Lost in DOMLAND ท่องโลกศิลปะด้านเงียบงัน 30 ปี ของ โน้ส อุดม แต้พานิช

โน้ส อุดม พลิกบทบาทจัดนิทรรศการเดี่ยวครั้งใหญ่ครั้งแรก Lost in DOMLAND เผยตัวตนด้านที่เงียบและลึกซึ้งกว่าเคย งานศิลป์กว่า 1,000 ชิ้น ห้ามพลาด! ไอคอนสยาม 7 มิ.ย. – 3 ส.ค. 68
KEY
POINTS
- นิทรรศการศิลปะเดี่ยวครั้งใหญ่ครั้งแรกของ "โน้ส อุดม แต้พานิช" ใช้ชื่อว่า "Lost in DOMLAND"
- เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้สัมผัสกับอีกด้านหนึ่งของศิลปินที่ "จริงจังและเงียบสงบ" กว่าภาพลักษณ์นักแสดงเดี่ยวไมโครโฟนที่คุ้นเคย
- จัดแสดงผลงานศิลปะกว่า 1,000 ชิ้น เป็นเสมือนการเดินทางสำรวจโลกภายในจิตใจ ของ "โน้ส อุดม" ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา
- นิทรรศการแบ่งออกเป็น 16 โซน จัดแสดงผลงานหลากหลายรูปแบบ เช่น ประติมากรรม ภาพสเก็ตช์ และงานศิลปะที่ทำจากไหมพรม
- แต่ละส่วนสะท้อนถึงแรงบันดาลใจ ความรู้สึก และความคิดของศิลปินในแง่มุมที่แตกต่างกัน รวมถึงนำเสนอการผสมผสานงานศิลปะสมัยใหม่เข้ากับงานช่างฝีมือโบราณของไทย
อู๊ด อุดม แต้พานิช หรือชื่อที่ใช้ในวงการบันเทิงคือ โน้ส อุดม ตั้งตามฉายาที่เพื่อนเรียกกันจนติดปากอันเนื่องมาจากความโดดเด่นของจมูก (nose) บนใบหน้า
นับเป็นศิลปินในวงการบันเทิงผู้เดินทางผ่านโลกของ ‘การใช้คำพูด’ สร้างเสียงหัวเราะผ่านทัศนคติส่วนตัวของตนเองมานานกว่า 30 ปี อย่างที่วงการบันเทิงสากลเรียกกันว่า Stand Up Comedy หรือการแสดงตลกคนเดียวบนเวที
คนไทยส่วนใหญ่รู้จัก โน้ส อุดม แต้พานิช ในฐานะนักแสดงเดี่ยวไมโครโฟนหน้าม่านมาหลายทศวรรษ
ครั้งนี้เป็นโอกาสดีมากๆ สำหรับแฟนผลงาน ‘โน้ส อุดม’ ที่จะได้ใกล้ชิดกับตัวตนหลังม่านด้านที่เงียบกว่า ลึกกว่า และจริงจังยิ่งกว่าของเขา ผ่านผลงานล่าสุด Lost in DOMLAND (ลอสต์ อิน ดมแลนด์) นิทรรศการศิลปะเดี่ยวครั้งใหญ่ครั้งแรกของ โน้ส อุดม
นิทรรศการ Lost in DOMLAND เป็นประตูที่ อุดม แต้พานิช เปิดให้คุณเข้าสู่โลกภายในใจของเขาที่เต็มไปด้วยความอึกทึกของวัยเด็กและความเงียบงันของใจผู้ใหญ่ การถมช่องว่างในรอยต่อระหว่างเจเนอเรชั่นเก่าและใหม่ ผ่านงานศิลปะที่เต็มไปด้วยสีสัน รูปทรง พื้นผิว และจินตนาการ
โน้ส อุดม แจ้งไว้บนบอร์ดแนะนำนิทรรศการว่า งานศิลปะนับ 1,000 ชิ้นที่ปรากฏในนิทรรศการนี้ มิได้สร้างขึ้นเพื่ออธิบายอะไร แต่ทำขึ้นเพื่อเข้าไปอยู่กับความรู้สึกที่บางครั้งก็ไม่มีคำอธิบายใดจำแนกได้
เขาแค่ทำงานศิลปะอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง ยืนระยะมากกว่า 30 ปี ทำในวันปกติธรรมดาที่ไม่มีใครดู ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น ไม่มีเสียงปรบมือ ไม่มีเวที ไม่มีสปอตไลท์ ไม่มีบทพูด
“เหมือนคนที่เขียนบันทึกประจำวัน โดยไม่หวังให้ใครมาอ่าน แต่ก็ยังเขียน เหมือนเป็นวิธีเดียวที่ทำให้รู้ว่ายังรู้สึกอยู่”
โน้ส อุดม เขียนบอกไว้ด้วยว่า “การทำงานศิลปะเหล่านี้ไม่ใช่การสร้างผลงาน มันคือการหายใจอีกแบบหนึ่ง เป็นการเยียวยาในวันที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก เป็นเพื่อนสนิทที่สามารถแชร์เรื่องราวในส่วนลึกของจิตใจซึ่งกันและกันได้
เป็นการเล่นในวันที่โลกจริงอาจจะหนักเกินไป นี่ไม่ใช่การหลบหนี เดินทางออกไปข้างนอก แต่เป็นการเดินทางเข้าไปในความคิดคำนึง ความทรงจำ หรือความเวิ้งว้างของตัวเอง
บางวันมันคือสมุดบันทึก บางวันมันคือสนามเด็กเล่น และหลายๆ วันมันเป็นถ้ำหลบภัยเล็กๆ ที่เขาไม่จำเป็นต้องเรียกร้องความสนใจ ไม่จำเป็นต้องตลก ไม่จำเป็นต้องตอบคำถามอะไรทั้งนั้น”
ด้วยเหตุนี้กระมัง สื่อมวลชนจึงได้รับเกียรติจาก อาจารย์ประดิษฐ์ ตั้งประสาทวงศ์ ศิลปินชั้นเยี่ยมลำดับที่ 24 ของประเทศไทย และ อาจารย์วชิระ ก้อนทอง ประจำหมวดวิชาวาดเส้น วิทยาลัยช่างศิลป และศิลปินรางวัลชนะ UOB Painting of The Year ครั้งที่ 12 กรุณาพาชมนิทรรศการรอบเอ็กซ์คลูซีฟพรีวิวเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2568
อ.ประดิษฐ์ เกริ่นให้ฟังว่า Lost in DOMLAND เป็นนิทรรศการศิลปะที่แสดงถึงแรงบันดาลใจที่แปลกมากของศิลปิน เป็นทั้งแรงบันดาลใจ การเยียวยาของตัวศิลปินเองและผู้เข้าชม
Lost in DOMLAND ใช้พื้นที่กว่า 3,500 ตารางเมตร แบ่งพื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะออกมาถึง 16 พื้นที่ด้วยกัน
การเดินทางในดินแดน DOMLAND เริ่มต้นพื้นที่แรกด้วยความแฟนตาซีกับ โซนประติมากรรม ‘น้าดม’ ขนาดสูง 6 เมตร (ผู้เขียนตั้งชื่อโซนเอง ในคู่มือชมนิทรรศการฯ ระบุไว้แต่หมายเลข) ยืนตระหง่านต้อนรับอยู่กลางห้อง รายล้อมด้วยลูกโป่งขนาดเล็กนับร้อยดีไซน์หน้าตาและรูปทรงเดียวกับประติมากรรม
ถ้าคุณเดินฝ่าเข้าไปในหมู่น้าดมตัวน้อย (ลูกโป่งดีไซน์น้าดม) น้าดมน้อยก็จะแตกกระจายลอยไปคนละทิศละทาง หรือถ้าจับโยนขึ้น น้าดมน้อยก็จะล่องลอยแล้วค่อยๆ ลอยกลับมายืนบนพื้น
อาจารย์ประดิษฐ์กล่าวว่านิทรรศการโซนแรกนี้ชวนให้นึกถึงวัยเด็กที่ทั้งคึกคักและอ่อนโยน จากนั้นมีช่องทางเชื่อมต่อไปยังโซนที่สอง ห้องภาพสเก็ตช์
แฟนตาซีกันต่อกับ ห้องภาพสเก็ตช์ ห้องที่เต็มไปด้วยภาพถ่ายจาก ‘ภาพร่าง’ นับ 1,000 ชิ้น ติดเต็มผนังห้องทั้งสี่ด้านราววอลล์เปเปอร์ และยังมีส่วนหนึ่งที่แชวนห้อยลงมาจากเพดานห้อง ร้อยเรียงผลงานภาพร่างตลอด 30 ปีของ โน้ส อุดม ให้ชมกันอย่างจุใจ
อ.ประดิษฐ์ กล่าวว่า ห้องนี้เปรียบแสมือนคลังสมองของศิลปิน แสดงถึงแรงบันดาลใจ ไกด์ไลน์ การใช้ลายเส้น สี รูปทรง ในการเล่าเรื่องอย่างเป็นธรรมชาติ
จากนั้นให้เดินออกไปยังประตูขวามือ จะพบกับพื้นที่จัดแสดง ประติมากรรมคาแรคเตอร์ จากภาพร่างในห้องที่แล้วแปรมาเป็นคาแรคเตอร์อาร์ตทอยและประติมากรรมมากมายสไตล์โน้ส อุดม ในแต่ละช่วงเวลา
สนุกกันต่อกับ สัตว์ประหลาดบนสายพาน กลุ่มประติมากรรมเหล็กรูปทรงแปลกประหลาดที่มาจากภาพร่างอีกเช่นกัน เสิร์ฟให้ชมบนสายพานแบบร้านอาหารสายพานซูชิ
หุ่นแต่ละตัวเคลื่อนตัวอย่างช้าๆออกมาจากปากอุโมงค์สีขาว เลื่อนผ่านหน้าผู้ชมอย่างเงียบงัน เหมือนอารมณ์บางอย่างที่เคยแวะเวียนเข้ามาในความรู้สึกแล้วจางหายไป
คราวนี้มาถึงอีกหนึ่งไฮไลท์ของนิทรรศการฯ กองทัพตัวประหลาด ห้องที่เต็มไปด้วยประติมากรรมไฟเบอร์ขนาดใหญ่ จำนวน 84 ตัว จากการแสดง ‘เวทีเดี่ยว 13’ แต่ละตัวสีสันสดใดฉูดฉาดแต่รูปทรงมีความประหลาดเข้าขั้นพิกลพิการทั้งหน้าตาและรูปร่างก็ว่าได้
อ.ประดิษฐ์และอ.วัชระ ร่วมกันกล่าวว่า กองทัพตัวประหลาดเหล่านี้ดูเกินเลยจากความปกติไปมาก เป็นสิ่งที่ศิลปินนสะท้อนมาจากบุคลิกและกายภาพภายในจิตใจของบรรดาผู้คนที่ศิลปินเคยพบเจอ
พร้อมกับเหมือนกับจะบอกว่าในความสมบูรณ์แบบภายนอก มนุษย์มีอะไรซุกซ่อนอยู่ภายในใจ เราทุกคนต่างไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
โซนถัดมาตัดฉับความรู้สึกกับ ห้องมอนสเตอร์โชว์ นำเสนอผลงานด้วยแท่นหมุนอย่างที่คุ้นตาในงานมอเตอร์โชว์ แต่ครั้งนี้ไม่ได้โชว์นวัตกรรมล้ำสมัย แต่โชว์นวัตกรรมมุมมืดทางความรู้สึกของมนุษย์ด้วยงานประติมากรรมรูปทรงแปลกตาสีดำ
ผนังรอบข้างประดับ งานศิลปะบนฟอร์มไม้ปิงปอง ความน่าสนใจอยู่ตรงภาพวาดบนโครงร่างไม้ปิงปองเป็นภาพวาดสมัยใหม่และภาพการ์ตูน แต่ใช้เทคนิค ‘ลายรดน้ำ’ ของศิลปกรรมไทยโบราณ
อ.ประดิษฐ์กล่าวว่าศิลปินตั้งใจให้เกิดการสนทนาระหว่างคนรุ่นเก่าที่ได้เห็นลายสมัยใหม่สร้างสรรค์ด้วยงานลายรดน้ำ ขณะที่คนรุ่นใหม่ก็ได้ทำความรู้จักงานช่างฝีมือไทยโบราณ และฟอร์มไม้ปิงปองคือสัญลักษณ์การตอบโต้(ทางความคิด)นั่นเอง
อีกหนึ่งโซนที่ไม่ควรพลาด คือ ห้อง Kaleidoscope ห้องกระจกเงาทรงปริซึมหน้าตัดสามเหลี่ยม ส่วนห้องกระจกข้างในสร้างเป็นทรงหกเหลี่ยม
ภายในห้องกระจกมีประติมากรรม Dom Dog ตัวแทนความรู้สึกของการเป็น under dog (ด้อยกว่า) ที่ โน้ส อุดม รู้สึกติดตัวมาตลอด ตั้งวางอยู่ แวดล้อมไปด้วยการฉายภาพกราฟิกผลงานของศิลปินหลากหลายโทนสีทั้งขาวดำและฉูดฉาดละลานตา คล้ายหนังสั้นที่สะท้อนอยู่บนกระจกทั้งหกด้าน สวยงามแปลกตาจนอาจตาลายก็มีได้บ้าง
อ.ประดิษฐ์ กล่าวว่า ห้องคาไลโดสโคปคือภาพสะท้อนจินตนาการในความคิดของศิลปิน ประติมากรรม Dom Dog ยืนสงบนิ่งแทนตัวศิลปิน ขณะที่ภาพกราฟิกคือตัวแทนสิ่งต่างๆ ที่ไหลวนเข้ามาปะทะตัวเขาไม่สิ้นสุด
นิทรรศการ Lost in DOMLAND ยังมีอีกหลายส่วนให้ค้นหาและตื่นเต้นไปกับความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินผู้มีเอกลักษณ์ โน้ส อุดม แต้พานิช เช่น ห้องเทพทำใจ ประติมากรรมหัวกล้วย สูง 3 เมตร ไม่ได้มีไว้ขอพร แต่มีไว้เตือนสติว่า “ชีวิตเป็นของเรา จะเลือกให้มันซับซ้อน หรือปล่อยให้มันง่าย”
ยังมี ห้องสีชมพู จัดแสดงผลงานศิลปะจากการปัก ‘ไหมพรม’ ที่เมื่อ 2 ปีก่อนศิลปินสนใจอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ถึงขนาดจ้างครูปักไหมพรมมาสอนเป็นการเฉพาะ กระทั่งสามารถสร้างสรรค์เป็น ‘งานศิลปะภาพไหมพรม’ ที่มีความนูนต่ำนูนสูง
เมื่อเรียนรู้วิธีการปักไหมพรม โน้สได้วาดภาพต้นแบบ กำหนดการใช้สีสันแต่ละจุดในภาพ แล้วจึงลงมือปักไหมพรมด้วย Tufting Gun อุปกรณ์ที่สามารถสร้างลักษณะนูนต่ำนูนสูง โดยมีทีมกราฟิกและทีมอาร์ต ‘เมดอินแฮปปี้แลนด์จำกัด’ หนึ่งในบริษัทของศิลปิน 5-6 คน ช่วยกันปักงาน
วัสดุที่ใช้สำหรับสร้าง ‘งานศิลปะภาพไหมพรม’ เป็นไหมพรมอะคริลิค ไหมพรมคอตตอน ไหมพรมแบบฟู และไหมพรมขนสัตว์ (wool) ผลงานภาพปักไหมพรมที่นำมาจัดแสดงครั้งนี้ศิลปินและทีมงานใช้เวลาร่วมกันสร้างสรรค์ 2 ปี 2 เดือน
ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ไม่ได้รีวิว เชิญผู้สนใจท่องโลกศิลปะผลงานสร้างสรรค์ตลอดระยะเวลา 30 ปี ของ โน้ส อุดม ในนิทรรศการ Lost in DOMLAND ได้ที่ The Pinnacle Hall ชั้น 8 ไอคอนสยาม ระหว่างวันที่ 7 มิถุนายน – 3 สิงหาคม 2568 เวลา 11.00-21.00 น.
หมายเหตุ :
- พบกับของที่ระลึกน่ารักจากนิทรรศการฯ และ Pop-up Café สุดพิเศษ Domland x Oh My Godmother กับขนมและเครื่องดื่มที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อ Lost in DOMLAND โดยเฉพาะ อาทิ ไทยากิรูปใบหน้า โน้ส อุดม สอดไส้ครีมวานิลลา ชาไทย เผือก
- บัตรทั่วไป ราคา 850 บาท บัตรเด็กราคา 250 บาท (ส่วนสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร จำหน่ายหน้างานเท่านั้น) สามารถซื้อบัตรเข้าชมนิทรรศการได้ที่หน้างาน, เคาน์เตอร์ เซอร์วิส All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขา