Farewell to Maman งานเลี้ยงอำลาแม่แมงมุม ณ ศิลป่า ‘เขาใหญ่’

เมื่อแม่แมงมุม ‘มามอง’ (Mamam) ประติมากรรมแมงมุมยักษ์ ของ หลุยส์ บูร์ชัวส์ ถึงเวลากลับบ้านนางโขนตัวแม่ จัดงานเลี้ยงอำลากลายเป็นวันเวลาแห่งความทรงจำ
ส่งท้ายเดือนสิงหาคมด้วยเรื่องราวของ ‘แม่’ ในแง่มุมของศิลปะ วัฒนธรรม และ ธรรมชาติ ที่มารวมกันอยู่ในสถานที่เดียวกัน คือ ศิลป่า เขาใหญ่ หรือ เขาใหญ่ อาร์ต ฟอเรสต์
ในงาน Farewell to Maman ที่จัดขึ้นเพื่ออำลา มามอง (Maman หมายถึง แม่) ประติมากรรมแมงมุมยักษ์ ของ หลุยส์ บูร์ชัวส์ ศิลปินหญิงชาวฝรั่งเศส – อเมริกัน
ที่มาอยู่ที่ 'ศิลป่าเขาใหญ่' ตั้งแต่เดินกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา จนถึงเวลาต้องเดินทางกลับสู่มูลนิธิ The Easton Foundation ที่นิวยอร์กในเดือนสิงหาคมนี้
- แม่แมงมุม
มามอง เป็นประติมากรรมบรอนซ์ขนาดใหญ่ที่เป็นตัวแทนของแม่ ผู้แข็งแกร่งแต่เปราะบาง อบอุ่นแต่ก็มากด้วยอำนาจที่น่าเกรงขาม ในขณะเดียวกันก็เป็นผู้ปกป้องและโอบกอดลูกไว้ด้วยความรัก เป็นผลงานศิลปะอันลึกซึ้งของ หลุยส์ บูร์ชัวส์ ที่สะท้อนความรู้สึกที่มีต่อแม่ของเธอ
ประติมากรรมมามอง มีด้วยกัน 7 ชิ้น ติดตั้งถาวรอยู่ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะชั้นนำ ได้แก่ Tate Modern (อังกฤษ), Guggenheim Museum Bilbao (สเปน), Mori Art Museum (ญี่ปุ่น) และ National Gallery of Canada (แคนาดา) เป็นต้น
สำหรับ มามอง ที่ ศิลป่า เขาใหญ่ นี้เป็นซีรีส์เพียงชิ้นเดียวที่ได้รับอนุญาตให้ออกเดินทางไปจัดแสดงในสถานที่ต่าง ๆทั่วโลก การเดินทางมาเมืองไทยครั้งนี้นับเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกในรอบ 25 ปีของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เราอาจคุ้นตากับภาพประติมากรรมมามองที่จัดแสดงในเมืองใหญ่ เมื่อได้มาเห็นมามองมาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของเขาใหญ่ พลังของแม่แมงมุมเมื่อมาผสานกับพลังของธรรมชาติก่อให้เกิดภาพที่แปลกตาชวนให้หยุดครุ่นคิดและจินตนาการ
• แม่ธรณี
ล้อมวงรอบมันดาลาที่สร้างสรรค์จากธรรมชาติในศิลป่า
มือของคุณสัมผัสดินครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ คุณชาลิสา วีรวรรณ ชวนตั้งคำถามก่อนเข้าร่วมกิจกรรมอำลา แม่แมงมุม (มามอง) ไปกับผลงานการสร้างสรรค์มันดาลาที่นำดอกไม้ เมล็ดพันธุ์ ก้อน หิน และดินในพื้นที่ของเขาใหญ่ อาร์ต ฟอเรสต์ มาจัดวางเป็นรูปวงกลม
บางคนเพิ่งปลูกต้นไม้เมื่อวานนี้ ในขณะที่บางคนมื้อไม่เคยเปื้อนดินเลยเป็นเวลานาน หลังจากนั่งสมาธิ นิ่งฟังจังหวะการเต้นของหัวใจชั่วครู่
คุณชาลิสา จึงเชื้อเชิญให้เราใช้สองมือหยิบดินเหนียวมาผสมกับแกลบแล้วปั้นดินให้เป็นก้อน ในขณะเดียวกันก็ซ่อนเมล็ดพืชของต้นไม้ที่เติบโตอยู่ในป่าแห่งนี้เพื่อทำเป็น Seed Bomb ให้กลับไปนำไปปลูกที่บ้าน หรือ ฝากไว้ให้เติบโตในศิลป่าเขาใหญ่
มือที่ได้จับดิน ชวนให้ความคิดที่วิ่งวนหยุดนิ่ง ใจจดจ่อต่อก้อนดินที่อยากแต่งแต้มกลีบดอกไม้ให้มีสีสัน ขณะวางก้อนดินไว้ข้างมันดาลา อดคิดไม่ได้ว่าการฝากดินเป็นหนึ่งในการอำลาที่เป็นธรรมชาติดีจริง ๆ
• แม่นางโขน มณโฑ และสีดา
นางสีดาถูกลักตัวมาอยู่กรุงลงมา 14 ปี ไม่เคยอาบน้ำเลยรู้ไหม นางมณโฑ เดิมเคยเป็นกบมีลูกเป็นลูกครึ่งยักษ์ ลูกครึ่งกบ และ เป็นแม่ของนางสีดา เป็นเกร็ดโขนน่ารู้เมื่อนำมาจัดแสดงกลางป่าเขา บรรยากาศนั้นเล่าให้ฟังก็ไม่สนุกเท่าของจริง
นางสีดาลงอ่างอาบน้ำเมื่อได้รับทราบว่าจะได้กลับคืนอโยธยา
นางสีดาถือเตารีดสื่อถึงความร้อนเมื่อทศกัณฐ์จะมาแตะต้องตัว
การแสดงเกร็ดโขนชุดพิเศษ โดยศิลปินชั้นครูจากกรมศิลปากร ถือเป็นไฮไลท์ของงาน Farewell to Maman ที่เรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมได้อย่างกราวใหญ่ แบ่งออกเป็น 2 ชุด
ในช่วงบ่ายเป็นการแสดงเกร็ดโขนเล่าเรื่องนางสีดาที่ตามกวางมาจนถูกลักตัวมาอยู่กรุงลงกา กลางป่าวางอ่างอาบน้ำไว้เพราะมีเรื่องเล่าว่านางสีดาไม่เคยอาบน้ำเลยตลอดเวลาที่อยู่เมืองยักษ์
ส่วนทศกัณฐ์ก็ไม่สามารถแตะต้องตัวนางสีดาได้เพราะแต่ครั้งใดรู้สึกร้อนขึ้นทันที ในการแสดงโขนครั้งนี้ชวนให้ผู้ชมอมยิ้มเมื่อใช้เตารีดเป็นสัญลักษณ์ถึงความร้อนนั้น
ส่วนช่วงเย็นเป็นการแสดงเกร็ดโขน ตอน ความโศกาของนางมณโฑ (Melancholy of Mandodari)
เปิดเวทีการแสดงอยู่เบื้องหน้าแม่แมงมุม โดยมีฉากหลังเป็นทิวเขาและแผ่นฟ้ากันกว้างใหญ่ ถ่ายทอดเรื่องราวของนางมณโฑ ในฐานะ แม่ ผู้สวยงามทว่าโศกเศร้า
อ่อนโยนแต่สง่างาม เชื่อมโยงพลังของความเป็นแม่ที่เต็มไปด้วยความรักและห่วงใยไปยัง 'มามอง' ประติมากรรมแม่แมงมุมยักษ์
การแสดงเกร็ดโขน ตอน ความโศกาของนางมณโฑ
คุณจิตติ ชมพี ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์โครงการเกร็ดโขน กล่าวถึงการนำเรื่องของนางมณโฑและนางสีดาในการแสดงครั้งนี้ว่าเป็นการเล่าเรื่องของ นางโขน นักแสดงผู้ชายที่เล่นบทเป็นตัวนาง และดนตรีประกอบการแสดงโขนที่มีความเชื่อมโยงระหว่างนางมณโฑและตำนานสัตว์ในรามเกียรติ์
“เกร็ดโขน เป็นเรื่องราวที่ซ่อนเร้น เป็น Untold Story ที่ไม่ได้มีการนำเสนอจากหลายเหตุผล เช่น เรื่องนางโขน ที่ปัจจุบันหาดูได้ยากเพราะว่าเป็นนักแสดงชายที่เล่นบทตัวนางที่มีความรู้จริง ๆ เสียชีวิตไปหมดแล้ว การถ่ายทอดองค์ความรู้เริ่มสูญหาย
การเข้ามาทำงานในโครงการเผยแพร่องค์ความรู้เกร็ดโขนผ่านงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยสู่ระดับนานาชาติ
ทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมของเราโดยคาดไม่ถึง จากการเข้าไปสัมภาษณ์ครูและนักแสดง ข้อมูลบางอย่างครูช่วยค้นหามาให้แล้วครูจะบอกว่าเล่าเรื่องนี้สิ เพราะว่าเป็นเรื่องที่ซ่อนเร้นเราก็ดึงมา
เช่น เรื่องนางสีดาไม่อาบน้ำ 14 ปี คนได้ยินแล้วรู้สึกอยากเห็นเพราะคิดไม่ถึง หรือ คำว่า บาก ศัพท์ที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างนักแสดงกับนักดนตรีเพื่อเปลี่ยนกระบวนท่าของตัวละครที่เขาใช้กันอยู่เป็นปกติทุกวัน แต่เราคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ”
อำลาแม่แมงมุม
งานเลี้ยงอำลา มามอง ปิดฉากลงอย่างอบอุ่นและประทับใจ มือทั้งสองของเราได้โบกมือลาผ่านก้อนดินที่ฝากไว้กับพระแม่ธรณี ได้ปรบมือให้กับการแสดงของแม่มณโฑและนางสีดาลูกสาวโดยศิลปินนักแสดงและนักดนตรีชั้นครูจากกรมศิลปากร ท่ามกลางธรรมชาติของเขาใหญ่ เป็นฉากจบที่งดงามจับใจ
หวังว่าจะได้พบกันอีกนะ แม่แมงมุม
เกี่ยวกับ : การแสดงเกร็ดโขน ตอน ความโศกาของนางมณโฑ (Melancholy of Mandodari)
เป็นส่วนหนึ่งของโครงการศิลปะเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา เป็นการต่อยอดการดำเนินโครงการเผยแพร่องค์ความรู้เกร็ดโขนผ่านงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยสู่ระดับนานาชาติ
โดยเนื้อเรื่องมุ่งเน้นบทบาทของเครื่องดนตรีไทยในวงปี่พาทย์ และสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครในวรรณคดีกับบทบาทของเครื่องดนตรีไทยในแต่ละชิ้น การทดลองขยายขอบเขตของศิลปะโขนผ่านการจัดแสดงและการออกแบบฉากในรูปแบบใหม่ที่ไม่ยึดติดกับกรอบประเพณี
ทำให้สามารถร้อยเรียงส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเรื่องราวจากรามเกียรติ์ขึ้นใหม่ โดยมุ่งเน้นไปที่ตำนานสัตว์ในวรรณคดี และบทบาทของตัวละครตัวนางที่ใช้นายโขนเป็นผู้แสดง จึงนำเสนอเรื่องนางมณโฑ หญิงผู้เปี่ยมด้วยความงาม ปัญญา และความจงรักภักดี แต่กลับต้องดำรงอยู่ภายใต้ข้อจำกัดที่เกิดจากอำนาจและความปรารถนาของบุรุษ
ที่มา : กระทรวงวัฒนธรรม
เกี่ยวกับ : ศิลป่า เขาใหญ่ (Khao Yai Art Forest)
เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ของ คุณมาริษา เจียรวนนท์ โดยมี สเตฟาโน ราโบลลี แพนเซรา รับหน้าที่เป็น Artistic Director ผู้คัดสรรศิลปินและนิทรรศการ
ชื่อ ศิลป่า มาจากการผสานคำว่า ศิลปะ และ “ป่า สะท้อนถึงเจตนารมณ์ในการสนับสนุนและผลักดันศิลปินให้ได้สร้างสรรค์ผลงานท่ามกลางธรรมชาติ
ทั้งยังให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติ ผ่านกิจกรรมและโครงการศิลปะที่ส่งเสริมแนวทางการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน







