Sand Mandala (แมนดาลาทราย) ศิลปะแห่งการลดอัตตา

Sand Mandala (แมนดาลาทราย) ศิลปะแห่งการลดอัตตา

แมนดาลาทราย ( Sand Mandala) ภาพวาดจากทราย ศิลปะที่ต้องใช้สมาธิขั้นสูง แม้ทำออกมาจะสวยงามเพียงใด แต่ที่สุดแล้วต้องคืนสู่ธรรมชาติ และนั่นคือ เพื่อลดอัตตา

สำหรับคนที่ไม่เคยเห็นการภาวนาจากเม็ดทรายละเอียดยิบหลากสีสันที่เรียกว่า แมนดาลาทราย(Sand Mandala) คงนึกสงสัยว่า มันคืออะไร แต่สำหรับบางคนที่เคยเห็นมาบ้าง ก็จะรู้ว่า นี่คือ ศิลปะและการภาวนารูปแบบหนึ่งของนักบวชพุทธสายวัชรยาน

ผู้เขียนเคยนั่งชมการทำศิลปะแขนงนี้หลายครั้งหลายหน ช่วงที่ไปร่วมกิจกรรมภาวนา นักบวชจะใช้แมนดาลาทราย ฝึกฝนลดอัตตาตัวตน เพราะไม่ว่าจะสวยเลิศเลอขนาดไหน เมื่อทำเสร็จแล้วก็จะรวบทรายคืนสู่สภาพเดิม เสมือนหนึ่งไม่เคยมีแมนดาลาทรายเกิดขึ้น

จำได้ว่าหลายปีที่แล้ว สามเณรีจากเนปาลที่มาร่วมกิจกรรมในการประชุมทางธรรม ณ เสถียรธรรมสถาน นักบวชจะนั่งจดจ่อกับการหยอดทรายทีละนิดอย่างมีสมาธิ เพื่อสร้างแมนดาลา 

การสร้างแมนดาลาทราย ใช่ว่าใครๆ ก็ทำได้ ต้องมีการสืบทอดและฝึกฝน เนื่องจากผู้สร้างแมนดาลา ต้องมีทักษะชั้นสูง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักบวชจากอินเดีย เนปาลและทิเบต

การสร้างแมนดาลาทรายในกลุ่มนักบวชเนปาล สามเณรีอาวุโสผู้เชี่ยวชาญจะคัดเลือกผู้สืบทอดเอง เพราะนักบวชที่จะมาทำแมนดาลาทรายต้องมีสภาวะจิตที่สงบนิ่งเมื่ออยู่กับศิลปะแขนงนี้ 

ปกติแล้วในเนปาลสามเณรีรูปหนึ่งจะมีความเชี่ยวชาญในการสร้างแมนดาล่าทรายเพียงหนึ่งหรือสองแบบเท่านั้น เมื่อนักบวชคนใดถูกคัดเลือกแล้ว จะต้องได้รับการฝึกฝนอย่างจริงจังสองปี จนกระทั่งจดจำลวดลายที่มีสีสันและความซับซ้อนได้ขึ้นใจ

Sand Mandala (แมนดาลาทราย) ศิลปะแห่งการลดอัตตา

ลวดลายของแมนดาล่าทรายที่ปรากฎให้เห็น จึงเปรียบเสมือนจักรวาลอันศักดิ์สิทธิ์ โดยจะทำเป็นรูปสองมิติวาดลงบนกระดาษหรือผืนผ้า ส่วนใหญ่สร้างขึ้นสำหรับพิธีมนตราภิเษก เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการทำสมาธิ เพื่อแสดงให้เห็นสภาวะการรู้แจ้งในจิตใจ

ภิกษุสงฆ์และสามเณรี พุทธศาสนาสายวัชรยาน จะสร้างแมนดาลาที่ซับซ้อนด้วยทรายสีที่ทำจากหินพลอยอ่อนละเอียด เม็ดทรายแต่ละเม็ดเปรียบเสมือนพรอันประเสริฐ

ส่วนขั้นตอนในทำแมนดาล่าจะแสดงถึงพลังแห่งจิตวิญญาณ หากผู้สร้างจิตไม่สงบนิ่ง คงยากจะสร้างสรรค์เม็ดทรายเล็กๆ นับล้านให้เป็นรูปศิลปะอันงดงาม และที่น่าแปลกคือ จะไม่มีการสะสมภาพแมนดาล่าทราย เมื่อสร้างเสร็จ จะถูกทำลาย

ก่อนจะลงมือทำแมนดาล่าทราย นักบวชจะต้องลากเส้นเค้าโครงบนแท่งยกพื้นเป็นไม้ โดยใช้อุปกรณ์กรวยโลหะรูปทรงแคบและยาวที่เรียกว่า Chak-pu แล้วนำเขาสัตว์มาถูกกับกรวย เพื่อให้ทรายที่บรรจุภายในไหลออกมาอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังมีเครื่องขูดที่ทำจากไม้ ที่เรียกว่า shing-ga นำมาใช้จัดขอบให้ตรงและจัดเม็ดทรายให้เป็นระเบียบ

ทุกขั้นตอนของการภาวนา เพื่อสื่อความหมายของชีวิต ตั้งแต่การลากเส้น การเลือกสีของเม็ดทราย ลักษณะเม็ดทรายที่มีทั้งความหยาบและละเอียด ไม่เว้นแม้กระทั่งเครื่องประดับที่นำมาตกแต่งทั้งภายในและภายนอกของแมนดาลา

กระบวนการทั้งหมดเกี่ยวโยงกับทุกสรรพสิ่งในโลก ต่างพึ่งพิงซึ่งกันและกัน และเมื่อจบสิ้นกระบวนการทำแมนดาล่าทราย ยังสื่อให้เห็นถึงความไม่ยั่งยืนของชีวิต

ไม่ว่านักบวชจะทำแมนดาล่าทรายออกมางดงามเพียงใด หรือเป็นศิลปะชั้นเลิศที่หาชมได้ยากในโลกใบนี้ แต่หลังจากสร้างเสร็จแล้ว จะทำลายทิ้งโดยการแยกชิ้นส่วน เพื่อสื่อถึงความไร้แก่นสาร

เม็ดทรายจากการทำแมนดาลาจะถูกกวาดรวมกัน และนำมาใส่ในภาชนะ เพื่อแจกจ่ายให้ผู้ร่วมงานหลังจากจบพิธี และส่วนที่เหลือจะนำไปโปรยลงน้ำ คืนสู่ธรรมชาติ