เบญจภาคีงานศิลปะไทย งามตระการภาพชุด ‘บึงบัว’ ทวี นันทขว้าง

เปิดภาพวาด ‘บึงบัว’ ตระกูลภาพวาดฝีมือ ทวี นันทขว้าง ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเบญจภาคีวงการศิลปะไทย ส่อง 9 ผลงานเด่นในการประมูลงานศิลปะ WWW
กล่าวได้ว่าในการประมูลงานศิลปะแต่ละครั้งที่จัดโดย บริษัท ดิ อาร์ต อ๊อคชั่น เซ็นเตอร์ (The Art Auction Center) ล้วนมีงานศิลปะที่น่าตื่นตาตื่นใจอยู่ในรายการประมูลเสมอ
ในการประมูลนัดล่าสุดที่ตั้งชื่อว่า WWW (World Wide Web) ซึ่งหมายถึง ‘โลกแห่งการเชื่อมต่อ’ มีผลงานศิลปะที่แม้ไม่สามารถครอบครอง แต่หากได้ชมผลงานจริงของศิลปิน ก็น่าชื่นใจมากแล้ว เพราะ The Art Auction Center นำผลงานที่เข้าร่วมประมูลมาจัดแสดงเป็นนิทรรศการให้ได้ชมกันก่อน
การแสดงงานศิลปะภายใต้แนวคิด ‘โลกของการเชื่อมต่อ’ ครั้งนี้ เปรียบเสมือนการเชิญชวนผู้ชมสำรวจ ‘บทบาทของศิลปะ’ ท่ามกลางคลื่นข้อมูลที่หมุนเวียนในยุคดิจิทัล
“งานศิลปะไม่เพียงแต่เชื่อมโยงผู้คน แต่ยังสะท้อนความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง ท่ามกลางโลกที่ดูเหมือนจะเชื่อมต่อกันตลอดเวลา แต่กลับห่างไกลจากความเข้าใจ ศิลปะจึงกลายเป็นเสมือนเข็มทิศที่นำทางเรากลับสู่แก่นแท้ของตนเอง” พิริยะ วัชจิตพันธ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท The Art Auction Center กล่าวถึงแนวคิดหลักและแรงบันดาลใจในการจัดงานประมูลครั้งนี้
“นิทรรศการ WWW เป็นเหมือนการเปิดหน้าต่างให้กับทั้งคนรักศิลปะและผู้เริ่มต้น ได้กลับมารับรู้คุณค่าที่แท้จริงของการมองเห็น”
นิทรรศการศิลปะและการประมูล “WWW” มีผลงานศิลปะ จำนวน 136 ชิ้น จากศิลปินไทยระดับแนวหน้า ทั้งศิลปินชั้นครูผู้เปี่ยมประสบการณ์ และคนรุ่นใหม่ที่น่าจับตา
มีผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่งานจิตรกรรมคลาสสิกไปจนถึงสื่อผสมร่วมสมัยและผลงานแนวทดลองที่ฉีกกรอบการนำเสนอแบบเดิม
แต่ละชิ้นล้วนถ่ายทอดแนวคิด อัตลักษณ์ และเรื่องเล่าที่แตกต่าง ตั้งแต่การตั้งคำถามต่อโลก ไปจนถึงการสำรวจความรู้สึกส่วนลึกในจิตใจมนุษย์ อย่างลึกซึ้งและทรงพลัง
มีแม้กระทั่งวาดภาพที่อยู่ในตระกูลที่นักสะสมงานศิลปะยกย่องให้เป็น เบญจภาคี ของวงการศิลปะไทย และผลงานเด่นชิ้นอื่นๆ นำมาให้ชมเบื้องต้นรวม 9 ชิ้น ดังนี้
“TIGER/เสือ” โดย ถวัลย์ ดัชนี (ปี 2551)
- เทคนิค: Oil on canvas
- ราคาประเมิน: 4,000,000 – 5,000,000 บาท
ผลงานจิตรกรรมสีน้ำมันบนผ้าใบของ ถวัลย์ ดัชนี ชิ้นนี้ เป็นอีกหนึ่งผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์สัตว์ป่าออกมาได้อย่างทรงพลังเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นมวลกล้ามเนื้อที่อาจารย์ถวัลย์ขัดเกลาให้เส้นมีความเคลื่อนไหว
ทั้งยังมีการจัดองค์ประกอบให้เห็นขนาดของเขี้ยวเสืออย่างเด่นชัด ซึ่งเป็นการช่วยผลักเน้นความดุดันของสัตว์ป่าให้ออกมาได้อย่างเต็มที่
รวมถึงรายละเอียดด้านบนของภาพซึ่งปรากฏเป็นรูปดวงดาวกำลังเคลื่อนตัวไปยังทิศทางเดียวกันกับเสือ ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจในส่วนของการสร้างความหมายได้เป็นอย่างดี
ความพิเศษของผลงานชิ้นนี้คือการสร้างจังหวะที่มีความหมดจดและในขณะเดียวกันยังสร้างอารมณ์ร่วมระหว่างผลงานกับผู้ชมได้อย่างแยบยล
บึงบัว โดย ทวี นันทขว้าง (ปี 2528)
- เทคนิค: Acrylic on canvas
- ราคาประเมิน: 4,500,000 – 5,500,000 บาท
ผลงานจิตรกรรมสีน้ำมันบนผ้าใบตระกูล ‘บึงบัว’ ของ ทวี นันทขว้าง ได้รับการยกย่องในหมู่นักสะสมผลงานศิลปะไทยว่าสวยงามควรค่าแก่การสะสมให้ครบเพราะเป็น เบญจภาคี ของวงการงานศิลปะประเทศไทย
พิริยะ วัชจิตพันธ์ กล่าวว่า ในยุคที่อาจารย์ทวียังมีชีวิตอยู่ วาดผลงานไม่ทันขาย ผลงานศิลปะของอาจารย์มีราคามาก และท่านไม่ได้วาดบ่อย แต่ละรูปใช้เวลาวาดหลายเดือน
หลายคนอาจตั้งคำถาม ภาพวาดบึงบัวภาพนี้มีราคาแพงได้อย่างไร ดูไปก็คือภาพบึงบัวปกติมิใช่หรือ
พิริยะกล่าวว่า เดิมทีอาจารย์ทวีวาดภาพแนวอิมเพรสชั่นนิสม์ เมื่อมีอายุมากขึ้นได้เปลี่ยนสไตล์การวาดเป็นแบบเสมือนจริง ใช้พู่กันขนาดเล็กแตะแต้มสิ่งละอันพันละน้อยลงในภาพอย่างแม่นยำ
แต่อาจารย์ทวีกลับไม่ได้พยายามเลียนแบบธรรมชาติ สิ่งที่ท่านทำคือเพิ่มเติม ลดทอน จัดองค์ประกอบใหม่ ให้เกิดบรรยากาศและอารมณ์ที่อาจารย์ต้องการปรุงแต่งให้เกิดกับภาพนั้น เพื่อให้ภาพนั้นเพิ่มแรงกระตุ้นอารมณ์ผู้ชมให้เกินกว่าที่ธรรมชาติจะสร้างสรรค์ได้
ด้วยเหตุนี้ นักวิจารณ์งานศิลปะจึงมักจัดให้ผลงานศิลปะของอาจารย์ทวีอยู่ในกลุ่มผลงานแนวเหนือจริงหรือ เซอร์เรียลลิสม์ (Surrealism) และยังยกย่องให้อาจารย์ทวีเป็นหนึ่งในศิลปินยุคแรก ๆ ของไทยที่บุกเบิกการสร้างสรรค์ผลงานในสไตล์นี้
“บึงบัวบึงนี้จึงไม่มีอยู่จริง อาจารย์ทวีจินตนาการและมโนภาพบึงบัวนี้ในสตูดิโอของท่าน ต้นไม้แบบนี้ บึงแบบนี้ไม่มีจริง แล้วใส่อารมณ์เข้าไปอย่างที่ท่านอยากให้เป็น ให้เกิดอารมณ์แบบนั้นในบึงบัวในจินตนาการของท่าน”
ผลงานจิตรกรรมสีน้ำมันบนผ้าใบของ อาจารย์ทวี นันทขว้าง ในการประมูลครั้งนี้ เป็นหนึ่งในผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการถ่ายทอดความงามของบึงบัวในอุดมคติออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์
ทั้งในแง่ของทักษะฝีมือที่ชำนาญต่อการเลือกใช้ทีแปรงและชุดสีโทนเย็น ซึ่งช่วยผลักระยะของผลงานได้อย่างนุ่มลึก รวมถึงการประสานกันของสีโทนร้อนในการขับเน้นความงามของดอกบัวและใบบัว
ที่สำคัญคือการถ่ายทอดบรรยากาศที่ช่วยส่งอารมณ์ของผู้ชมให้เข้าถึงความสงบของจิตใจ หรืออาจจะกล่าวได้ว่าภาพของผลงานนั้นมีลักษณะแบบเหมือนจริง แต่สร้างความรู้สึกเหนือจริงผ่านความละเอียดลออในการเลือกจัดองค์ประกอบของอาจารย์ทวี
“ม้าพบธรรม (ปีมะเมีย)” โดย เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ (ปี 2552)
- เทคนิค: Acrylic on canvas
- ราคาประเมิน: 3,500,000 – 4,500,000 บาท
ผลงาน "ม้าพบธรรม (ปีมะเมีย)" มีความน่าสนใจในการผสมผสานความเหมือนจริงทางกายภาพของรูปม้าและความเป็นอุดมคติจากลักษณะจิตรกรรมไทยประเพณี และถือเป็นทักษะที่แปลกตาของศิลปิน
“ผลงานชิ้นนี้โชว์ทักษะว่าอาจารย์เฉลิมก็วาดภาพแนวเรียลลิสติก (realistic) ได้เก่งเหมือนกัน เป็นภาพม้าแบบเรียลลิสติก แต่ก็ยังมีความเป็นลายไทยแฝงอยู่ตรงการวาดขนม้า ภาพลักษณะนี้ของอาจารย์เฉลิมชัยเป็นภาพที่หายาก เพราะเป็นการพลิกระหว่างเรียลลิสติกกับภาพลายเส้นแบบเฉลิมเข้าไว้ด้วยกัน”
ไม่เพียงเท่านั้น เนื่องจากการใช้สีที่มีความดุดันอย่างสีแดงในพื้นหลังก็นับได้ว่าแตกต่างออกไปจากชุดสีที่อาจารย์เฉลิมชัยใช้เช่นกัน
แต่ถึงกระนั้นผลงานกลับยังสามารถเชื่อมโยงถึงเอกลักษณ์ของงานจิตรกรรมฝาผนังไทยได้อย่างน่าสนใจ เนื่องจากสีแดงเป็นอีกหนึ่งบทบาทในการแยกมิติของพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์และโลกมนุษย์
รวมถึงรายละเอียดของผลงานศิลปินก็ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของเส้นสายลายไทยที่มีความพลิ้วไหว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นการแสดงฝีมืออันยอดเยี่ยมของศิลปิน
“สุพรรณหงส์” โดย จำรัส เกียรติก้อง (ปี 2495)
- เทคนิค: Oil on canvas
- ราคาประเมิน: 1,500,000 – 2,000,000 บาท
จำรัส เกียรติก้อง เป็นศิลปินที่มีความสามารถในการเขียนภาพจิตรกรรมสีน้ำมันอย่างหาใครเทียบได้ยาก โดยรูปแบบการนำเสนอผลงานของจำรัสมี 2 รูปแบบ คือ
- การวาดภาพเหมือนบุคคลสำคัญของไทย
- การวาดเหตุการณ์สำคัญ
ด้วยความมุ่งมั่นที่มี ส่งผลให้เกิดความเรียบคมในการปาดป้ายฝีแปรงลงบนผืนผ้าใบ ดั่งเช่นผลงานชิ้นนี้ซึ่งเป็นการวาดภาพเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ล่องในแม่น้ำเจ้าพระยา
ประกอบกับจากหลังเป็นวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ด้วยการใช้สีส้มเป็นสีหลักในการสร้างบรรยากาศ ส่งผลให้ผลงานสื่ออารมณ์ถึงความรุ่งเรืองของวัฒนธรรมไทย
“DREAM OF THE HOMELESS (ฝันของคนใฝ่บ้าน)” โดย สุเชาว์ ศิษย์คเณศ (ปี 2528)
- เทคนิค: Oil on canvas
- ราคาประเมิน: 3,500,000 – 4,500,000 บาท
ภาพผลงานสีน้ำมันบนผ้าใบชื่อ "ฝันของคนใฝ่บ้าน" ของ สุเชาว์ ศิษย์คเณศ สะท้อนความเหงาและความเศร้าของศิลปินผ่านผลงานศิลปะได้อย่างรุนแรง จากการใช้สีโทนเย็นเป็นแกนในการนำเสนอเรื่องแสดงถึงความหม่นหมอง
รวมถึงการเลือกใช้เส้นเบาบางไร้ความแข็งแรงที่คอยค้าจุนรูปทรงของบ้าน ยิ่งทำให้ผลงานสร้างอารมณ์สะเทือนใจให้กับผู้ชม
สิ่งเหล่านี้เกี่ยวโยงกับเรื่องราวเมื่อยังมีชีวิตอยู่นั้นต้องเจอกับความยากลำบากในการใช้ชีวิต มีเพียงการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเพียงเท่านั้นที่คอยค้ำจุนชีวิต ซึ่งรูปแบบการทำแนวนี้สอดคล้องกับวิถีของลัทธิเอกซเพรสชันนิสม์
ผู้เห็นคุณค่าทั้งยังคอยสนับสนุนผลงานของสุเชาว์ไว้มากมาย รวมถึงผลงาน "ฝันของคนใฝ่บ้าน" คือ พีระ ดิษฐบรรจง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่ทำให้สุเชาว์มีแรงใจในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ
“CHILDREN'S GAME / ขี่ม้าส่งเมือง, Ed.3/9” โดย เขียน ยิ้มศิริ (ปี 2504)
- เทคนิค: Bronze
- ราคาประเมิน: 1,200,000 – 1,800,000 บาท
ผลงานประติมากรรมสำริด "ขี่ม้าส่งเมือง" ของ เขียน ยิ้มศิริ ชิ้นนี้ ถ่ายทอดภาพการละเล่นไทยที่นิยมอย่างมากในอดีต ผลงานแสดงให้เห็นถึงความเรียบง่ายซึ่งเป็นลักษณะการแสดงออกอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปิน คือการลดทอนรายละเอียดของแบบเพื่อขับเน้นแนวคิดที่ศิลปินต้องการนำเสนอ
อีกทั้งความสามารถในการเชื่อมประสานรูปทรงได้อย่างกลมกลืน รวมถึงการผสมผสานความเป็นอุดมคติของประติมากรรมไทยสมัยสุโขทัย
ในหนังสือนำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ยังได้กล่าวถึงผลงานชิ้นนี้ว่ามีความกลมกลืนของเส้นและรูปทรง สร้างความรู้สึกให้แลดูอ่อนพลิ้ว มีความเคลื่อนไหว อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในผลงานที่สร้างก่อนศิลปินจะทำงานประติมากรรมแนวกึ่งนามธรรม
“ครบรอบ 60 ปี การเดินทางด้วยรถ Lambretta จากประเทศไทยถึงเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี” โดย อินสนธิ์ วงค์สาม (ปี 2566 - 2568)
- เทคนิค: Painted on Lambretta X300 SR และ Painted on helmet
- ราคาประเมิน: 1,000,000 – 1,500,000 บาท
เมื่อย้อนกลับไปใน พ.ศ. 2504 หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยศิลปากร อินสนธิ์ วงค์สาม กับจักรยานยนต์ยี่ห้อ Lambretta ได้เริ่มเส้นทางจากไทยสู่ประเทศอิตาลี เมืองบ้านเกิดของศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี ด้วยศิษย์ต้องการไปคารวะหลุมฝังศพของอาจารย์
การเดินทางด้วยระยะทางกว่า 20,000 กิโลเมตร ทั้งในยุโรปและอเมริกา กลายเป็นเส้นทางชีวิตในต่างแดนของศิลปินถึง 12 ปี ทั้งยังเป็นประสบการณ์ที่ได้ขัดเกลามุมมองทางศิลปะรวมถึงฝีมือในการถ่ายทอดความคิดของศิลปิน
ผลงานที่นำออกประมูลชิ้นนี้สร้างขึ้นเพียงคันเดียวเท่านั้น เพื่อระลึกถึงการเดินทางที่เคยไปในอดีตด้วยรถยี่ห้อเดียวกัน ศิลปินทั้งออกแบบและเขียนภาพลงบนรถกับหมวกเอง ด้วยรูปแบบนามธรรมอันเป็นเอกลักษณ์
“THE ENDLESS WAVES” โดย อเล็กซ์ เฟส x มือบอญ (ปี 2565)
- เทคนิค: Spray, acrylic gouache and oil on a vintage galvanized advertising board
- ราคาประเมิน: 1,500,000 – 1,800,000 บาท
อเล็กซ์ เฟส และ มือบอญ สองศิลปินแนวกราฟฟิตี้ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของไทยและยังได้รับการยอมรับในต่างประเทศ
ผลงานของทั้ง 2 ศิลปิน มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนในแนวทางของตน และไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นผลงานที่เกิดจากการร่วมมือกัน
ผลงานชิ้นนี้จึงมีความพิเศษเป็นอย่างมากที่ทั้งคู่ได้สร้างสรรค์ผลงาน จิตรกรรมสีอะคริลิกบนแผ่นป้ายโฆษณา แสดงความขบขันและการเสียดสีล้อเลียนตามแบบฉบับของศิลปะกราฟิตี้ได้เป็นอย่างดี
สังเกตได้จากการเล่นกับโลโก้ของแบรนด์เครื่องดื่มยักษ์ใหญ่สองแบรนด์ แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปของโลกทุนนิยมจากโลกมหาอำนาจที่สามารถสร้างอิทธิพลต่อการบริโภคของคนบนโลก ทั้งยังสอดแทรกแนวคิดวัฒนธรรมประชานิยมไว้
“UMBRELLAS” โดย กิตติ นารอด (ปี 2564)
- เทคนิค: Acrylic on canvas
- ราคาประเมิน: THB 1,000,000 – 1,500,000
ผลงานจิตรกรรม "Umbrellas" ชิ้นนี้ ของ กิตติ นารอด เป็นภาพกลุ่มคนยืนกางร่มกลางสายฝน ผลงานได้แสดงเอกลักษณ์ของศิลปินออกมาได้อย่างชัดเจน เห็นได้จากการเลือกใช้ชุดสีที่หลากหลายและมีสีสันสดใส เช่น การเลือกพื้นหลังของผลงานสีชมพูสว่าง
ลักษณะการวาดผู้คนในผลงานที่มีความเรียบง่าย ทั้งใบหน้า รูปร่าง และเสื้อผ้าที่เหล่าตัวละครในภาพวาดสวมใส่
รวมถึงแนวความคิดของศิลปินที่มักนำเสนอเรื่องราวใกล้ตัว ทั้งยังแฝงไปด้วยกลิ่นไอวัฒนธรรมประชานิยม (Pop Culture) และได้ผลักดันความธรรมดาพื้นฐานเหล่านั้นให้กลายเป็นสัญลักษณ์ต่อแนวคิดที่มีต่อสังคม
องค์ประกอบเหล่านี้ต่างส่งเสริมให้ผลงานไม่มีความซับซ้อนมากจนเกินไป ทั้งยังชวนให้ผู้ชมเพลิดเพลินต่อการค่อย ๆ กวาดสายตาพิจารณารายละเอียดของผลงาน
นอกจาก 9 ผลงานข้างต้น นิทรรศการและการประมูลงานศิลปะ WWW ยังมีผลงานศิลปะที่น่าสนใจชิ้นอื่นๆ อีก อาทิ “BLUE IN DIMENSIONS / มิติสีน้ำเงิน” โดย ประเทือง เอมเจริญ (ปี 2535) เทคนิค: Oil on canvas ราคาประเมิน 650,000 – 850,000 บาท และ “UNTITLED” โดย ชาติชาย ปุยเปีย (ปี 2554) เทคนิค: Oil on canvas ราคาประเมิน 700,000 – 900,000 บาท เป็นต้น
ผู้สนใจสามารถเดินทางไปชื่นชมความงามและฝีมือศิลปินคนโปรดได้ที่ ท่าพิพิธภัณฑ์ (Museum Pier) ตั้งอยู่ในท่าช้างวังหลวง ถนนมหาราช ไม่ไกลจากวัดพระแก้ว วันนี้-25 พ.ค.2568 เวลา 10.00-18.00 น. ก่อนเข้าสู่การจัดประมูลใน วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2568 เวลา 14.00 น. ณ ท่าพิพิธภัณฑ์







