เพลินจันทร์ วิญญรัตน์ งานศิลปะจัดวางเพื่อความยั่งยืนชิ้นล่าสุด

ศิลปินสิ่งทอ เพลินจันทร์ วิญญรัตน์ จัดแสดงผลงานศิลปะจัดวางชิ้นล่าสุดชื่อ "Mitta del Santi" ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปัญหาชายแดน เพื่อสื่อถึงสันติภาพและความสามัคคี
KEY
POINTS
- เพลินจันทร์ วิญญรัตน์ จัดแสดงผลงานศิลปะจัดวางชิ้นล่าสุดชื่อ "Mitta del Santi" ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปัญหาชายแดน เพื่อสื่อถึงสันติภาพและความสามัคคี
- ผลงานสะท้อนแนวคิด "ความยั่งยืน" โดยสร้างจากวัสดุเหลือใช้และขยะรีไซเคิลหลากหลายชนิด เช่น เศษผ้า กระป๋อง ขวดน้ำ ถุงน่อง และขยะพลาสติก
- มีการนำประวัติศาสตร์ของสถานที่จัดแสดงซึ่งเคยเป็น "โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช" มาเป็นส่วนหนึ่งของงาน โดยใช้เศษผ้าตัดเป็นวงกลมเลียนแบบโลโก้เก่าและพิมพ์คำศัพท์เชิงบวกจากหนังสือเรียน
Bangkok Kunsthalle (บางกอก คุนส์ฮาเลอ) เปิดสถานที่นำเสนอนิทรรศการเดี่ยว Mitta del Santi (มิตตะ เดล สันติ) โดย มุก เพลินจันทร์ วิญญรัตน์ หนึ่งในศิลปินสิ่งทอแนวหน้าของไทย
มร.สเตฟาโน ราโบลลี แพนเซรา ภัณทารักษ์บางกอก คุนส์ฮาเลอ ให้ความเห็นว่า Mitta del Santi เป็นงานศิลปะประเภทจัดวาง (Installation Art) ที่ยิ่งใหญ่และมีความทะเยอทะยานที่สุดเท่าที่เพลินจันทร์เคยทำมา
ผ่านการตีความ ‘การทอผ้าขึ้นใหม่’ ให้เป็นทั้งทักษะฝีมือและความร่วมมือของชุมชน พร้อมนำทั้งประวัติศาสตร์ของ บางกอก คุนส์ฮาเลอ ซึ่งเคยเป็น ‘โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช’ และ ‘ปัญหาชายแดน’ มาเป็นแรงบันดาลใจ
“มิตตะเป็นภาษาสันสกฤต หมายถึงมิตร สันติคือสันติภาพ ชื่อของผลงานศิลปะชิ้นนี้แปลว่า ‘เพื่อนแห่งสันติภาพ’ มีหลายองค์ประกอบตอนทำงานชิ้นนี้ เป็นช่วงที่มีความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยกับเพื่อนบ้าน”
มุก เพลินจันทร์ เริ่มต้นอธิบายผลงานศิลปะ Mitta del Santi งานศิลปะจัดวางขนาด 5.5 x 9.7 เมตรชิ้นนี้ ศิลปินนำผลงานเก่าและผลงานใหม่ของตนเองมารวมกัน ผลงานแต่ละชิ้นมาจากสถานที่และมีประวัติเรื่องราวที่ต่างกันไปเพื่อเล่าเรื่องใหม่
“เรื่องใหม่ที่มุกพยายามจะบอกคือ เราอยู่กันได้อย่างสามัคคี มีความสุข แบบไม่มีรอยต่อ (seamless) มุกนำผลงานเก่าและใหม่มาเชื่อมต่อกันด้วยวิธีทอผ้า ทำให้มองไม่เห็นตะเข็บ ไม่เห็นเส้นที่เป็นเหมือนเส้นแบ่งเขตแดน เวลาทะเลาะกัน สู้รบกัน ไม่ว่าจะประเทศไทย-ประเทศเพื่อนบ้าน อังกฤษ-สกอตแลนด์ จริงๆ เส้นแบ่งเขตแดนมันเล็กมาก ข้ามกันไปข้ามกันมา แต่เมื่อเกิดการทะเลาะ คนที่เสียหายคือคนที่อยู่ตามแนวชายแดน”
บนผลงานชิ้นนี้ยังถ่ายทอดกลิ่นไอของ 'บางกอก คุนส์ฮาเลอ' ที่ดั้งเดิมคือ โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช ไว้อีกด้วย
‘โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช’ เป็นที่ตั้งของสำนักพิมพ์หนังสือแบบเรียนไทย อาทิ ดรุณศึกษา ดิกชันนารี ปทานุกรม และนิตยสารที่เน้นเนื้อหาสาระสำหรับเยาวชน อาทิ ชัยพฤกษ์ ชัยพฤกษ์วิทยาศาสตร์ ชัยพฤกษ์การ์ตูน
มุมหนึ่งของงาน Mitta del Santi ปรากฏงานผืนผ้าเหลือทิ้งจากการทำคอลเลคชั่นเสื้อผ้าได้รับการนำมาตัดอย่างประณีตเป็นรูปวงกลม เลียนแบบตราสัญลักษณ์ดั้งเดิมของสำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช ที่เป็นรูปวงกลมสามวงซ้อนเหลื่อมกันและมีอักษร ท ว พ (ตัวย่อของไทยวัฒนาพานิช) อยู่ในวงกลมแต่ละวง
มุก เพลินจันทร์ ตัดผืนผ้าเหลือทิ้งที่ได้รับมาเป็นวงกลมทั้งหมด 399 วง แต่ละวงพิมพ์ถ้อยคำที่มีความหมายเชิงบวกจากหนังสือเรียนสำหรับเด็กที่เคยเผยแพร่โดยโรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช เช่นคำว่าถนอม ธรรมะ วาง บุญ กตัญญู ศรัทธา
เมื่อนำชิ้นส่วนข้อความเหล่านั้นมาประกอบเข้าด้วยกัน จึงเปรียบเสมือนการร้อยเรียงขึ้นเป็นเรื่องเล่าบทใหม่ที่เปลี่ยนความทรงจำของสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นเรื่องราวที่มีชีวิตชีวา
การใช้วัสดุในการสร้างสรรค์ผลงาน Mitta del Santi มุก เพลินจันทร์ ยังคงคอนเซปต์ ความยั่งยืน (Sustainability) ตามความตั้งใจออกแบบและสร้างสรรค์งานศิลปะแต่เดิมมาโดยตลอด
นอกจากผืนผ้าเหลือทิ้ง ยังมีของใช้แล้วเหลือทิ้งเป็นขยะประเภทกระป๋อง ขวดน้ำ กระดาษใช้แล้วในสำนักงาน ถุงน่อง ขยะพลาสติก เชือก ฯลฯ
“ที่เห็นเป็นสีเงิน คือด้านในของกระป๋อง มุกเอามาตัดเป็นเส้นแล้วขึ้นกี่ทอ ที่เห็นเป็นประกายแว้บๆ คือขวดน้ำตัดเป็นเส้น ที่เป็นสีขาวกับสีแดงคือกระดาษออฟฟิศใส่เครื่องทำลายเอกสารแล้วนำมาตีเกลียวด้วยมือให้เป็นเส้นแล้วนำมาทอ
ส่วนที่เป็นสีแดงสีฟ้าสีน้ำเงินคือถุงน่อง ผู้หญิงส่วนใหญ่ใส่แล้วขาดหนเดียวทิ้งเลย มุกมีขยะพลาสติกที่ลูกๆ เก็บเวลาไปทะเลเยอะมาก จะเอามาทอยังไงเพราะมันเป็นขยะ มุกก็เอาไปทำความสะอาด ปั่นให้แห้ง ทำให้เป็นผงเก็บไว้ วันหนึ่งกินไส้กรอกเป็นอาหารเช้า ก็เอ๊ะ..ฉันเอาขยะมายัดใส่ถุงน่องดีกว่า
งานของมุก มุกจะครีเอทวัตถุดิบหรือวัสดุเอง ไม่ใช้ของสำเร็จแล้วมาทอ ถ้าไม่ใช้ของเหลือจากการทำโปรเจคอื่น มุกก็จะใช้ของที่เก็บจากขยะรอบตัวแล้วมาครีเอทเป็นวัสดุ แล้วจึงนำมาทำเป็นงานศิลปะ” เพลินจันทร์ กล่าว
ศิลปะจัดวาง Mitta del Santi จัดแสดง ณ ชั้น 1 บางกอก คุนส์ฮาเลอ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ วันนี้ - 30 พฤศจิกายน 2568 เวลา 14.00 - 20.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์และวันอังคาร)







