วิชาสุดท้าย พระพุทธเจ้าสอนอะไร : มุมพระเอกวีร์ มหาญาโณ

วิชาสุดท้าย พระพุทธเจ้าสอนอะไร : มุมพระเอกวีร์ มหาญาโณ

ทำความเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าในมุม'พระอั๋น-พระเอกวีร์ มหาญาโณ' อดีตนักร้องนำวง Moon ตอนแรกตั้งใจบวชระยะสั้นๆ แต่ตอนนี้บวชมา14 พรรษาแล้ว

ตอนที่ พระอั๋น-พระเอกวีร์ มหาญาโณ วัดป่าโสมพนัส จ.สกลนคร อดีตนักร้องนำวง Moon วงดนตรีร็อกทรีโอ้จากค่ายสนามหลวงและ No More Belts จะบวชเรียน ตั้งใจไว้ว่าใช้ระยะเวลาสั้นๆ ศึกษาธรรมะ 

แต่ปัจจุบันยังอยู่บนเส้นทางธรรม และผ่านมา14 พรรษาแล้ว เพราะค้นพบความจริงบางอย่างที่นำมาใช้กับชีวิต ซึ่งในงาน Death Fest พระอั๋นมาเล่าเรื่อง “วิชาสุดท้าย บทเรียนการจากไปของคนสำคัญในชีวิต” โดยบอกว่า ถ้าจะทำให้คนเข้าใจเรื่องนี้ยากมาก

“บางคำสอนบอกไว้ว่า เมื่อตายแล้วจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ บางคนบอกว่า ตายไปแล้ว เราจะเวียนว่ายอยู่อย่างนั้น กลายเป็นส่วนหนึ่งของสรรพสิ่งในโลกนี้ ไม่ว่าจะนับถือศาสนาไหน หรือไม่นับถือศาสนา หลักพุทธศาสนานอกจากสอนเรื่องชีวิต ยังสอนเรื่องการหลุดพ้นจากกระบวนการเวียนว่ายตายเกิด”

  • วิชาสุดท้าย...  

คนมากมายคงไม่มีโอกาสเรียนวิชาสุดท้ายในชีวิตก่อนจากลาโลกนี้ พระอั๋น บอกว่า สำคัญมากในการใช้ชีวิต ในกระบวนการจิต หากเรารู้ว่า จะเกิดอะไรขึ้น จะทำให้เราไม่กังวลใจ 

"หลักของกรรม การกระทำ เหตุที่ดีจะนำไปสู่ผลที่ดี สิ่งที่เป็นอกุศลในใจจะนำไปสู่สิ่งที่ยากมากขึ้น การที่คนเราได้เกิดเป็นมนุษย์ เป็นโอกาสที่เกิดขึ้นยากมากๆ ถ้าเทียบกับสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ เพราะการเกิดเป็นมนุษย์เป็นการเกิดขึ้นในวิถีที่เป็นกลางๆ และในยุคนี้มีคำสอนของครูบาอาจารย์ที่จะพาเราออกจากวงจรเวียนว่าย มีกระบวนการฝึกฝน ซึ่งเป็นโอกาสของชีวิต 

ฉะนั้นวิชาที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับความตาย จะทำให้เรารู้ว่า จะใช้ชีวิตอย่างไร เมื่อถึงจุดเปลี่ยน กระบวนการที่ไปต่อ ทำให้เรามั่นใจว่าจะไปทางไหน สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนคือ การเวียนว่ายตายเกิดมีอยู่จริง และเกิดขึ้นไม่รู้จบ ไม่ได้เพิ่งมีในยุคของพระพุทธเจ้า ในประวัติศาสตร์หลายศาสนาก็เคยสอนเรื่องเหล่านี้" 

พระอั๋น บอกว่า คำสอนพุทธศาสนาที่บอกว่าหลังจากตายแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อ นั่นเป็นความเข้าใจผิด  จึงมีความคิดอยู่สองฟากคือ มีการเวียนว่ายไม่จบสิ้น และอีกฟากคือ ไม่มีอะไรเลย 

“คำสอนพุทธศาสนาให้ย้อนกลับมาทำความเข้าใจตัวเราในปัจจุบัน ดูสิ่งที่หลอมรวมเป็นตัวเรา ชีวิตเรามีระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ มันทำงานไปเรื่อยๆ ถ้าเราเห็นแยกแยะกระบวนการทำงานของชีวิตและจิตใจได้ เห็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเรา เพื่อถ่ายถอนความเข้าใจผิดว่า ตัวเรามีอยู่จริง หรือมีเราที่ตายแล้ว หรือมีเราที่เวียนว่ายตายเกิด”

การอธิบายเรื่องนามธรรมให้หลายคนเข้าใจจึงเป็นเรื่องยาก พระอั๋น แนะว่า ให้เฝ้าสังเกตปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเราในปัจจุบัน อันนี้คือเหตุผลว่าทำไมการฝึกฝนทางพุทธศาสนาต้องฝึกที่กายและจิตใจ ที่เรียกว่าฝึกสติ แล้วจะเข้าใจว่า การเกิดดับเป็นอย่างไร

“การเรียนรู้พุทธศาสนา คือการฝึกพัฒนาการสังเกตตัวเอง เรียกว่า ฝึกเจริญสติ เพราะเรานึกว่า เราเป็นเจ้าของตัวเรา มีกระบวนการคิดและอารมณ์ที่เกิดขึ้นวนเวียน

ยกตัวอย่าง ทำไมคนบางคนเราไม่อยากโกรธ แต่ก็โกรธ บางทีหงุดหงิดควบคุมตัวเองไม่ได้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นปกติ และยิ่งวาระสุดท้าย

หากเราอ่อนแอก็จะถูกอารมณ์ความรู้สึกที่ฝังอยู่ในตัวครอบงำ มีกระบวนการปรุงแต่งบางอย่างที่ทำให้เราตัดสินใจโดยอัตโนมัติ ชีวิตก็ใหลไปตามนั้น เหมือนเวลาดูยูทูป สิ่งที่เราดูเมื่อก่อน ก็เหมือนอัลกอริทึม เป็นตัวเหนี่ยวนำสิ่งที่เราดูและเห็นยูทูปในปัจจุบัน และสิ่งที่เราดูบ่อยๆ ก็กลายเป็นเนื้อเป็นตัวเรา ”

  • ฝึกฝนสังเกตจิตใจ

การเฝ้าสังเกตจิตใจเรื่อยๆ เป็นอีกเรื่องที่พระอั๋นแนะนำว่า ต้องหมั่นเจริญสติให้ตั้งมั่น ศักยภาพในการฝึก จะทำให้สิ่งที่ฝังลึกในตัวเราค่อยๆ เผยออกมา ถ้าเราไม่รู้จักการฝึกแบบนี้้ ตอนที่เราจะตาย  เรื่องใดที่สะสมไว้ไม่ว่าเรื่องที่โกรธ เรื่องที่เคยช่วยเหลือใคร ทะเลาะกับใคร จะค่อยๆผุดขึ้นมา

“ถ้ามาฝึกฝนในช่วงท้ายๆของชีวิตไม่ทัน จึงอยากชวนการฝึกสังเกตภายในใจตัวเอง เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ในช่วงที่เรายังมีกำลัง ดังนั้นกระบวนการย้อนสังเกตตัวเอง จะทำให้เราค่อยๆ เข้าใจกระบวนการทำงานของธรรมชาติ 

สิ่งที่พุทธศาสนาสอนคือ เข้าไปไถ่ถอนความเข้าใจผิดว่า เราเป็นเรา เพื่อให้เห็นกระบวนการที่เกิดขึ้นจริงตามธรรมชาติของชีวิต เป็นเรื่องเข้าใจยาก อาตมาอยากให้การพูดคุยเรื่องความตายเป็นเรื่องปกติในสังคม”

ถ้าถามว่า วิชาสุดท้ายของชีวิตที่จะเรียนคืออะไร พระอั๋น บอกว่า ในกระบวนการเตรียมตัวตาย พุทธศาสนาสายทิเบตจะมีคำสอนอย่างละเอียด หลังจากสิ้นลมหายใจสุดท้าย มนุษย์ยังไม่ได้ตายทันที ยังมีกระบวนการแปรเปลี่ยน ถ้าเราเข้าใจก็จะไม่กลัวตาย

"พุทธศาสนา สอนว่า ถ้าคุณไม่สามารถจัดการตัวเอง คุณจะเข้าสู่วงจรที่เรียกว่าสังสารวัฏ แล้วจะออกจากสังสารวัฏได้อย่างไร คำสอนไม่ได้ให้เรากังวลอนาคต แต่ให้ย้อนมาสังเกตวงจรเหล่านี้ในปัจจุบัน ฝึกฝนให้จิตใจมีความตั้งมั่น คือ ฝึกสมาธิ ฝึกสมถะ แล้วจะเห็น ความเป็นจริง ในศาสนาอื่นก็สอนเรื่องเหล่านี้

พุทธศาสนาสอนให้เราออกจากระบบการเวียนว่ายตายเกิด สิ่งที่เราต้องฝึกคือ ความกังวลที่เจอมาตลอดชีวิตเป็นมายา ถ้าเราฝึกที่จะถอดความเชื่อนี้ได้ เราจะค้นพบว่า เราไม่ได้เป็นอะไรเลย การเป็นอิสระจากวงจรคือ การทำลายความหลง การสลายอวิชชา ย้อนมาเห็นความจริงของตัวเอง จะไม่เดินวนเวียน เป็นอิสระ" พระอั๋น เล่า และบอกว่า 

 “ในฐานะคนๆ หนึ่งที่เคยคิดว่าจะลองบวชสั้นๆ ตอนนั้นคิดว่า พุทธศาสนาสอนให้เป็นคนดีและทำดี เพื่อทำให้เราเวียนว่ายตายเกิดไปสู่ภพภูมิที่ดี นั่นยังไม่ใช่คำสอน พุทธศาสนาสอนให้ออกจากการเวียนว่ายทั้งวงจร และเราไม่ได้เป็นอะไรเลย”