจจุบัน เสาเหล่านี้ได้ทอดร่างอย่างสงบ ณ ที่แห่งนี้ เศษดินที่ติดอยู่ตามเสาและรอยเซาะร่องที่ครั้งหนึ่งเคยต่อเชื่อมกับคานและพื้น บอกเล่าเรื่องราวในกาลก่อนของเสาเหล่านี้ที่เคยหยัดร่างค้ำจุนศาสนสถาน

 

งานศิลปะจัดแสดงภายนอกอาคาร

บนพื้นที่ Sculpture Garden สิ่งที่โดดเด่นราวหอดูดาวเป็นผลงานชื่อ Straight up (2568) ของ เจมส์ เทอร์เรลล์ (James Turrell) ศิลปินอเมริกันที่มีชื่อเสียงจากงานศิลปะร่วมสมัยประเภทแสงและพื้นที่ ถือเป็นการแสดงงานครั้งแรกของเทอร์เรลล์ในประเทศไทย

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ Straight Up โดย เจมส์ เทอร์เรลล์

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ งานศิลปะที่เกิดจากแสงและพื้นที่ของ Straight Up
(ภาพโดยความอนุเคราะห์จาก Kay Khetsirin และ Pinanong Panchuen)

ผู้เข้าชมต้องเดินขึ้นบันไดอย่างน้อย 39 ขั้น ด้านบนเป็นโถงทรงกลมมีเก้าอี้โค้งไปตามผนังนั่งได้ราว 20 คน ตรงกลางเพดานเจาะเป็นช่องวงกลมเล็กๆ มองเห็นท้องฟ้าภายนอก

งานศิลปะชิ้นนี้แสดงสิ่งที่น่าประหลาดใจเกี่ยวกับการมองเห็นของคนเรา ขณะที่สีผนังห้องเปลี่ยนไปตามสีของแสงไฟที่เทอร์เรลล์กำหนดไว้ เราจะเห็นท้องฟ้าในช่องวงกลมบนเพดานเปลี่ยนสีเป็นสีคู่ตรงข้ามกับสีบนผนังห้อง ทั้งๆ ที่สีท้องฟ้าภายนอกคือสีเดิม

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ Breast Stupa Topiary โดย  พินรี สัณฑ์พิทักษ์ และ  MEMORY โดย โช ชิบูยะ ภาพพิมพ์บนแผ่นไวนิลความยาวรวมกัน 85 เมตร ขยายจากผลงานที่ศิลปินใช้สีทาทับหน้าหนังสือพิมพ์ตามความรู้สึกที่ได้อ่านข่าวทุกเช้าขณะเก็บตัวในอพาร์ตเมนต์ช่วงโควิด-19 ระบาดในนิวยอร์ก สหรัฐฯ

เคียงข้างงานของเทอร์เรลล์ จัดวางผลงาน Breast Stupa Topiary (2013) ของศิลปินไทย พินรี สัณฑ์พิทักษ์ ชุดประติมากรรมสเตนเลสรูปทรงคล้ายเจดีย์ทรวงอก

เชื้อเชิญให้ผู้ชมครุ่นคิดถึงความเป็นหญิง จิตวิญญาณ และร่างกาย งานชิ้นนี้ยังช่วยลดทอนเส้นสายแข็งกระด้างของเมืองด้วยการปรากฏตัวที่ทั้งอ่อนโยนและลุ่มลึก

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ Pars pro Toto (2020) โดย อลิเชีย ควาเด

ลาน Courtyard ด้านล่าง สะดุดตาด้วยผลงานศิลปะจัดวาง ชื่อ Pars pro Toto (2020) โดย อลิเชีย ควาเด (Alicja Kwade) ศิลปินร่วมสมัยชาวโปแลนด์-เยอรมัน งานประติมากรรมและการจัดวางของเธอมุ่งเน้นไปที่ความเป็นจริงของเวลาและพื้นที่

ประกอบด้วยก้อนหินกลมมนขนาดมหึมาลดหลั่นกันไป 11 ลูก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 70-250 เซนติเมตร ชวนผู้ชมไตร่ตรองถึงระบบดาวเคราะห์ของจักรวาลและแก่นสารแห่งวัตถุ

 

งานศิลปะในนิทรรศการ ล่อง(ไม่)หน

ผลงานศิลปะในนิทรรศการ ล่อง(ไม่)หน (In)visible Presence จัดวางให้สอดประสานไปกับสถาปัตยกรรมในแต่ละชั้น 

เริ่มจากชั้นแรกกับผลงานที่หนักแน่นและกระตุ้นการรับรู้ทางประสาทสัมผัสเป็นหลัก ก่อนขึ้นไปสู่ชั้นสองซึ่งจัดแสดงผลงานที่ขับเคลื่อนด้วยความทรงจำและอารมณ์ใกล้ชิดแบบลึกซึ้ง และขยายไปสู่ผลงานที่เปิดกว้างและใช้แสงเป็นองค์ประกอบสำคัญในชั้นที่สาม 

ภายในห้องจัดแสดงหลากหลายไปด้วยผลงานจัดวาง ประติมากรรมขนาดใหญ่ จิตรกรรม งานสื่อผสมและสื่อใหม่ จากศิลปินผู้ได้รับการยกย่องทั้งในและต่างประเทศ

อาทิ ลี บุล, แอนเซล์ม คีเฟอร์, อเล็กซ์ แคตซ์, ยุรี เกนสาคู, เจสซี โฮเมอร์ เฟรนช์, ไทวิจิต พึ่งเกษมสมบูรณ์, สุรสีห์ กุศลวงศ์, สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์, แจนนิส คูเนลลิส, หลุยส์ บูร์ชัวร์, รีเบคกา ฮอร์น, โนบุโยชิ อารากิ ฯลฯ

นิทรรศการ ล่อง(ไม่)หน (In)visible Presence เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 3 สิงหาคม 2569

  • เวลาทำการ: วันพฤหัสบดี-วันจันทร์ เวลา 10.00-19.00 น. (ปิดวันอังคารและวันพุธ)
  • บัตรเข้าชม: 550 บาทสำหรับคนไทย, 700 บาทสำหรับชาวต่างชาติ
  • สำรองบัตรเข้าชมล่วงหน้าทางเว็บไซต์ www.dibbangkok.org
  • ที่ตั้ง เลขที่ 111 ซอยสุขุมวิท 40 พระโขนง คลองเตย กรุงเทพฯ 10110

 

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ Untitled (2541) ของ แจนนิส คูเนลลิส ศิลปินผู้นำขบวนการศิลปะสมถะ : เสื้อผ้ามือสองม้วนไว้ระหว่างแผ่นตะกั่วก่อนนำมาวางเรียงระหว่างคานเหล็ก

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ Incubate โดย สุโพธ คุปตา (Subodh Gupta) ศิลปินชาวอินเดีย จัดแสดงใน The Chapel

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ เสียงแห่งดอกบัว, 2535/ 2542-2543 โดย มณเฑียร บุญมา ระฆังดินเผากว่า 500 ใบ เรียงซ้อนเป็นชั้นคล้ายกำลังโอบล้อมดอกบัวปิดทองคำเปลวบนผนัง สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าและความเปราะบางของชีวิต

ล่อง(ไม่)หน @ Dib Bangkok พื้นที่ศิลปะร่วมสมัยแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ Der verlorene Buchstabe, 2562 โดย แอนเซล์ม คีเฟอร์ : ภาพถ่ายคลี่ม้วนออกจากเครื่องพิมพ์ letterpress ยี่ห้อไฮเดลเบิร์กรุ่นดั้งเดิม ผลิตงานพิมพ์ได้เร็วชนิดปฏิวัติวงการ แต่ต้องหยุดผลิตในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เพราะต้องไปผลิตเครื่องจักรสงครามให้กองทัพนาซี คำว่า Der verlorene Buchstabe แปลว่า "ตัวอักษรที่หายไป" ชาวยิวเชื่อว่าอักษรเหล่านั้นจะกลับมาปรากฏอีกครั้งเพื่อเยียวยาโลก