เรื่องที่สุดของ ‘กัญญา เจริญศุภกุล’ ศิลปินแห่งชาติในวันที่มีอายุครบ 77 ปี

เรื่องที่สุดของ ‘กัญญา เจริญศุภกุล’ ศิลปินแห่งชาติในวันที่มีอายุครบ 77 ปี

ปิติที่สุด – ที่ได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (สื่อผสม) ใหญ่ที่สุด – สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ “ความเจ็บปวดรวดร้าวของแม่พระธรณี” หนักที่สุด – ผลงานประกอบไปด้วยสีและทราย ท้าทายที่สุด - ในวัย 77 ที่มือทั้งสองข้างมีนัดผ่าตัดรักษาเส้นเอ็น

นับตั้งแต่ผลงาน “ความเจ็บปวดรวดร้าวของพระแม่ธรณี” ( Whitewash for Mother Earth) ของ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ กัญญา เจริญศุภกุล จัดแสดงในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ  บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ Bangkok Art Biennale 2024 (BAB2024)  บริเวณ ชั้น B2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมาจนถึงวันสุดท้ายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ดูเหมือนว่าคิวนัดหมายเข้าชมและสนทนากับอาจารย์จะค่อนข้างแน่นน้อง ๆ ดารานักแสดงเลยทีเดียว

โชคดีที่เรามีช่วงนาทีทองได้พบปะพูดคุยกับ อ.กัญญา ถึงเรื่องราวกว่าจะมาเป็นผลงานศิลปะขนาดใหญ่ที่รวมความเป็นที่สุดในหลายแง่มุมของชีวิตในปีที่ 77 ที่เกิดขึ้นในปี 2567 ที่ผ่านมา

เรื่องที่สุดของ ‘กัญญา เจริญศุภกุล’ ศิลปินแห่งชาติในวันที่มีอายุครบ 77 ปี กลุ่มนักศึกษา คณาจารย์ เข้าชมผลงานกันอย่างต่อเนื่อง

“ปีที่แล้วชีวิตอาจารย์มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เริ่มต้นจากการต้องย้ายสตูดิโอเนื่องจากพื้นที่โรงงานที่เราเช่าอยู่มีคนมาซื้อ ทำให้ต้องย้ายพื้นที่ทำงานไปอยู่อีกอาคารหนึ่งของโรงงาน ซึ่งมีพื้นที่มากกว่าแต่ต้องใช้เวลาซ่อมแซมอยู่ 5-6 เดือน 

ยังไม่ทันได้ทำงานที่ค้างอยู่ ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ (ประธานอำนวยการและผู้อำนวยการศิลป์ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่) เชิญให้มาทำงานศิลปะชิ้นใหญ่เพื่อนำมาจัดแสดงในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ  บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 

ดร.อภินันท์ บอกว่ามีพื้นที่ให้ 19 เมตร ชิ้นงานน่าจะมีขนาด 14 เมตร อาจารย์ตอบรับด้วยความตื่นเต้นแล้วก็เป็นห่วงตัวเองเหมือนกันว่าจะทำได้หรือไม่เพราะว่าเพิ่งผ่าตัดพังผืดที่มือขวามา 2 เดือน อาจารย์ทำงานภาพพิมพ์มาตลอด แม่พิมพ์หินค่อนข้างหนัก มือทั้งสองข้างตอนนี้มีอาการชา นิ้วล็อค”

เรื่องที่สุดของ ‘กัญญา เจริญศุภกุล’ ศิลปินแห่งชาติในวันที่มีอายุครบ 77 ปี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ กัญญา เจริญศุภกุล

อ.กัญญา ตัดสินใจเลื่อนการผ่าตัดพังผืดที่มือซ้ายออกไปก่อน ด้วยความรู้สึกที่อยากท้าทายและเติมเต็มความต้องการภายในใจที่อยากจะมีโอกาสสร้างสรรค์ผลงานขนาดใหญ่สักครั้งหนึ่งในชีวิต

“เคยคุยกับ อ.ธวัชชัย สมคง ผู้ก่อตั้ง Matdot Art Center ว่าในชีวิตเราควรจะทำงานชิ้นใหญ่ ๆ สักชิ้นที่เราสามารถปล่อยพลังได้เต็มที่ เมื่อมีโอกาสเข้ามาจึงรีบคว้าเอาไว้ ประกอบกับคอนเซ็ปต์ของงาน คือ รักษา กายา โดนใจเรา 

กายา เปรียบเหมือนพระแม่ธรณีที่พิทักษ์โลกเอาไว้ เราต้องโอบอุ้มท่านที่กำลังเผชิญกับวิบากกรรมไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศ ภัยจากมนุษย์ที่เผาผลาญทรัพยากร ทำลายสิ่งแวดล้อม จากการประกอบอุตสาหกรรม ขุดน้ำมัน การใช้สารเคมีในสงครามที่ทำลายทั้งชีวิตคน สัตว์ ต้นไม้ รวมไปถึงดิน ฟ้า อากาศ

หากเปรียบพระแม่ธรณีเป็นมนุษย์ผู้หญิงคนหนึ่ง ร่างกายเธอคงมีสภาพเหมือนผู้ป่วยหนัก ผิวกายคงจะเต็มไปด้วยบาดแผลเกินเยียวยา ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนต้องโอบอุ้ม ดูแล อาจารย์จึงสร้างผลงานศิลปะชิ้นนี้ขึ้นมาโดยตั้งชื่อว่า ความเจ็บปวดรวดร้าวของพระแม่ธรณี

เรื่องที่สุดของ ‘กัญญา เจริญศุภกุล’ ศิลปินแห่งชาติในวันที่มีอายุครบ 77 ปี ลงมือสร้างงานภายในสตูดิโอที่มีความยาวน้อยกว่าชิ้นงาน

เพื่อแสดงถึงพลังความยิ่งใหญ่ของพระแม่ธรณี  อาจารย์จึงเพิ่มความยาวของม้วนผ้าใบปกติ 14 เมตรให้มีความยาวรวม 15 เมตร สำหรับเผื่อส่วนที่เป็นหัวและท้ายของชิ้นงาน แน่นอนว่าผืนผ้าใบยาวขนาดนี้ ย่อมมีปัญหาในการทำงานไม่น้อย เนื่องจากสตูดิโอมีความยาวเพียง 13 เมตร

“เราใช้วิธีทำงานคล้ายเขียนหนังสือ เริ่มต้นทางด้ายซ้ายก่อน พอลงสีสร้างลวดลายแล้วใช้พัดลมเป่าให้แห้งก่อนม้วนเก็บแล้วลงสีบนผ้าใบส่วนที่ต่อเนื่องไป เป็นการทำงานในแนวราบตัวเรายืนอยู่บนผืนผ้าใบเหมือนเรายืนอยู่บนผืนดิน เหมือนเราได้อยู่ใกล้พระแม่ธรณีมากที่สุด

ส่วนการทำงานมีวิธีคิดเป็นสัญลักษณ์ การลงสีจะทำงานเหมือนภาพพิมพ์ คือ ลงทีละสีเริ่มที่สีดำก่อนแทนความหมายถึงความว่างเปล่าที่ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต

เลเยอร์ที่ 2 ใช้สีเขียวสื่อถึงการกำเนิดของสิ่งมีชีวิต  ต่อด้วยสีสันต่าง ๆ เช่น เหลือง ทอง ม่วง ฟ้า ชมพู ก่อนที่จะเป็นสีแดงสื่อถึงโลหิตของพระแม่ธรณี ปิดท้ายด้วยการชโลมทับด้วยสีขาว สัญลักษณ์ของการเยียวยารักษาบาดแผล”

เรื่องที่สุดของ ‘กัญญา เจริญศุภกุล’ ศิลปินแห่งชาติในวันที่มีอายุครบ 77 ปี กระป๋องสี ไม้กวาด นำมาใช้แทนพู่กัน

เรื่องที่สุดของ ‘กัญญา เจริญศุภกุล’ ศิลปินแห่งชาติในวันที่มีอายุครบ 77 ปี เมื่อใด ที่คุณรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวที่เจ็บปวดของ พระแม่ธรณี เมื่อนั้นความเจ็บปวดของคุณ อาจเป็นเพียงแค่เม็ดทราย - กัญญา เจริญศุภกุล (ภาพ : รายละเอียดของผลงานความเจ็บปวดรวดร้าวของพระแม่ธรณี)

สีที่สาดลงไปมีการผสมกับทรายเพื่อให้เกิดบอดี้ในการสร้างรูปทรง ร่องรอย งานนี้อาจารย์ต้องพัฒนาอุปกรณ์ในการลงสีให้ใหญ่ขึ้น มีทั้งกระป๋อง กะละมัง ไม้ ไม้กวาด ทั้งขูดทั้งขีด กระทุ้งเพื่อให้เกิดรูปทรงตามโครงภาพที่ร่างไว้ เช่น รูปทรงของพายุเฮอริเคนชนิดที่ถล่มเกาะหายไป ทำให้บ้านช่องลอยทั้งหลัง เป็นการรวบรวมการเปลี่ยนแปลงของโลกจากภัยธรรมชาติที่มีความรุนแรง ดุดันมากขึ้น อันเนื่องมาจากฝีมือมนุษย์เราที่เผาผลาญทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง จนก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมทั้งหลายทั้งมวล

ตลอดระยะเวลา 10 วันในการทำงานที่ท้าทายพลังกายและใจขั้นสุด อ.กัญญา กล่าวว่า “อายุไม่ใช่อุปสรรค แต่ร่างกายนี่สิเป็นอุปสรรค”

เรื่องที่สุดของ ‘กัญญา เจริญศุภกุล’ ศิลปินแห่งชาติในวันที่มีอายุครบ 77 ปี

ผู้ช่วยศิลปินที่ช่วยทั้งงานและช่วยประคอง จับมือมิให้ล้ม

“เหนื่อยเร็ว ก้มมากไม่ได้ แต่แปลกมากเวลาทำงานกลับลืมตัว มีความสุขอย่างมหัศจรรย์ ทำให้คิดถึงคำพูดของพี่เทพศิริ สุขโสภา (ศิลปินและรุ่นพี่คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ ม.ศิลปากร) บอกไว้ว่าการทำงานศิลปะมันเหมือนมีพลังบางอย่างที่เข้ามาเล่นกับเรา  มือที่เคยเจ็บ นิ้วที่เคยล็อค เข่าที่ปวดก็ลืมไปหมด แต่พอเลิกงานกลับถึงบ้านก็สลบเหมือนกันนะ”

ในบันทึกเดือนสิงหาคม 2567 อ.กัญญาเขียนไว้ว่า 

  • วันที่ 6 เริ่มสร้างสรรค์ผลงาน ความเจ็บปวดรวดร้าวของพระมาธรณี โดยมี Wonderful Dream Team นำโดย ไพโรจน์ พิเชฐเมธากุล จีรนันท์ แซ่ซิ้ม และ พิศิษฐ์  สันติปาตี เป็นผู้ช่วย เพราะทีมนี้คุ้นเคยกับงานเขียนภาพบนผนังตึกสูง 10 -12 ชั้น และภาพวาดบนกำแพงเขื่อนยาว 3 กิโลเมตร 
  • วันที่ 20 เซ็นชื่อลงบนชิ้นงานเป็นอันเสร็จสิ้นการทำงานชิ้นใหญ่ที่สุดที่เคยทำมา
  • วันที่ 28 ย้ายผลงานจากสตูดิโอไปยังสถานที่จัดแสดง ชั้น B2  ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างทีมงานออกไปจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติมที่สำเพ็ง ได้ทราบข่าวการประกาศผลการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2566 โดย อ.กัญญา ได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (สื่อผสม) ผู้ช่วย จึงกลับมาพร้อมกับดอกกุหลาบสีแดงและขาว กล่าวได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวันที่ดีที่สุดของชีวิต

เรื่องที่สุดของ ‘กัญญา เจริญศุภกุล’ ศิลปินแห่งชาติในวันที่มีอายุครบ 77 ปี อ.กัญญา เจริญศุภกุล กับ 'ความเจ็บปวดรวดร้าวของพระแม่ธรณี'

เรื่องที่สุดของ ‘กัญญา เจริญศุภกุล’ ศิลปินแห่งชาติในวันที่มีอายุครบ 77 ปี ดอกไม้แสดงความยินดีจากลูกศิษย์ที่มารวมตัวกันเป็นทีมผู้ช่วยคนสำคัญ

“ถ้าให้มองย้อนกลับไปในชีวิตการทำงานศิลปะ ปีที่ 77 นับว่าเป็นปีที่มีสีสันมากที่สุด สนุกที่สุด ปิติที่สุดอาจารย์ทำอย่างอื่นไม่เก่งเลยนะ ทำไข่ดาวไข่เจียวไม่ได้เรื่อง แต่งานศิลปะทำแล้วมีความสุข ไม่รู้สึกเหนื่อยหนัก อาจจะปวดเมื่อย เจ็บมือ เจ็บเข่าไปตามวัย แต่การทำ(ภาระ)กิจที่เลือกแล้ว สำหรับอาจารย์ คือ การทำสิ่งที่รัก ไม่ใช่ ‘ภาระ’ แต่อย่างใด”

  • ปิติที่สุด – ที่ได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (สื่อผสม) 
  • ใหญ่ที่สุด – สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ “ความเจ็บปวดรวดร้าวของแม่พระธรณี” ขนาด 3.17 x 14.46 เมตร
  • หนักที่สุด – ผลงานประกอบไปด้วยสีและทรายมีน้ำหนักรวม 100 กิโลกรัม
  • ท้าทายที่สุด - ในวัย 77 ที่มือทั้งสองข้างมีนัดผ่าตัดรักษาเส้นเอ็น พังผืด และนิ้วล็อค  ร่วมด้วยอาการเข่าเจ็บ

คงไม่สายเกินไปที่เราขอแสดงความยินดีที่อาจารย์ได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (สื่อผสม) ประจำปีพ.ศ. 2566 มา ณ โอกาสนี้ คุณค่าที่คู่ควรเป็นอย่างยิ่งค่ะ

ภาพ : อนุตรา อึ้งสุประเสริฐ

เรื่องที่สุดของ ‘กัญญา เจริญศุภกุล’ ศิลปินแห่งชาติในวันที่มีอายุครบ 77 ปี เบื้องหลังการทำงานกับ 3 ผู้ช่วย และพัดลม 3 ตัว ในสตูดิโอยาว 13 เมตร

เกี่ยวกับศาสตราจารย์เกียรติคุณกัญญา เจริญศุภกุล

เกิด 20 กันยายน พ.ศ. 2490 ที่จ.นครราชสีมา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาภาพพิมพ์ จากคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร (พ.ศ. 2515) ปริญญาโท สาขาภาพพิมพ์ จากสถาบันศิลปะแห่งชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2520) เมื่อสำเร็จการศึกษาเข้ารับราชการเป็นอาจารย์สอนศิลปะ ภาควิชาภาพพิมพ์ คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร 

เป็นศิลปินหญิงที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ผู้สร้างเกียรติประวัติมากมาย และเป็นผู้ฟื้นฟูการเรียนการสอนภาพพิมพ์หิน ที่มุ่งมั่นถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ผู้เรียนอย่างเต็มความสามารถ ควบคู่ไปกับการพัฒนางานสร้างสรรค์ หรืองานวิจัยของตนเองให้โดดเด่น นำเสนอผลงานสู่สาธารณชน ทั้งในรูปแบบนิทรรศการและเอกสารทางวิชาการ ได้รับรางวัลในฐานะศิลปินและนักสร้างสรรค์ระดับชาติและระดับนานาชาติ

ปัจจุบันยังคงยืนหยัดทำงานเพื่อสังคมและสร้างสรรค์ผลงานศิลปะให้เป็นกระบอกเสียงรณรงค์และแสดงทัศนะที่มีต่อเรื่องไม่เป็นธรรมในสังคม อันสะท้อนจุดยืนและสำนึกที่มีต่อสังคมอย่างแรงกล้า

  • ที่มา : คำประกาศเกียรติคุณศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (สื่อผสม) พุทธศักราช 2566, กระทรวงวัฒนธรรม