ชุดไทยพระราชนิยม ภูษาแห่งพระราชปณิธาน สมเด็จพระพันปีหลวง

ชุดไทยพระราชนิยม  ภูษาแห่งพระราชปณิธาน สมเด็จพระพันปีหลวง

เจาะลึกชุดไทยพระราชนิยม จากพระราชดำริสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สู่ต้นแบบชุดประจำชาติที่งดงามระดับโลก ส่องประวัติและความสง่างามเหนือกาลเวลา

KEY

POINTS

  • ชุดไทยพระราชนิยม เกิดจากพระราชดำริของ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง" เพื่อสร้างสรรค์ชุดประจำชาติสำหรับสตรีไทยในการโดยเสด็จฯ เยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ.2503
  • ทรงศึกษาการแต่งกายของสตรีไทยในอดีตและประยุกต์ให้มีความร่วมสมัยและสง่างาม โดยมี ปิแอร์ บัลแมง นักออกแบบชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ดูแลการตัดเย็บ
  • ชุดไทยพระราชนิยม มี 8 แบบ ได้รับการพระราชทานชื่อตามชื่อพระที่นั่งและพระตำหนักต่างๆ อาทิ ชุดไทยจักรี, ชุดไทยบรมพิมาน, ชุดไทยเรือนต้น
  • ฉลองพระองค์ชุดไทยทำให้สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้รับการยกย่องในระดับนานาชาติ และทรงได้รับการจารึกพระนามาภิไธยในฐานะหนึ่งในสตรีที่แต่งกายงดงามที่สุดในโลก

ชุดไทยพระราชนิยม เป็นผลงานทรงออกแบบในพระราชดำริของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งมีจุดเริ่มต้นในปีพ.ศ.2503 ขณะทรงดำรงพระราชอิสริยยศ ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ’

ในปีนั้น สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีหมายกำหนดการโดยเสด็จ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9) ไปทรงเยือนประเทศสหรัฐอเมริกา และ 15 ประเทศในทวีปยุโรป เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีและเพื่อประกาศให้ชาวโลกได้รู้จักประเทศไทยดีขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาฟื้นฟูหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

ชุดไทยพระราชนิยม  ภูษาแห่งพระราชปณิธาน สมเด็จพระพันปีหลวง งานเสวนา ‘แนวทางการส่งเสริมและรักษาชุดไทย เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน’

“ถ้าเราไปอ่านบันทึกสมัยรัชกาลที่ 5 หรือในยุคปัจจุบันก็เหมือนกัน จะมีระเบียบการแต่งกายของประมุขแต่ละประเทศ เช่นจะต้องทรงชุดอะไร ทรงสูท ทรงเครื่องแบบแม่ทัพบก แม่ทัพเรือ หรือประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นระเบียบของฝ่ายบุรุษ

แต่ฝ่ายสตรีหรือ ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ’ ที่จะตามเสด็จในยุคเมื่อ 70-80 ปีที่แล้ว ไทยไม่มีระเบียบแบบแผนการแต่งกาย และชุดที่แสดงอัตลักษณ์ของสตรีประจำชาติในยุคนั้นเรายังไม่มี ส่วนใหญ่อาศัยเครื่องแต่งกายตามแบบยุโรป เช่นใส่สูท แจ๊คเก็ต มีการสวมหมวก” 

ดร.สุรัตน์ จงดา ผู้ช่วยอธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ให้สัมภาษณ์กับ ‘กรุงเทพธุรกิจ’ ในงานเสวนา ‘แนวทางการส่งเสริมและรักษาชุดไทย เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน’ ณ อาคารอเนกประสงค์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568

ชุดไทยพระราชนิยม  ภูษาแห่งพระราชปณิธาน สมเด็จพระพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระวิสัยทัศน์กว้างไกล ทรงเห็นว่าบางประเทศมีเครื่องแต่งกายสตรีที่แสดงอัตลักษณ์ชาติชัดเจน เช่น ญี่ปุ่นมีกิโมโน เกาหลีมีชุดฮันบก สตรีอินเดียมีส่าหรี 

พระองค์ทรงตระหนักว่า การเสด็จพระราชดำเนินครั้งนั้นถือเป็นการตามเสด็จทางราชการครั้งสำคัญและครั้งใหม่ในฐานะสมเด็จพระบรมราชินีนาถแห่งราชอาณาจักรไทย

การปรากฏพระองค์ในฐานะดังกล่าว เปรียบเสมือนตัวแทนของสตรีไทยทั้งชาติ ดังนั้น พระองค์จึงทรงเตรียมพระองค์ให้พร้อมในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเตรียมฉลองพระองค์ให้เหมาะสมกับทุกโอกาส

ทั้งยังทรงมีพระราชประสงค์ที่จะทรงทั้ง ฉลองพระองค์ชุดไทย ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ไทยอย่างแท้จริง เพื่อถ่ายทอดมรดกวัฒนธรรมอันดีงามของไทยให้ชาวโลกได้ประจักษ์ และ ฉลองพระองค์แบบสากล เพื่อให้เหมาะสมกับงานพิธีแบบตะวันตก สถานที่ราชการ และสถานที่หลายลักษณะที่ต้องเสด็จไปทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ณ ต่างแดน รวมถึงสภาพภูมิอากาศ

จึงทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้นักวิชาการค้นคว้าประวัติศาสตร์ธรรมเนียมการแต่งกายของสตรีไทยแต่โบราณ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คุณข้าหลวงและนางสนองพระโอษฐ์ช่วยกันนำรายละเอียดมาออกแบบตัดเย็บ ‘ฉลองพระองค์ชุดไทย’ แบบต่างๆ และ ‘เครื่องประดับ’ ให้เหมาะสมตามธรรมเนียมและโอกาสต่างๆ ระหว่างเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศเป็นทางการครั้งนั้น

แต่เนื่องจากช่างไทยสมัยนั้นยังไม่มีความเชี่ยวชาญในการตัดชุดหรือเครื่องแต่งกายแบบตะวันตก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นาย ปิแอร์ บัลแมง (Pierre Balmain) นักออกแบบชาวฝรั่งเศสผู้มีชื่อเสียง เป็นผู้ดูแลการออกแบบตัดเย็บและให้คำแนะนำเรื่องการแต่งกายตามธรรมเนียม และนาย ฟรองซัวส์ เลอซาจ (Francois Lesage) ช่างฝีมือในการปักเสื้อชื่อดังของฝรั่งเศส เป็นผู้ดูแลงานปักฉลองพระองค์ โดยโปรดเกล้าฯ ให้ใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สำหรับการจัดเตรียมฉลองพระองค์ทั้งหมด

ชุดไทยพระราชนิยม  ภูษาแห่งพระราชปณิธาน สมเด็จพระพันปีหลวง

สมเด็จพระราชินีอิงกริดแห่งเดนมาร์ก และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในฉลองพระองค์ชุดไทยศิวาลัย

ชุดไทยพระราชนิยม  ภูษาแห่งพระราชปณิธาน สมเด็จพระพันปีหลวง พระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในฉลองพระองค์ชุดไทยแบบต่างๆ บนปกนิตยสารดังจากทั่วโลก ต่างชื่นชมยกย่องทรงเป็น 'พระราชินีผู้มีสิริโฉมงดงามและแต่งงายงดงามที่สุดในโลก'

ฉลองพระองค์ที่ ปิแอร์ บัลแมง และคณะทำงานทูลเกล้าฯ ถวายสำหรับการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาและประเทศในทวีปยุโรปครั้งนั้น มีความงดงามและสมพระเกียรติเป็นอย่างยิ่ง

สื่อมวลชนและชาวต่างประเทศให้ความสนใจและชื่นชมพระสิริโฉมของ ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ’ เป็นอย่างมาก บรรดาผู้เชี่ยวชาญการออกแบบเครื่องแต่งกายสตรีของโลกต่างเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินีของประเทศไทยเวลานั้น อาทิ

  • International Best Dressed List Hall of Fame in 1960 (1 ใน 10 สตรีแต่งกายงามที่สุดในโลก พ.ศ.2503)
  • The 1964 list of the world's best dressed (สตรีแต่งกายงดงามที่สุดในโลกปี พ.ศ.2507)
  • 12 the World's Best-Dressed Women Hall of Fame1965 in New York (หอแห่งเกียรติคุณ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา จารึกพระนามาภิไธยในฐานะทรงเป็น 1 ใน 12 สุภาพสตรีแต่งกายงามที่สุดในโลก พ.ศ.2508)

ชุดไทยพระราชนิยม  ภูษาแห่งพระราชปณิธาน สมเด็จพระพันปีหลวง ฉลองพระองค์แบบสากล

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงแนะนำให้เพิ่มเติมและปรับปรุงฉลองพระองค์ชุดไทยแบบต่างๆ ที่ทรงในระหว่างเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการในครั้งนั้น กลายเป็นต้นแบบชุดประจำชาติไทยสำหรับสตรี เป็นที่รู้จักกันดีภายหลังในชื่อ ชุดไทยพระราชนิยม มีทั้งหมด 8 แบบในเวลาต่อมา

ซึ่งพระองค์ทรงสวมใส่ในโอกาสต่างๆ ทั้งในประเทศและระหว่างเสด็จฯ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจต่างประเทศ จนเป็นที่รู้จักและชื่นชมทั้งในประเทศและนานาชาติ

ชุดไทยพระราชนิยม ทั้ง 8 แบบ ยังมี ชื่อประจำชุด ที่มีความสุนทรีย์ทางภาษาและแสดงเอกลักษณ์ชาติไทยอย่างชัดเจนดังนี้

  • ชุดไทยเรือนต้น
  • ชุดไทยจักรี
  • ชุดไทยจักรพรรดิ
  • ชุดไทยอมรินทร์
  • ชุดไทยศิวาลัย
  • ชุดไทยบรมพิมาน
  • ชุดไทยจิตรลดา
  • ชุดไทยดุสิต

ชุดไทยพระราชนิยม  ภูษาแห่งพระราชปณิธาน สมเด็จพระพันปีหลวง ชุดไทยจักรพรรดิ ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยดุสิต ชุดไทยจักรี

สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงนำพระที่นั่งองค์ต่าง ๆ ในพระบรมมหาราชวังและพระราชวังดุสิตมาเป็นแรงบันดาลพระทัยในการออกแบบ ‘ชุดไทยพระราชนิยม’ และพระราชทานชื่อชุดไทยทรงออกแบบนี้ตามชื่อพระตำหนักดังกล่าว ดร.สุรัตน์ จงดา กล่าวพร้อมยกตัวอย่างเพิ่มเติมว่า

ชุดไทยเรือนต้น ประกอบด้วยเสื้อแขนกระบอก คอเสื้อแบบชาวบ้าน นุ่งกับผ้าซิ่น ทรงตั้งชื่อชุดไทยพระราชนิยมชุดนี้ตามชื่อ พระตำหนักเรือนต้น ที่เป็นตำหนักไม้ทรงไทยแบบพื้นบ้านแบบอัตลักษณ์ไทย เราจะเห็นความเชื่อมโยงกัน และมีความเหมาะสมกับชุดแบบพื้นบ้านไทย

ชุดไทยจักรพรรดิ มาจากชื่อ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ซึ่งเป็นชุดใหญ่ตามความหมายจักรพรรดิ คือชุดไทยชุดใหญ่สำหรับพระบรมราชินีหรือชุดไทยชั้นสูง นุ่งจีบห่มสไบ มีสะพักที่ต้องปักเย็บ มีเครื่องประดับที่เป็นเครื่องประดับชุดไทยโบราณ

ชุดไทยจักรี มาจากชื่อ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระที่นั่งองค์นี้สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ประยุกต์ระหว่างตึกแบบตะวันตกผสมกับหลังคาแบบไทย เป็นงานร่วมสมัย ‘ชุดไทยจักรี’ ที่สมเด็จฯ ทรงออกแบบเลยเป็นชุดไทยร่วมสมัย นุ่งจีบแต่ตัดเย็บอย่างกระโปรงตะวันตก จับเดรปแบบชุดเดรปตะวันตก เปิดไหล่ข้างหนึ่งแบบห่มสไบไทย แต่จับมารวมกันแล้วปล่อยทิ้งชายสไบยาวลงมา

ชุดไทยดุสิต ทรงนำชุดไทยที่เป็นเสื้อสตรีโบราณ รัดรูป คอเว้า นำมาปักประดับแล้วนุ่งกับผ้าจีบ เหมือน พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สถานที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญ

หรือแม้แต่ ชุดไทยจิตรลดา ก็มาจาก พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ตั้งอยู่ในสวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต ซึ่งเป็นสวนและนาข้าว ชุดไทยชุดนี้จึงมีลักษณะกึ่งชาวบ้านเช่นกัน สวมใส่ในโอกาสเป็นทางการได้ แต่เป็นทางการไม่เท่าชุดไทยจักรพรรดิและชุดไทยจักรี ซึ่งพระที่นั่งสององค์นี้อยู่ในพระบรมมหาราชวังจึงมีความเป็นพิธีการมากกว่า”

ชุดไทยพระราชนิยม  ภูษาแห่งพระราชปณิธาน สมเด็จพระพันปีหลวง ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยศิวาลัย ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยบรมพิมาน

ดร.สุรัตน์ กล่าวด้วยว่า “ชุดไทยพระราชนิยมที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงออกแบบ เป็นต้นแบบของชุดไทยที่เราใช้ในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีการพัฒนาไปในหลากหลายรูปแบบผ่านงานนาฏศิลป์ อุตสาหกรรมบันเทิง และการประกวดนางงามทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ เราจะเห็นว่าชุดไทยอาจไม่ได้เป็นแพทเทิร์นเป๊ะตามที่สมเด็จฯ ทรงออกมาตั้งแต่ต้น มีการยักย้ายถ่ายเท แต่ให้รู้ว่าต้นแบบล้วนมาจากชุดไทยพระราชนิยมทั้งสิ้น

สิ่งหนึ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของชุดไทยพระราชนิยม คือการตัดเย็บให้ใส่สะดวกสำหรับคนปัจจุบัน ถ้าคนไม่ชิน เราไม่สามารถจับจีบเป็นชายพกมาคาดเอวได้เหมือนคนโบราณ สมเด็จฯ ทรงออกแบบให้ติดตะขอได้เลย แล้วก็ให้รู้ว่าเป็นหน้าจีบหน้านาง”

ชุดไทยพระราชนิยม  ภูษาแห่งพระราชปณิธาน สมเด็จพระพันปีหลวง ดร.สุรัตน์ จงดา และ สาวิตรี สุวรรณสถิตย์ (ภาพเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568)

ขณะที่ สาวิตรี สุวรรณสถิตย์ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม วิทยากรในการเสวนาฯ กล่าวถึงอัตลักษณ์ความงามของชุดไทยพระราชนิยมซึ่งเกิดจากพระอัจฉริยภาพใน สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ว่า

“สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงมีรสนิยมที่ดี ท่านเป็นพระธิดาของทูตในราชสำนักเซนต์เจมส์ กรุงลอน ประเทศอังกฤษ และประเทศฝรั่งเศส

ที่สำคัญพระองค์ท่านไม่ได้ทรงงานลำพัง ท่านมีที่ปรึกษานักประวัติศาสตร์ ท่านผู้หญิงและนักวิชาการที่มาดูว่าชุดต่างๆ ในอดีตที่เจ้านายผู้ใหญ่แต่งกายกันอย่างไร นำมาพัฒนาแล้วสร้างแพทเทิร์นตัดเย็บ ชุดไทยพระราชนิยมจึงมีความสง่างามสำหรับโอกาสต่างๆ และเหมาะกับสรีระคนไทย

การสร้างเสริมรสนิยมว่าชุดไหนเหมาะกับคนรูปร่างอย่างไร และเหมาะกับโอกาสใด เป็นสิ่งละเอียดอ่อนมาก

ในงานเลี้ยงของนานาชาติมีเดรสโค้ดบอกการแต่งกาย เพราะต้องการให้คนเคารพงาน แต่งกายให้เหมาะสมกับงาน เป็นเรื่องที่ต้องส่งเสริมและสอนกันว่าชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบควรแต่งอย่างไร”

แม้เจริญพระชันษาขึ้น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ยังทรงพัฒนา ‘ชุดไทย’ ต่อเนื่อง อาทิ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำผ้าปาเต๊ะมาตัดเย็บเป็นชุดไทยใส่กับผ้าลูกไม้

ฉลองพระองค์ทุกองค์งามทุกช่วงพระชันษาของพระองค์ท่าน ทรงประสงค์ให้คนไทยทุกคนสามารถสวมใส่ชุดไทยที่มีความหลากหลาย พร้อมกับสืบทอดศิลปหัตถกรรมการทอผ้าของไทย