23 ม.ค.2568 วันประวัติศาสตร์จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม LGBTQ+ใช้เอกสารใดบ้าง

23 ม.ค.2568 บันทึกวันประวัติศาสตร์ กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับ “จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม” พร้อมกันได้ทั่วไทยเป็นครั้งแรก บางกอกไพรด์ประสาน 'เขตปทุมวัน' จัดงาน Marriage Equality รับจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมที่สยามพารากอน, คู่รัก LGBTQ+ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
วันพฤหัสฯ ที่ 23 มกราคม 2568 ได้รับการบันทึกเป็น วันประวัติศาสตร์ เป็นวันแรกและเป็นครั้งแรกที่ ประเทศไทย เปิดให้มีการ จดทะเบียนสมรสคู่รัก LGBTQIAN+ พร้อมกันได้ทั่วประเทศ โดยมีประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์รับรองสิทธิอย่างถูกต้อง หรือที่รู้จักกันในชื่อ กฎหมายสมรสเท่าเทียม
กฎหมายฉบับนี้เป็นผลมาจากการเคลื่อนไหวเพื่อความเท่าเทียมทางเพศที่กินเวลากว่า 10 ปี หลังการเสนอ “ร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต” เพื่อรับรองสิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) รับร่างฯ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563
วาดดาว - อรรณว์ ชุมาพร ประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัท นฤมิตไพรด์ จำกัด ในฐานะผู้จัดงาน Bangkok Pride (บางกอกไพรด์) ผู้เคลื่อนไหวเสนอแก้ไขกฎหมายสมรสเท่าเทียมภาคประชาชนมาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี กล่าวว่า นฤมิตไพรด์ ขอเชิญชวนคู่รัก LGBTQIAN+ มาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ไปด้วยกัน เพื่อยืนยันให้เห็นว่าคู่รัก LGBTQIAN+ รอคอยและต้องการสมรสเท่าเทียมมานาน
“การจดทะเบียนสมรสในวันแรกของการบังคับใช้กฎหมายนี้พร้อมกันทั่วประเทศ เป้าหมายของเราคือ 1,448 คู่ ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกับ กฎหมายมาตรา 1448 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือ สมรสเท่าเทียม แต่โดยส่วนตัวได้ 1,000 คู่ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในการยืนยันเจตจำนงในการก่อตั้งครอบครัวแล้ว”
สำหรับในกรุงเทพฯ นฤมิตไพรด์พร้อมคณะทำงานสมรสเท่าเทียมภาคประชาชน, ภาคีเครือข่ายที่ร่วมกันผลักดันพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียม ประสานงานกับ กรุงเทพมหานคร เตรียมความพร้อมแล้วทั้ง 50 เขตสำหรับการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมในวันที่ 23 ม.ค.นี้
เพื่อฉลองวาระแห่งความพิเศษนี้ นฤมิตไพรด์ยังกำหนดจัดงานพิเศษ สมรสเท่าเทียม : Marriage Equality เริ่มพิธีจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมครั้งประวัติศาสตร์ ดำเนินการโดย เขตปทุมวัน ที่จะมอบใบสำคัญการสมรสรูปแบบพิเศษ ณ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน 08.00-19.00 น. โดยเปิดให้มีการลงทะเบียนสำรองคิวจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมล่วงหน้า
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ม.ค. เฟซบุ๊กบางกอกไพรด์ได้โพสต์ขอปิดการลงทะเบียนจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมในงานที่ “พารากอนฮอลล์” เนื่องจากมีผู้ลงทะเบียนเต็มจำนวนตามที่คณะผู้จัดงาน “สมรสเท่าเทียม : Marriage Equality” ได้เตรียมเอาไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม หากคู่รักท่านใดต้องการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมที่พารากอนฮอลล์ ก็ยังสามารถ Walk in ไปได้ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. เพียงแต่จำนวนคิวที่ต้องรอจำเป็นต้องขึ้นอยู่กับคิวที่ได้ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้
ภายในงานยังมีกิจกรรมเสวนาเกี่ยวกับการสร้างครอบครัว เริ่มเวลา 13.00 น. อาทิ หัวข้อ "เช็คความพร้อม : สมรสเท่าเทียมและก้าวต่อไป" โดย กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และภาคธุรกิจ-ประชาสังคม
เสวนาหัวข้อ "เรียนรู้ ยอมรับ หลากหลาย : ก่อนสมรสจะเท่าเทียมและสิ่งที่รออยู่" โดย คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
หลังการเสวนา เป็นกิจกรรมการเฉลิมฉลองความรักและความหลากหลายบน Pride Carpet ร่วมเดินพรมแดงโดยคู่รัก LGBTQ และดารานักแสดงตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป
อาทิ พอร์ช อภิวัฒน์ อภิวัฒน์เสรี และ อาม สัพพัญญู ปนาทกูล, กัน ฐนวัฒน์, อาร์ม ชัยภัทร, แบงค์ อนุสิทธิ, ฮาร์ท ชินดนัย
เชลลี่-เพชรใส จันทร์เรือง และเนโกะ-เนรัญชรา เลิศประเสริฐ, เฟย์เฟย์-ฑิตยาพร ประเสริฐสม และน้ำ-จุฑามาศ หวังสวัสดิ์, ทีมนักแสดงจาก Star Hunter Entertainment, ทีมนักแสดงจาก Studio Wabi Sabi
จากนั้นเป็นการแสดงจากศิลปินและมินิคอนเสิร์ตถึงเวลา 22.00 น.
หน้าประวัติศาสตร์แห่งความรักและความเท่าเทียมยังนำมาซึ่งผลดีต่อ เศรษฐกิจ ของประเทศ
วาดดาว กล่าวว่า “ตามการวิเคราะห์ของแพลตฟอร์มท่องเที่ยว Agoda กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ+ หรือ Rainbow Tourism คาดว่า จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 4 ล้านคนต่อปี พร้อมสร้างรายได้กว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 31,000 ล้านบาท และเพิ่ม GDP ของประเทศขึ้น 0.3% ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ แต่ยังสะท้อนถึงการก้าวไปข้างหน้าของสังคมไทยในด้านความเท่าเทียมและการยอมรับความหลากหลายที่มากขึ้นในเวทีโลกด้วย”
23 ม.ค.2568 ร่วมแสดงความยินดีกับ คู่สมรส LGBTQ+ ทุกคู่ ร่วมกันส่งเสริมให้ความหลากหลายและความเท่าเทียมอยู่เคียงคู่กับสังคมไทยโดยปราศจากการแบ่งแยก
และยอมรับทุกความแตกต่างได้อย่างแท้จริง
เตรียมเอกสารก่อนไปจดทะเบียน “สมรสเท่าเทียม”
หลังจากวันที่ 23 มกราคม 2568 การสมรสที่จากเดิมจะต้องเป็น “ชายและหญิง” เท่านั้นที่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ ก็จะเปลี่ยนเป็น “บุคคลและบุคคล” ซึ่งหมายความว่าไม่ว่าจะเป็นเพศไหน หรือคู่รัก LGBTQ+ ก็สามารถดำเนินการจดทะเบียนสมรสให้มีผลตามกฎหมายได้
ผู้ประสงค์จดทะเบียนสมรสเท่าเทียมตามการเปลี่ยนแปลงกฎหมายฉบับนี้ ต้องเตรียมตัว-เตรียมเอกสารอะไรบ้าง
จดทะเบียนสมรสเท่าเทียมต้องทำอย่างไรบ้าง?
- ต้องมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์
- ต้องไม่ถูกตัดสินหรือเป็นบุคคลวิกลจริตหรือบุคคลไร้ความสามารถ
- ไม่ใช่พี่น้องร่วมบิดามารดา หรือร่วมแต่บิดามารดา
- ไม่ใช่พ่อแม่และบุตรบุญธรรม
- ไม่มีคู่สมรสอยู่แล้ว แต่หากเคยจดทะเบียนสมรสและหย่าแล้ว ต้องมีระยะเวลาห่างจากสมรสเดิมไม่น้อยกว่า 310 วัน เว้นแต่คลอดบุตรแล้ว หรือมีใบรับรองว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือมีคำสั่งศาล หรือจดทะเบียนสมรสกับคู่เดิม
เอกสารที่ต้องใช้ในการสมรส สำหรับคนไทย
- บัตรประชาชนตัวจริงที่ยังไม่หมดอายุ
- สัญญาก่อนสมรส (ถ้ามี)
- หากยังไม่บรรลุนิติภาวะ (อายุ 20 ปี) ต้องมีหนังสือยินยอมของผู้ปกครอง พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้ปกครองที่ลงนามแล้วด้วย
เอกสารที่ต้องใช้ในการสมรส สำหรับชาวต่างชาติ
- ใบรับรองสถานะโสดที่ออกโดยสถานทูต พร้อมคำแปลภาษา
- หนังสือเดินทางตัวจริงที่ยังไม่หมดอายุ
- สัญญาก่อนสมรส (ถ้ามี)
- หากยังไม่บรรลุนิติภาวะ (อายุ 20 ปี) ต้องมีหนังสือยินยอมของผู้ปกครอง พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้ปกครองที่ลงนามแล้วด้วย
- **สำคัญ : เอกสารทุกฉบับต้องได้รับการแปลและได้รับการรับรองจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศแล้วเท่านั้น