ไปดูนิทรรศการ'จิบลิ' (Ghibli)หรือยัง ดูแล้วจะตกหลุมรักการ์ตูน'มิยาซากิ'

ไปดูนิทรรศการ'จิบลิ' (Ghibli)หรือยัง ดูแล้วจะตกหลุมรักการ์ตูน'มิยาซากิ'

สำหรับคนหลงรักตัวการ์ตูนมิยาซากิ ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่น นิทรรศการจิบลิ จัดแสดงที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 8 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566

ชื่อเสียงของพิพิธภัณฑ์จิบลิ เมืองมิตากะ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทำให้คนที่ชอบการ์ตูนอยากเดินทางไปที่นั่นสักครั้งในชีวิต เพื่อชมผลงานจากอนิเมะของสตูดิโอจิบลิ ที่ก่อตั้งโดย ฮายาโอะ มิยาซากิ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2544 จนถึงปัจจุบันรวมๆ ประมาณ 22  ปี

ล่าสุดนิทรรศการการ์ตูนและอนิเมชันญี่ปุ่น The World of STUDIO GHIBLI's Animation Exhibition Bangkok 2023 จัดแสดงที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 8 

แบบนี้จะรออะไร ซื้อตั๋ว แล้วหาเวลาไปชมได้เลย เหลือเวลาอีกหนึ่งเดือน (30 กันยายน 2566) นิทรรศการก็จะปิดฉากลง

เชื่อว่าตัวการ์ตูนจากสตูดิโอจิบลิ เด็กทั้งโลกน่าจะชื่นชอบ เพราะได้เห็นตัวการ์ตูนน่ารักๆ ในแบบที่ไม่เคยเห็น จินตนาการไปได้ไกล

 

ไปดูนิทรรศการ\'จิบลิ\' (Ghibli)หรือยัง ดูแล้วจะตกหลุมรักการ์ตูน\'มิยาซากิ\' จากเรื่อง ปราสาทเวทมนตร์ของท่านฮาวล์ Howl's Moving Castle 

ดังนั้นในบางรอบควรเปิดให้เด็กๆ ที่ขาดโอกาสได้ชมด้วยบัตรราคาถูก หรือไม่เสียค่าใช้จ่าย จะด้วยวิธีการใดก็ตาม

เพราะเมื่อผู้เขียนได้ชมได้ดูแล้ว ก็รู้สึกคิดถึงเด็กๆ อยากให้พวกเขาได้มีโอกาสเห็นตัวการ์ตูนจากหนังแอนิเมชันที่พวกเขาหลงรักบ้าง...

มิยาซากิ ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์จิบลิ 

ตั๋วพร้อม ใจพร้อม สองมือเตรียมกล้องถ่ายรูปไว้เลย...

ก่อนชมนิทรรศการGhibli Museum มีการเล่าเรื่องราวประวัติของมิยาซากิ ผู้ก่อตั้งและผู้กำกับภาพยนตร์แอนิเมชันของสตูดิโอ ที่จัดทำภาพยนตร์แอนิเมชันที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น และได้รับรางวัลมากมาย 

มิยาซากิ เป็นนักวาดการ์ตูนที่ไม่เหมือนใคร สามารถวาดรูปที่ทำให้คนดูสัมผัสได้จริงๆ ในแอนิเมชั่น

ถ้าเขาไม่รักจริงถอดใจไปทำอย่างอื่น เราคงไม่ได้เห็นตัวการ์ตูนที่มีความเป็นมนุษย์น่ารักๆ แบบนี้ ตัวการ์ตูนส่วนใหญ่เล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ รวมถึงการมองโลกในแง่ดี 
ไปดูนิทรรศการ\'จิบลิ\' (Ghibli)หรือยัง ดูแล้วจะตกหลุมรักการ์ตูน\'มิยาซากิ\'

ไปดูนิทรรศการ\'จิบลิ\' (Ghibli)หรือยัง ดูแล้วจะตกหลุมรักการ์ตูน\'มิยาซากิ\'

มิยาซากิร่วมกับอิซาโอะ ทาคาฮาตะ(Isao Takahata) ก่อตั้งสตูดิโอจิบลิ ภาพยนตร์เรื่องแรกที่เขากำกับคือจอมโจรลูแปงที่ 3 ตอนปราสาทของคาริออสโตร(The Castle of Cagliostro) (1979) 

ผลงานชิ้นถัดมา ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักในวงการ ก็คือ เนาซิก้าแห่งหุบผาสายลม(Nausicaä of the Valley of Wind) สร้างจากนิยายภาพที่เขาเป็นผู้แต่งขึ้นเอง ความสำเร็จของเนาซิก้า ทำให้เขากับทาคาฮาตะได้ก่อตั้งสตูดิโอจิบลิขึ้นมาภายใต้การสนับสนุนด้านการเงินของกลุ่มสิ่งพิมพ์โทคุมะ

ส่วนผลงานที่ถือเป็นเรื่องแรกสตูดิโอจิบลิอย่างเป็นทางการคือ ลาพิวตา: คาสเซิลอินเดอะสกาย(Laputa: Castle in the Sky) (1986) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยของเด็กชายหญิงคู่หนึ่งที่ตามหาปราสาทลอยฟ้าในตำนานลาพิวตา ได้รับการตอบรับจากผู้ชมไม่แพ้เนาซิก้า

ไปดูนิทรรศการ\'จิบลิ\' (Ghibli)หรือยัง ดูแล้วจะตกหลุมรักการ์ตูน\'มิยาซากิ\' ทอมโบ กำลังขี่จักรยาน จากKiKi’s Delivery Service

ว่ากันว่า พิพิธภัณฑ์จิบลิที่ญี่ปุ่นไม่ได้ให้ความเพลิดเพลินอย่างเดียวยังให้ความรู้และความเข้าใจ จินตนาการที่ไร้ขอบเขต เมื่อเข้ามาจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยคาแรคเตอร์จากภาพยนตร์สตูดิโอจิบลิและการออกแบบที่น่าสนใจไม่เหมือนใคร

ผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องถัดมาของมิยาซากิอีกเรื่องคือ พอร์โค รอสโซ(Porco Rosso)เรื่องราวนักบินในยุคสงครามยุโรป หลังจากที่ถูกสาปให้เป็นหมู พอร์โคได้กลายมาเป็นนักล่าโจรสลัด เนื้อเรื่องค่อนข้างต่างออกไปจากภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ของเขา  

มิยาซากิยอมรับว่าพอร์โค รอสโซคือ “หนังส่วนตัว” ของเขา ซึ่งสะท้อนถึง 2 สิ่งในความเป็นตัวมิยาซากิ

นั่นก็คือ ความหลงใหลในเครื่องบินโบราณ กับ หมู (มิยาซากิชอบวาดภาพล้อตนเองเป็นหมูเหมือนตัวเอกของหนัง พอร์โค รอสโซ)

เรื่องนี้ต่างจากเรื่องอื่น ๆ ก็คือ ตัวละครเอกไม่ได้เป็นเด็กผู้หญิง รวมถึงตัวหนังเองไม่น่าจะจัดประเภทให้เป็นภาพยนตร์สำหรับเด็กได้ 

เมื่อ พอร์โค รอสโซ ออกฉายและประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย ต่อมาปีค.ศ.1997 มิยาซากิกำกับเรื่องเจ้าหญิงโมะโนะโนะเกะ(Princess Mononoke)ภาพยนตร์ย้อนยุคที่ฉีกแนว ใช้ยุคญี่ปุ่นโบราณเป็นฉากหลัง ทำให้ประสบความสำเร็จทั้งคำชมเชยและรายได้ กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในขณะนั้น 

 

ไปดูนิทรรศการ\'จิบลิ\' (Ghibli)หรือยัง ดูแล้วจะตกหลุมรักการ์ตูน\'มิยาซากิ\'

ไปดูนิทรรศการ\'จิบลิ\' (Ghibli)หรือยัง ดูแล้วจะตกหลุมรักการ์ตูน\'มิยาซากิ\' โซฟีและการผจญภัยของเธอ ขณะที่ถูกสาปให้เป็นคนแก่ Howl's Moving Castle

ตัวการ์ตูนในนิทรรศการจิบลิ 

  • ปราสาทเวทมนตร์ของท่านฮาวล์ Howl's Moving Castle

ปราสาทแรกที่พบเจอในนิทรรศการจิบลีคือ ปราสาทเวทมนตร์ของท่านฮาวล์ Howl's Moving Castle เค้าโครงเรื่องมาจากหนังสือชื่อเดียวกันของไดอาน่า ไวนน์ โจนส์  

โครงเรื่องเน้นไปที่โซฟีและการผจญภัยของเธอ ขณะที่ถูกสาปให้เป็นคนแก่ การดำเนินเรื่องส่วนใหญ่เกิดในระหว่างสงครามซึ่งมีเหตุการณ์คล้ายกับสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

ฉากนี้จะทำให้คนดูสนุกกับการหมุนวงล้อการเคลื่อนไหวที่โซฟีถูกสาปให้เป็นคนแก่ ซึ่งในนิทรรศการสีหน้าและท่าทางเหมือนในภาพยนตร์การ์ตูนมาก

ไปดูนิทรรศการ\'จิบลิ\' (Ghibli)หรือยัง ดูแล้วจะตกหลุมรักการ์ตูน\'มิยาซากิ\'

  • ปราสาทกลับหัว ลาปูต้า Castle in the Sky

การ์ตูนเรื่องยาวของสตูดิโอจิบลิ ปี 2529 เล่าถึงธรรมชาติ จิตวิญญาณ และความเป็นมนุษย์  มีตำนานเล่าว่าในอดีตมนุษย์มีวิทยาการและอารยธรรมสูงส่งถึงขนาดสร้างอาณาจักรลอยฟ้า 

ในฉากหนึ่งของลาปูต้า ทำเป็นปราสาทกลับหัว ใช้กระจกสะท้อนได้อย่างน่าทึ่ง พาจินตนาการไปไกลทีเดียว 

ไปดูนิทรรศการ\'จิบลิ\' (Ghibli)หรือยัง ดูแล้วจะตกหลุมรักการ์ตูน\'มิยาซากิ\' ไปดูแม่มดน้อยขี่ไม้กวาด จากภาพยนตร์เรื่องKiKi’s Delivery Service 

  • แม่มดน้อยKiKiบ้านขนมปัง (KiKi’s Delivery Service)

สร้างจากเรื่องราวดั้งเดิมในหนังสือของเอโกะ คาโดโนะ ออกฉายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นปี ค.ศ.1989 และได้รับรางวัล Animage Anime Grand Prix เป็นภาพยนตร์ของสตูดิโอจิบลิเรื่องแรกที่ได้รับการจัดจำหน่ายภายใต้ความร่วมมือระหว่างสตูดิโอจิบลิและเดอะวอลท์ดิสนีย์คัมพานี

อีกฉากที่น่ารักน่าหยิกในหลายๆมุมของร้านขนมปังคิคิ และทอมโบ ที่กำลังขี่จักรยานเป็นอีกมุมที่ถ่ายรูปได้สวย 

ไปดูนิทรรศการ\'จิบลิ\' (Ghibli)หรือยัง ดูแล้วจะตกหลุมรักการ์ตูน\'มิยาซากิ\' จากเรื่อง Porco Rosso 

  • ชิลๆ ริมชายหาด Porco Rosso 

จากภาพยนตร์การ์ตูนญี่ปุ่นของสตูดิโอจิบลิ มิยาซากิเขียนบทและกำกับ ฉายเมื่อปีค.ศ. 1992 ผลงานเรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่เป็นส่วนตัวที่สุด 

หากจะนิยามหนังเรื่องนี้อย่างสั้นที่สุด อาจนิยามได้ว่า “เด็กผู้หญิง หมู และเครื่องบินประหลาด” ซึ่งทั้งหมดคือสิ่งที่ตัวผู้กำกับชื่นชอบเป็นการส่วนตัว

แต่นั่นไม่ได้ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้แตกต่างไปจากหนังเรื่องอื่นๆ ของมิยาซากิเท่ากับอารมณ์ของภาพยนตร์ที่ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ และสะท้อนถึงสายตาที่มองโลกในแง่ร้าย สิ่งเหล่านี้มักซ่อนอยู่ในหนังเรื่องอื่นๆ ของมิยาซากิ

  • ป้ายรถเมล์ และบ้านต้นไม้ My Neighbour Totoro

เนื้อเรื่องเกี่ยวกับชีวิตคนญี่ปุ่นในยุคพ.ศ. 2499(ค.ศ. 1956) โทโทโร่เพื่อนรัก เป็นเรื่องราวที่สอนให้เด็กมีความรับผิดชอบ ขยันขันแข็ง และรักธรรมชาติ

ตัวโทโทโระตัวใหญ่ ยังเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของสตูดิโอจิบลิด้วย และรถบัสแมว“เนะโกะ บะซุ” มาจากความเชื่อของชาวญี่ปุ่นที่ว่า เมื่อแมวเติบโตขึ้น มันจะมีพลังเวทมนตร์ในการแปลงร่างเพิ่มขึ้นด้วย 

ไปดูนิทรรศการ\'จิบลิ\' (Ghibli)หรือยัง ดูแล้วจะตกหลุมรักการ์ตูน\'มิยาซากิ\' จากเรื่อง Spirited Away ซึ่งเป็นฉากสุดท้ายที่คนดูต้องนั่งถ่ายรูปด้วย 

  • คาโอนาชิและรถไฟแห่งวิญญาณ Spirited Away 

เนื้อหาว่าด้วยเด็กหญิงวัยสิบปีหลงเข้าไปในโลกของภูตพร้อมครอบครัวโดยบังเอิญ บิดามารดากลายร่างเป็นสุกร และเธอต้องทำงานที่โรงอาบน้ำของแม่มด เธอจึงพยายามปลดแอกตนและครอบครัวเพื่อกลับโลกมนุษย์ 

มิยาซากิเขียนบทภาพยนตร์นี้ขึ้น โดยอ้างอิงลูกสาววัยสิบปีของเพื่อน ซึ่งมักมาเยี่ยมเขาทุกฤดูร้อน

เหล่านี้คือตัวการ์ตูนในนิทรรศการจิบลิที่จัดแสดง ณ เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 8 ซึ่งฉากเด็ดๆ อยากให้คนสนใจไปสัมผัสด้วยตัวเอง 

......

อ้างอิง : วิกิพีเดีย

ไปดูนิทรรศการ\'จิบลิ\' (Ghibli)หรือยัง ดูแล้วจะตกหลุมรักการ์ตูน\'มิยาซากิ\'