เปิดดีไซน์พระทรายพญานาคพันรอบองค์พระธาตุพนม วันไหลบางแสน 2568

รูปแบบ - แนวคิด ก่อพระทรายวันไหลบางแสน 2568 สื่อศรัทธาความเชื่อทางศาสนา ตำนานท้องถิ่น โชว์ศิลปะร่วมสมัย จิตสำนึกสิ่งแวดล้อม เปิดดีไซน์พระทรายพญานาคพันรอบพระธาตุพนม
KEY
POINTS
- งานประเพณีก่อพระทรายวันไหลบางแสน เป็นงานประเพณีที่ชาว “ตำบลแสนสุข” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ถือปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยโบราณ
- รูปแบบ "พระทราย" นิยมบ่งบอกหรือสื่อความหมายถึงเรื่องราวของพุทธศาสนา มักมีลักษณะรูปทรงเป็น พระสถูป เจดีย์ พระปรางค์ พระพุทธรูป หรือสิ่งของอื่นใดที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและตำนานท้องถิ่น
- รูปแบบพระทรายวันไหลบางแสน พ.ศ.2568 ยังคงสะท้อนความเชื่อความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ตำนานท้องถิ่น รวมทั้งกระตุ้นจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม
- เปิดแนวคิดและงานดีไซน์พระทรายที่คนถามถึง พระทรายที่มีพญานาคหมุนวนรอบองค์พระธาตุพนม ก่อพระทรายโดย โรงเรียนชลบุรี “สุขบท”
ปีนี้เทศบาลเมืองแสนสุข ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี และจังหวัดชลบุรี กำหนดจัดงาน ประเพณีก่อพระทรายวันไหลบางแสน ประจำปี 2568 วันพุธและวันพฤหัสฯ ที่ 16-17 เมษายน 2568 ณ บริเวณชายหาดบางแสน ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมประเพณีท้องถิ่นเนื่องใน เทศกาลสงกรานต์ ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายสืบต่อไป
งานประเพณีก่อพระทรายวันไหลบางแสน เป็นงานประเพณีที่ชาว “ตำบลแสนสุข” ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ถือปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยโบราณ
เดิมเรียก งานทำบุญวันไหล คือ การเรียกประชุมหมู่บ้านต่างๆ ของตำบลแสนสุข มาทำบุญร่วมกันเนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ของไทย โดยใช้เวลา 2 วันต่อเนื่องจากเทศกาลสงกรานต์
เริ่มจากการนิมนต์พระทุกวัดที่อยู่ในเขตตำบลแสนสุขมาประกอบพิธีสงฆ์ ทำบุญเลี้ยงพระ สรงน้ำพระพุทธรูป ก่อพระเจดีย์ทราย เล่นสาดน้ำ การละเล่นและกีฬาพื้นบ้าน เป็นต้น
กิจกรรม ก่อพระทราย เกิดจากแนวความคิดที่จะ ขนทรายเข้าวัด เพื่อให้เป็นวัสดุใช้ในการก่อสร้างหรือซ่อมแซม ‘เสนาสนะ’ คือที่อยู่อาศัยของภิกษุสงฆ์ เช่น กุฏิ วิหาร ศาลา ถือเป็นโอกาสที่ได้ทำบุญกุศลทำความดีรับปีใหม่
รูปแบบของ ‘พระทราย’ นิยมบ่งบอกหรือสื่อความหมายถึงเรื่องราวของพุทธศาสนา มักมีลักษณะรูปทรงเป็น พระสถูป เจดีย์ พระปรางค์ พระพุทธรูป หรือสิ่งของอื่นใดที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและตำนานท้องถิ่น
จากนั้นมีการประดับตกแต่งด้วยวัสดุต่างๆ เช่น ดอกไม้ เปลือกหอย และธงทิวต่างๆ เพื่อให้เกิดความสวยงาม จนกระทั่งมีการประกวดในเวลาต่อมา
เนื่องจากตำบลแสนสุขเป็นที่ตั้งของ ชายหาดบางแสน สถานตากอากาศทางทะเลที่มีชื่อเสียงตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน แต่ละปีมีผู้นิยมเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจเป็นจำนวนมาก
ปัจจุบัน การก่อพระทรายในงานทำบุญวันไหลของตำบลแสนสุข จึงเป็นที่รู้จักกันในชื่อ งานประเพณีก่อพระทรายวันไหล บางแสน จังหวัดชลบุรี หนึ่งในงานประเพณีประจำปีระดับชาติที่สำคัญของ “บางแสน” และจังหวัดชลบุรี
การลงมือก่อพระทรายเพื่อการประกวด กำหนดเริ่มกันตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของวันที่ 16 เมษายน ซึ่งจะใช้เวลาไปตลอดทั้งวันได้จนถึงเวลา 10.00 น.ของวันพฤหัสฯ ที่ 17 เมษายน นอกจากนี้ยังจัดให้มีการสรงน้ำพระและปิดทองพระพุทธรูป มีการแข่งขันกีฬาพื้นบ้านมวยทะเลรอบคัดเลือก การแสดงของศิลปิน
ส่วนวันที่ 17 เมษายน เริ่มทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 24 รูปในเวลา 07.00 น. ต่อด้วยการแข่งขันมวยทะเลรอบชิงชนะเลิศ วิ่งเปรี้ยว ชักเย่อ สะบ้า ช่วงรำ วิ่งสามขา การแข่งขันแกะหอยนางรม และพิธีประกาศผล-มอบรางวัลการประกวดก่อพระทรายฯ
รูปแบบพระทรายวันไหลบางแสน พ.ศ.2568 ยังคงสะท้อนความเชื่อความศรัทธาในพระพุทธศาสนา เรื่องราวตำนานท้องถิ่น รวมทั้งกระตุ้นจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม
พระทรายเชิงพระพุทธศาสนา
ปีนี้พระทรายที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นอันดับต้นๆ เป็นพระทรายของ โรงเรียนชลบุรี “สุขบท” รูปแบบและแนวคิดในการสร้างสรรค์งานได้รับแรงบันดาลใจมาจาก พระธาตุพนมวรมหาวิหาร ศาสนสถานสำคัญซึ่งประดิษฐานพระอุรังคธาตุพระพุทธเจ้า
ซึ่งมีความเชื่อกันว่าเมื่อได้พบเห็นองค์พระธาตุพนมหรือได้กราบไหว้จึงเปรียบเสมือนได้เข้าใกล้พระพุทธเจ้า เพื่อเตือนสติให้กลับมาเข้าสู่หลักธรรมคำสอนของพระองค์
ครั้งนี้ ‘พระทรายพระธาตุพนมจำลอง’ ประดิษฐานอยู่บน หงส์ ที่ได้รับการออกแบบอย่างวิจิตรและประดับประดาดด้วยแผ่นเลื่อม เมื่อต้องสายลมก็ส่องประกายระยิบระยับราวหงส์กำลังกระพือปีกโบยบิน
ภาพที่ทำให้ผู้คนยากห้ามใจยกสมาร์ทโฟนขึ้นถ่ายคลิป คือ โมเดลพญานาคที่เคลื่อนไหว ราวกับกำลังเลื้อยรอบพระทรายพระธาตุพนม
โรงเรียนชลบุรี “สุขบท” อธิบายว่า รูปแบบพระทรายของโรงเรียนฯ ในปีนี้มีลักษณะของ งานจลนศิลป์ (Kinetic Art) ผสมผสานกับ งานประณีตศิลป์ (Elaboration Art) เพื่อให้งานก่อพระทรายวันไหลบางแสนมีความหลากหลายน่าสนใจมากขึ้น
มีการใช้กลไกเคลื่อนไหว หมุนตามเข็มนาฬิกา เพื่อให้ผู้คนฉุกคิดในเรื่องของ ‘เวลามนุษย์ที่มีจำกัด’ ให้ตื่นรู้ว่าต้องประพฤติปฏิบัติตนอย่างไรในขณะที่มีชีวิตอยู่
ขณะที่ พญานาคซึ่งหมุนรอบองค์พระธาตุ แสดงถึงการดูแลรักษา คุ้มครอง สิ่งดีงาม และหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าให้คงอยู่สืบไป
ประติมากรรม หงส์ สื่อความหมายเกี่ยวกับความดีงามและความเป็นมงคล มักใช้เป็นสัญลักษณ์ของบุคคลผู้มีบุญญาธิการสูง อาทิ พระโพธิสัตว์เมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็นพญาหงส์ทอง พระอรหันต์ผู้ละกิเลสทั้งปวง
พระทรายที่สะท้อนเรื่องราวทางศาสนายังมีอีกหลายกอง อาทิ พระทรายของ โรงเรียนวัดราษฎร์ศรัทธา ที่จำลอง พระบรมธาตุแช่แห้ง ปูชนียสถานคู่เมืองน่าน สร้างโดยเจ้าผู้ครองนครน่าน พ.ศ.1869-1902 เพื่อประดิษฐานพระมหาชินธาตุเจ้า 7 พระองค์
พระทรายของ โรงเรียนบ้านสวน (จั่นอนุสรณ์) ก่อพระทรายตามรูปทรงของ พระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล ซึ่งได้รับการสร้างขึ้นเพื่อน้อมรำลึกบูชาคุณแด่หลวงตามหาบัว
พระทรายศิลปะร่วมสมัย
พระทรายแนวศิลปะร่วมสมัยของปีนี้ อาทิ บูรพันธุ์ปัญญา พระทรายของ มหาวิทยาลัยบูรพา รูปลักษณ์ที่สะท้อนถึงการเป็นสถาบันการศึกษาที่บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญาทุกแขนงให้กับนิสิตได้เจริญเติบโตเป็นบัณฑิตนำองค์ความรู้ไปพัฒนาสังคมและประเทศ
ขณะที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก สร้างสรรค์พระทราย ภูมิธารา (บ้านแห่งท้องทะเล) ประกอบด้วยส่วนปลายยอดพระเจดีย์แสดงถึงการส่งเสริมและทำนุบำรุงศาสนา ฐานกลางทรงเปลือกหอยแสดงถึงความแข็งแกร่ง เสมือนบ้านซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิต รอบฐานเป็นปลาแหวกว่ายในสายน้ำแสดงถึงความโดดเด่นทางทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ดึงดูดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมของจังหวัดชลบุรี
ปีนี้ ศิษย์เก่าสาขาวิชาศิลปศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ร่วมสร้างสรรค์พระทรายที่ได้แนวคิดเรื่องการหาความสุขของผู้คนบนโลกซึ่งมีวิธีการต่างกัน การมาเที่ยวบางแสนก็สร้างความสุขไม่น้อย บางแสนบำรุงสุขให้นักท่องเที่ยวด้วยทะเลงาม อาหารอร่อย สุขทั้งกายใจ และยังเป็นดินแดนเปิดรับความหลากหลายทางเพศ
จึงตั้งชื่อพระทรายนี้ว่า แสนสุข มีรูปแบบที่แสดงถึงศิลปะร่วมสมัยผสมผสานกับความเชื่อทางพุทธศาสนา ประกอบด้วยทรายที่ก่อเป็นรูปตัวปลาและรูปทรงคลื่นทะเลที่ซัดเข้าหาฝั่งมิรู้สิ้น-สื่อถึงการเวียนว่ายตายเกิด บันได 8 อัน-สื่อถึงอริยมรรคแปด เจดีย์-สื่อถึงนิพพาน
พระทรายรณรงค์สิ่งแวดล้อม
ปีนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ร่วมก่อพระทรายเป็น เรือตังเกพลังงานแสงอาทิตย์ นำเสนอเรื่องราวของเครื่องยนต์สเตอร์ลิง (Stirling Engine) ที่สามารถใช้เชื้อเพลิงได้หลากหลายเพียงมีแหล่งพลังงานความร้อน สร้างขึ้นโดย Robert Stirling เมื่อปีค.ศ.1816
นำมาประยุกต์ใช้กับ ‘เรือตังเก’ เรือประมงพื้นบ้านบางแสน ด้วยอุปกรณ์จุดรวมแสงจากดวงอาทิตย์ส่งความร้อนเข้าสู่เครื่องยนต์สเตอร์ลิงเพื่อหมุนมอเตอร์ไฟฟ้าร่วมกับกังหันลม ส่งกำลังไฟเข้าแบตเตอรี่เพื่อเดินเรือและไฟฟ้าส่องสว่าง
ขณะที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา สร้างสรรค์พระเจดีย์ทรายที่ได้แรงบันดาลใจจาก โครงการ Whale of Freedom ที่มีประติมากรรมรูป ‘วาฬ’ และ ‘นกกระเรียนกระดาษ’ เป็นสัญลักษณ์โครงการฯ
เนื่องจาก 'วาฬ' เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ความยิ่งใหญ่และการคงอยู่ของธรรมชาติ ขณะที่ ‘นกกระเรียนกระดาษ’ เป็นสัญลักษณ์ของความอิสระ ความสุข และสันติภาพ ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น
การผสมผสาน 2 สัญลักษณ์นี้เข้าด้วยกัน เปรียบเสมือนการเชิญชวนให้ผู้คนออกเดินทางท่องเที่ยวอย่างอิสระและมีความสุขโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ให้ความงามของธรรมชาติยังคงอยู่ให้เราได้ชื่นชมต่อไปอย่างยั่งยืน
ปกติประติมากรรมในโครงการ Whale of Freedom ทำด้วยวัสดุรีไซเคิล แต่สำหรับประเพณีก่อพระทรายวันไหลบางแสน ประจำปี 2568 ทั้งวาฬและนกกระเรียนปั้นด้วยทรายตามรูปทรงต้นแบบ ลองสแกนคิวอาร์โค้ดในภาพดูได้
ประเพณีก่อพระทรายวันไหลบางแสน คงไว้ซึ่งวัฒนธรรมดั้งเดิมและเติมความร่วมสมัยไปตามเวลา