ร้านใหม่ 'Massimo Dutti' สยามพารากอน เมื่อศิลปะบรรจบกับแฟชั่น

'Massimo Dutti' ร้านใหม่สาขาสยามพาราอน ยังคงใช้ 'งานเซรามิก' ศิลปินไทย 'อ้อ สุทธิประภา' ผสมผสานฟังก์ชั่นภายในร้านเข้ากับงานศิลปะ สานต่อโครงการ ArtinProgress
การเปิดตัวร้านคอนเซปต์ใหม่ของ Massimo Dutti ณ ศูนย์การค้า สยามพารากอน บนพื้นที่กว่า 360 ตารางเมตร คงแนวคิด Art in Stores โดยสานต่อความสำเร็จของโครงการ ArtinProgress มาสู่ประเทศไทยอีกครั้ง
ร้าน Massimo Dutti หวังให้เป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรม ผสมผสานฟังก์ชั่นภายในร้านเข้ากับงานศิลปะ จัดแสดงนิทรรศการผลงานของ Aor Sutthiprapha - อ้อ สุทธิประภา ศิลปินเซรามิกชาวไทย ตั้งแต่วันนี้ถึง 25 พฤษภาคม 2568
การออกแบบและตกแต่งร้าน Massimo Dutti (มาสสิโม ดุตติ) รูปโฉมใหม่ มาจากแนวคิดที่แบรนด์ต้องการแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการอันยอดเยี่ยมที่สะท้อนผ่านความโดดเด่นของทั้งคอลเลคชั่นสินค้าต่าง ๆ รวมไปถึงการมอบประสบการณ์ที่ดีเมื่อลูกค้าได้เข้ามาเยือนภายในร้าน
โดยคอนเซปต์ใหม่ได้ปรับเปลี่ยนจากรูปแบบเดิม เริ่มตั้งแต่ความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุคุณภาพดี และเทคนิคของช่างฝีมือที่ละเอียดอ่อน ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์รูปทรงธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับพื้นที่ต่าง ๆ ผสานเข้ากับโทนสีที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติให้ความรู้สึกสะอาดตา
สินค้าในร้านแยกโซนชัดเจนและง่ายต่อการเข้าถึง แบ่งเป็นสุภาพบุรุษ-สตรี อีกทั้งมีเครื่องหนัง กระเป๋า เข็มขัด แอคเซสซอรีส์อื่น ๆ ในแสงไฟละมุนตาที่สะท้อนความอบอุ่น ดูเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ
ผู้บริหาร Massimo Dutti บอกว่า พื้นที่ใหม่นี้ได้รวมทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อบอกเล่าเรื่องราวและตัวตนอันเป็น DNA ของแบรนด์ที่อยู่ภายใต้แนวคิดร้านที่ทันสมัยที่สุดของ Inditex Group และนอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมที่นำแฟชั่นและเทคโนโลยีมาผนึกรวมเข้าไว้ด้วยกันตามวิสัยทัศน์ของแบรนด์ เพื่อจะมอบประสบการณ์การชอปปิ้งแบบใหม่ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
เมื่อศิลปะผสานเข้ากับแฟชั่น Massimo Dutti สานต่อความสำเร็จของโครงการ ArtinProgress และเป็นอีกครั้งที่แบรนด์แฟชั่นจากสเปน เลือก Aor Sutthiprapha (อ้อ – พรพรรณ สุทธิประภา) กับงาน Freedom ที่เคยจัดแสดงตอนเปิดสาขาใหม่ที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ (ผลงานจัดแสดงถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568) หากผลงานครั้งนี้มาในสเกลที่ใหญ่ขึ้น
“ตอนทำที่สาขาเอ็มควอเทียร์ ขนาด 2 เมตร ที่สาขาสยามพารากอนความยาว 6 เมตร” คุณอ้อเล่า และเผยถึงสาเหตุที่ Massimo Dutti สนใจงานศิลปะจากศิลปินเซรามิกไทย
“Massimo Dutti อยากได้ศิลปินเซรามิก เขาก็เลยเสิร์ชหาศิลปินในเมืองไทย แต่ไม่ได้ชี้เฉพาะว่าเป็นงานเซรามิกแบบไหน เมื่อเขาไปดูงานในไอจีก็มองว่ามีผลงาน 2 ชุดที่สนใจอยากให้เราออกแบบ
คือผลงาน SUCHNESS ที่จัดแสดงเมื่อหลายปีก่อน ที่แกลเลอรี่ 333 เราก็เลยนำผลงานชุดนั้นมาเป็นสารตั้งต้น”
ซึ่งโดยปกติ งานเซรามิกของคุณอ้อ จะพูดถึงภาวะ “ภายใน” ศิลปินเซรามิกเล่า
“งานชุดนั้นใช้คำว่า Galaxy เพราะเหมือนเป็นชิ้นส่วน แต่แกแลคซีของดิฉันจะไม่ใช่แบบออกไปนอกโลกเสียทีเดียว จะพูดถึงแกแลคซีที่อยู่ข้างในตัวเองด้วย คือแฟรกเมนต์ที่ประกอบขึ้นเป็นวงกลม เพราะวงกลมเป็นฟอร์มที่สมบูรณ์แบบที่สุด
คุณอ้อ เสริมว่า งานอินสตอลเลชั่นชิ้นนั้นมีความยาว 6 เมตร วิธีทำคือเหยียบมันลงไป เหมือนการเดินจงกรม
“เหมือนเราพิจารณาภาวะภายในภายนอกไปพร้อม ๆ กัน งานเซรามิกที่จัดแสดงก็พูดถึงว่า ในฐานะคนที่ถูกฝึกทำงานเซรามิก การขึ้นชาม ถ้วย เป็นเบสคล้าย ๆ กับมนุษย์ทุกคนต้องเรียนรู้พื้นฐานการเป็นมนุษย์ แต่ไม่ได้พูดใหญ่ถึงขั้นเป็นคู่มือมนุษย์ หากสะท้อนว่าเราทุกคนมีสัญชาติญาณการหายใจ การเดิน การวิ่ง ซึ่งมาด้วยการฝึกประมาณหนึ่ง แล้วเราก็ทำของเราได้เองประมาณหนึ่ง คล้ายพื้นฐานของการเป็นช่าง หรือคนทำงานเซรามิก ก็เลยเอามาเปรียบเทียบ”
“ก็เลยเป็นเซรามิกที่แตกหัก เปรียบได้ว่าทุก ๆ การฝึกมักมีเรื่องต้องหักออกเพื่อการเรียนรู้ ซึ่งก็ไม่ต่างจากปัญหาในชีวิตเรา มันต้องพังถึงได้เรียนรู้”
“จริง ๆ แต่ละโปรเจคท์ของเขาจะไม่แสดงงานของศิลปินซ้ำกัน เราก็ค่อนข้างแปลกใจ อย่างไรก็ตาม เรานำเสนอไป 3 ไดเรคชั่น แต่มีความไม่สอดคล้องกับอินทีเรียของเขา เขาก็ยังเลือกแมททีเรียลเดิมคือเซรามิก ตอนที่เสนอไปมีงานไม้ กับงานผ้า แต่พอไปอยู่กับองค์รวมของร้านแล้วไม่ค่อยส่งเสริมกัน เขาเลยตัดสินใจเลือกชิ้นนี้ แต่ชิ้นงานที่พารากอนขนาดใหญ่กว่าที่เอ็มควอเทียร์”
“ชื่องาน Freedom สื่อว่าเรารู้สึกถึงอิสระที่จะใช้ชีวิต เมื่อพูดโยงกับแบรนด์แฟชั่นคือเรามีอิสระที่จะชอปปิ้งและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง เหมือนเรามีอิสระที่จะใช้ชีวิต ถ้ามองมู้ดของงานคือเรามีอิสระที่จะรักตัวเอง ตอนเราทำงานชิ้นนี้เหมือนเรามีความสุขกับตัวเอง โทนงานดูละมุนไม่ฮาร์มฟูล ไม่ได้ตะโกนออกมาว่าดูฉันสิ...”
“เป็นการส่งเสริมกัน เพราะ Massimo เด่นเรื่องงานเครื่องหนังแฮนด์เมดด้วย เขาจะมีเซนส์ของงานทำมือ เสมือนเป็นจุดที่เชื่อมโยงกัน”
เลือกสินค้าคอลเลคชั่นสปริง/ซัมเมอร์ 2025 ที่ Massimo Dutti 4 สาขา ได้แก่ สาขาสยามพารากอน, สาขาเอ็มควอเทียร์, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และเซ็นทรัลเวิลด์







