มูอินเทรนด์ คราฟต์อีสานพลิกความเชื่อ ก่อมูลค่าเศรษฐกิจยั่งยืน

พลังมูสู่มูลค่า! ต้นแบบงานคราฟต์อีสานสร้างสรรค์ พลิก 'ความเชื่อ' เป็นสินทรัพย์ทางจิตวิญญาณโดยครีเอเตอร์ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ใน ISANCF 2025
KEY
POINTS
- ISAN MUNIVERSE หนึ่งในนิทรรศการของ "เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568" หรือ Isan Creative Festival 2025 (ISANCF2025)
- เป็นนิทรรศการแสดงผลงาน "ต้นแบบงานคราฟต์" ที่เกิดจากการนำ Craft X Creators X Charisma มาบรรจบกัน
- เพื่อสำรวจแนวคิดที่ว่า "ความเชื่อและความศรัทธาของชาวอีสาน" ไม่ได้เป็นเพียงมรดกทางวัฒนธรรมที่ต้องอนุรักษ์ แต่ยังสามารถสร้าง "มูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคม" ได้อย่างยั่งยืน
- ต้นแบบงานคราฟต์ในโปรเจคนี้ เช่น กระเป๋าถือปักยันต์มงคลพระอาจารย์สุริยันต์ ผ้าพันคอที่ผสานชายผ้าถุงแม่ งานเป่าแก้วรูปนกสาลิกา ไม้กระจายกลิ่นรูปพญาเต่างอย
ในยุคที่ ‘โลกาภิวัตน์’ กัดกร่อนความเป็นท้องถิ่น และ ‘เทคโนโลยี’ เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งอย่างรวดเร็ว ปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นควบคู่กันมาคือ ความเชื่อ กลับกลายเป็นสินค้าที่มีมูลค่าทางการตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ
หนึ่งในตัวอย่าง ‘สินค้าความเชื่อ’ ที่มีมูลค่าทางการตลาดสูง คือ พระเครื่องไทย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA พบว่า ‘พระเครื่องไทย’ มีมูลค่าตลาด 28,000-40,000 ล้านบาท/ปี มีผู้เล่นในตลาดกว่า 2 ล้านคน ทั้งผู้สะสม ผู้ลงทุน และผู้ศรัทธา ช่องทางการขายแบ่งเป็นตลาดหน้าร้าน 60% และตลาดออนไลน์ 40%
นอกจากนี้ ‘หนังไทยเกี่ยวกับความเชื่อ’ ก็ได้รับความนิยมและสร้างรายได้เกิน 100 ล้านบาทหลายเรื่อง
เมื่อ ‘ความเชื่อ’ กลายเป็น สินค้า การสร้างสรรค์จะนำศรัทธาเดินไปข้างหน้าอย่างไรได้บ้าง
CEA ตอบคำถามดังกล่าวไว้ใน ‘เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568’ หรือ Isan Creative Festival 2025 (ISANCF2025) ด้วยนิทรรศการซึ่งมีชื่อว่า ISAN MUNIVERSE (อีสาน มูนิเวิร์ส) หรือจักรวาลงานคราฟต์สายมู
อีสาน มูนิเวิร์ส เป็นการสำรวจจักรวาลของการสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นเมื่อ Craft X Creators X Charisma มาบรรจบกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่า ภูมิปัญญาดั้งเดิมของอีสาน ที่เกี่ยวพันกับ ความเชื่อ ไม่ใช่เพียงมรดกทางวัฒนธรรมที่ต้องอนุรักษ์
แต่เป็น สินทรัพย์ทางจิตวิญญาณ ที่สามารถสร้าง ‘มูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคม’ ได้อย่างยั่งยืน เมื่อผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ที่เหมาะสม
ซอยไหม เรียกทรัพย์
จากจังหวัด มหาสารคาม อีสาน มูนิเวิร์ส นำเสนอผลงานสร้างสรรค์ ซอยไหม เรียกทรัพย์ กระเป๋าผ้าทอมือ ซึ่งเป็นการพบกันระหว่างตัวแทน ความเชื่อ (Charisma) จาก พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ พระนักปฏิบัติธรรมแห่งวัดป่าวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง ได้รับความเคารพศรัทธาอย่างสูงจากพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ
มาเจอกับ งานหัตถกรรม (Craft) ของ กลุ่มทอผ้าอำเภอนาดูน และฝืมือการปักของ กลุ่มศิลปาชีพบ้านกำพี้ (กลุ่มปักซอยไหมน้อย) ต.บรบือ สร้างและก่อตั้งกลุ่มหัตถกรรมปักผ้าด้วยแรงบันดาลใจจาก ‘สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง’ ตั้งแต่ปีพ.ศ.2516 วันนี้กลุ่มศิลปาชีพบ้านกำพี้ไม่เพียงเป็นแหล่งสร้างอาชีพ แต่ยังเป็นหัวใจแห่งการธำรงคุณค่าทางวัฒนธรรมถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นผ่านเส้นไหมสู่ชีวิตจริงที่เต็มไปด้วยศักดิ์ศรีและความหวัง
ผ่านการทำงานของ นักสร้างสรรค์ (Creators) ณกรณ์ ตั้งหลัก นักออกแบบรุ่นใหม่ผู้หลงใหลความงดงามของผ้าไหมและการย้อมสีธรรมชาติ นำความเชื่อใน ยันต์ลายสมปรารถนา ที่พระอาจารย์สุริยันต์มอบให้กับการสร้างสรรค์โปรเจคนี้ มาผสานกับงานหัตถกรรมชุมชน ออกมาเป็นกระเป๋าถือสตรีปักลายยันต์ที่เขาตั้งชื่อว่า ‘ซอยไหม เรียกทรัพย์’
ณกรณ์ให้สัมภาษณ์ว่า กระเป๋าถือสตรีดังกล่าวตัดเย็บด้วยผ้าไหมฝีมือกลุ่มทอผ้าในอำเภอนาดูน ผสมกับงานสานกกของกลุ่มทอเสื่อกกบ้านแพง อำเภอโกสุมพิสัย แปรรูปเป็นกระเป๋าโดยกลุ่มหัตถกรรมในอำเภอกันทรวิชัย
ปักลายยันต์ด้วย ‘ไหมน้อย’ โดยกลุ่มศิลปาชีพบ้านกำพี้ เป็นไหมน้อยที่ได้จากอำเภอกุดรังแหล่งผลิตเส้นไหมมาตรฐานของจังหวัดมหาสารคาม
สำหรับกระเป๋าทรง Tote ณกรณ์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตัดเย็บด้วยผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติจากขนุน คูน ยอ ครั่ง ซึ่งเป็นสีแห่งความมงคลของชาวอีสาน และคุมโทนสีให้เป็น ‘สีดิน’ สื่อความหมายถึงแผ่นดินของมหาสารคาม
“การทำงานครั้งนี้ผมใช้ห่วงโซ่คุณค่าในจังหวัดมหาสารคามทั้งหมด เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชุมชน เป็นสินทรัพย์ที่เขาสามารถต่อยอดงานอื่นๆ ได้ด้วย” ณกรณ์ กล่าว
ซอยไหม เรียกทรัพย์ หรือกระเป๋าปักลายยันต์ มีผู้สั่งจองตั้งแต่ก่อนเปิดงาน ‘เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568’ เนื่องจากแฟนผลงานของณกรณ์เห็นเขาลงไปสอนชุมชนปักลายยันต์ผ่านบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว ก็สนใจไถ่ถามจนรู้ว่ากำลังทำงานอะไร
ณกรณ์กล่าวว่า ยันต์ลายสมปรารถนา เป็นลายยันต์ประจำตัวของพระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ ซึ่งพระอาจารย์กำลังจะมอบ ‘ยันต์ลายมหาเศรษฐี’ ให้ชุมชนสร้างสรรค์เป็นกระเป๋าสร้างกำลังใจเวอร์ชั่นถัดไป
อย่างไรก็ตาม พระอาจารย์สุริยันต์ เน้นย้ำว่า “พลังของคำพร ไม่ได้อยู่ที่วัตถุ แต่อยู่ที่จิตตั้งมั่นและความดีที่เราสร้างขึ้น” ศรัทธาในมุมมองของพระอาจารย์คือการปลุกพลังในใจของตนเองให้มั่นคง เป็นการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงชีวิตด้วยตนเอง โดยมีพุทธคุณเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ไม่ใช่สสิ่งพึ่งพาเพียงอย่างเดียว
ยันต์จากพระอาจารย์สุริยันต์จึงไม่ใช่แค่เครื่องรางป้องกันภัย แต่เป็น ‘แผนที่ทางใจ’ ที่เตือนสติให้ผู้บูชากลับเข้าสู่ธรรม
ผืนใจ : เครื่องราง เครื่องประดับ
กาลก่อน สมัยชายชาญชาติทหารยังออกทัพจับศึกด้วยดาบ หนึ่งในสิ่งที่เปรียบเสมือนเครื่องรางคือ ‘ความรักของแม่’ นอกจากกราบขอพร นายทหารหลายคนยังนำ ชายผ้าถุงแม่ พกติดตัวไปเป็นสิริมงคลให้แคล้วคลาดปลอดภัยกลับเรือน
‘ผ้าถุงแม่’ มีพลังเชิงจิตวิญญาณในความเชื่อของคนอีสานใต้ โดยเฉพาะในจังหวัด สุรินทร์ ผ้าถุงแม่ไม่ใช่แค่ผ้าใช้งาน แต่เปรียบได้กับ ‘ผืนชีวิต’ ที่แม่คลุมท้อง ห่อหุ้มลูกน้อย เป็นเครื่องรางที่ไม่ต้องปลุกเสก เพราะเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังรักและคำอธิษฐาน การพก ‘ชายผ้าถุงแม่’ จึงเปรียบเสมือนได้พกพา ‘เกราะใจของแม่’ ติดตัวไปด้วย
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าเป็น พลังคุ้มครอง ใช้พันเอวเด็กแรกเกิดกันผีร้าย, เป็น พลังบุญ ผ้าถุงที่แม่ใช้ไปวัด ทำบุญ ฟังธรรม เป็นสิ่งสะสมกุศล
ดร.แพรวา รุจิณรงค์ ดีไซเนอร์สิ่งทอ นำความเชื่อ ‘ชายผ้าถุงแม่’ ผสานเข้ากับงานหัตถกรรม กลุ่มทอผ้าไหมบ้านจารย์ ในอำเภอจอมพระ ที่มีชื่อเสียงด้านการทอผ้าไหมและผ้าฝ้ายพื้นเมืองมาอย่างยาวนานจากการใช้กี่พื้นบ้านและย้อมสีธรรมชาติ
ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่เรียกกันในโปรเจคนี้ว่า ผืนใจ ผ้าพันคอที่มี ‘ชายผ้าถุงแม่’ ทอแทรกกับผ้าทอชุมชนอย่างกลมกลืน เปลี่ยนผ้าทอปกติให้แฝงความขลังของ ‘ความเป็นแม่’ สามารถโชว์และนำติดตัวไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันอย่างเปิดเผย ไม่ต้องแอบพกชายผ้าถุงแม่อีกต่อไป
ผลงานสร้างสรรค์จากแนวคิดนี้สร้างมูลค่าได้จริง เมื่อศิลปินนักร้อง ‘ตุล อพาร์ตเมนต์คุณป้า’ นำส่งชายผ้าถุงแม่ของเขาไปถึงมือกลุ่มทอผ้าไหมบ้านจารย์ ด้วยตั้งใจนำ ‘ผืนใจ’ หรือผ้าพันคอทอผสมชายผ้าถุงแม่พกติดตัวไปแสดงคอนเสิร์ตที่ไต้หวัน
ISAN MUNIVERSE
นอกจากงานออกแบบ 2 รูปแบบข้างต้น ใน นิทรรศการ ISAN MUNIVERSE ยังมีตัวอย่างต้นแบบงานคราฟต์ฝีมือท้องถิ่นที่สร้างสรรค์จาก ‘ความเชื่อในอีสาน’ ซึ่งผ่านการออกแบบโดยครีเอเตอร์รุ่นใหม่ อีก 18 รูปแบบ
วัดโตนด จังหวัดนครราชสีมา ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์รวมศรัทธาแห่งวาจามงคล จึงไม่น่าแปลกใจที่ ‘นกสาลิกา’ จะกลายเป็นเครื่องรางยอดนิยมของพ่อค้าแม่ขาย ครู นักพูด คนทำงานบริการ เมื่อไปถึงวัดนี้
ต้นส้ม สตูดิโอ นำความเชื่อความศรัทธาที่ผู้คนมีต่อวัดโดนดในดินแดนภาคอีสานไปให้ ช่างเป่าแก้วในเครือข่ายช่างศิลป์ร่วมสมัยโคราช ถ่ายทอดออกมาเป็น องค์สาลิกาคู่เป่าแก้ว
องค์ประกอบชิ้นงานได้รับการออกแบบจากการตีความ ‘นกสาลิกาคู่’ คือสัญลักษณ์ของความรัก ความสมดุล และพลังคำพูด มาสู่รูปทรงมินิมอลร่วมสมัย ด้วยเส้นโค้งอ่อนช้อยและการเป่าแก้วใส ให้เกิดความรู้สึก ‘เบา บริสุทธิ์ และล่องลอย’ ดังเสียงพูดที่พลิ้วไหว ใช้เป็นของแต่งบ้านและวางประดับบูชาได้อีกด้วย
ดร.อุษา ประชากุล ดุษฎีบัณฑิตคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาวิชานฤมิตศิลป์ (แฟชั่นและสิ่งทอ) จุฬาฯ ผู้สร้างสรรค์ ‘นวัตกรรมสิ่งทอหมุนเวียนจากเศษเหลือทิ้งเปลือกทุเรียน’ ซึ่งได้รับรางวัลดีเด่นผลงานนวัตกรรม สายอุดมศึกษา ปี 2567
นำ ความเชื่อในการทอผ้าของชาวไทญ้อ บ้านโพน จังหวัดนครพนม ที่เปรียบการทอผ้าคือพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อมโยงจิตใจผู้หญิงกับธรรมชาติและบรรพบุรุษ และมีลายทอเฉพาะตัว มาเพิ่มมูลค่าด้วยการย้อมผ้าทอไทญ้อด้วย สีธรรมชาติจากไม้มงคล แล้วดูว่าจะต่อยอดเป็นอะไรได้บ้าง เช่น เครื่องแต่งกายที่ตัดเย็บไว้เป็นตัวอย่าง โดยตั้งชื่อผลงานต้นแบบนี้ว่า MUW ON No.1 (มูวว์ ออน นัมเบอร์ วัน)
นักออกแบบรุ่นใหม่ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น จตุรพิธ พิมพ์แสง ร่วมนำความเชื่อใน ตำนานพญาเต่างอย จังหวัดสกลนคร มาสร้างสรรค์เป็น ไม้กระจายกลิ่น โดยออกแบบไม้แกะสลักเป็นรูปพญาเต่างอยเกาะเหนือดอกไม้กำลังเบ่งบานแกะลาย ‘ตราประจำยาม’ สัญลักษณ์การคุ้มครอง ปกปักรักษา สื่อถึง ‘รากฐานแห่งความมั่นคง’ ที่รองรับความสำเร็จในชีวิต
เมื่อหยดน้ำมันหอมระเหยบนตำแหน่งเกสรดอกไม้ กลิ่นหอมจะค่อยๆ กระจายเหมือนพลังแห่งคำอธิษฐานที่ส่งไปถึงพญาเต่างอย
ไม้แกะสลักรูปพญาเต่างอย เป็นฝีมือการแกะสลักของ กลุ่มแกะสลักไม้บ้านโคกภูทอง ในอำเภอเต่างอย สืบสานการแกะสลักไม้ด้วยมือมายาวนานกว่า 3 ชั่วอายุคน
จากแนวคิดที่จตุรพิธออกแบบ ยังเปิดโอกาสให้พัฒนากลิ่นหอมเอกลักษณ์ท้องถิ่นเพิ่มเติมภายหลัง 4-5 กลิ่น หรือมากกว่านั้น
เมื่อลูกค้าซื้อเต่าไม้แกะสลักไปแล้ว ยังสามารถซื้อน้ำมันหอมระเหยเพิ่ม และกลับมาซื้อซ้ำเมื่อใช้หมด ทำให้ชุมชนขายสินค้าต่อไปได้อีกเรื่อยๆ
เหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนของตัวอย่างหัตถกรรมต้นแบบที่ทำให้ชาวบ้านมีรายได้หมุนเวียนจากความคิดสร้างสรรค์ที่มี ‘ความเชื่ออีสาน’ เป็นแรงบันดาลใจ จัดแสดงให้ชมใน นิทรรศการ ISAN MUNIVERSE ในเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2568
- นิทรรศการ ISAN MUNIVERSE
- สถานที่จัดแสดง TCDC ขอนแก่น
- 28 มิ.ย. - 06 ก.ค.2568
- เวลา 11.00-21.00 น.