ลุคใหม่ ‘สุขนิรันดร์’ จากโรงแรมในตำนานแห่งเชียงรายสู่บูทีคโฮเทลร่วมสมัย

เปิดประตูดูดีไซน์ใหม่ของ 'โรงแรมสุขนิรันดร์' ไปกับ สุธาสินี จิตรสกุล ผู้รับอาสาแปลงโฉมโรงแรมแห่งแรกของเชียงรายให้กลายเป็นบูทีคโฮเทลหรู ที่เชื่อมโยงเสน่ห์วันวานให้ผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว
เพราะ 'สุขนิรันดร์' เป็นโรงแรมแห่งแรกที่ 'อากง' ประเสริฐ จิตรสกุล เก็บหอมรอมริบสร้างขึ้นเมื่อพ.ศ.2505 นอกจากจะโรงแรมในตำนานของจังหวัดเชียงรายที่เปิดให้บริการเป็นแห่งแรกแล้ว ยังเป็นสถานที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองและบุคคลสำคัญมาหลายทศวรรษ อากงจึงมีความรักและผูกพันกับ 'สุขนิรันดร์' ไม่น้อย
เมื่อได้รับโอกาสให้มารับหน้าที่ปรับโฉมใหม่ คุณ ส้ม-สุธาสินี จึงอยากให้มีอารมณ์เหมือนบ้านอากงที่ลูกหลานเข้ามาตกแต่งให้มีความทันสมัย
“สุขนิรันดร์เป็นโรงแรมที่อากงตั้งใจสร้าง เนื่องจากอากงมีโอกาสได้ไปดูงานในหลายๆ แห่งในกรุงเทพฯ จึงอยากนำสิ่งที่เห็นมาพัฒนาที่เชียงราย อากงเก็บเงินสะสมจากการทำธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์โตโยต้าและอื่นๆ มาสร้างเป็นโรงแรม เริ่มที่สุขนิรันดร์ก่อนแล้วตามด้วยโรงแรมเวียงอินทร์
ส้มตามอากงเดินตรวจโรงแรมมาตั้งแต่ 3 ขวบ เรียกว่าเข้าดิสโก้เธคในโรงแรมเวียงอินทร์มาตั้งแต่เด็กๆ เรียนรู้ซึมซับธุรกิจในเครือของครอบครัวที่มีรถกับโรงแรมมาโดยตลอด กลายเป็นสิ่งที่อยู่ในดีเอ็นเอของพวกเราพี่น้องอยู่แล้ว
เมื่อก่อนโชว์รูมอยู่ข้างล่าง บ้านอยู่ข้างบน เราไปเรียนโรงเรียนอินเตอร์ตั้งแต่เด็ก พอปิดเทอมกลับมาไม่มีโมเมนต์ได้วิ่งเล่นกับเด็กๆ ส้มกับน้องๆ จะตามพ่อแม่เข้าประชุม อยู่ในบรรยากาศการทำงานมาตลอด”
หลังเรียนจบ Master of Business Administration in International Hospitality and Service Industries Management with Leadership จากสวิตเซอร์แลนด์ คุณส้มฝันอยากจะมีโรงแรมสเกลเล็กๆ ที่เน้นบริการในแบบที่เธอชื่นชอบ แต่ทางครอบครัวอยากให้ลองเริ่มจากธุรกิจที่มีอยู่
'สุขนิรันดร์' จึงเป็นตัวเลือกที่ท้าทาย นอกจากจะเป็นโรงแรมสเกลใหญ่กว่าที่คิดแล้วยังห่างเหินจากการปรับปรุงโฉมมานานหลายปี
“อากงและคุณพ่อ (เรืองชัย จิตรสกุล) มีแพลนที่จะปรับปรุงโรงแรมนี้มาตลอด แต่คุยกันสรุปไม่จบสักที จนส้มมารับงาน อากงบอกว่าอยากให้ทุบทิ้งแล้วขึ้นตึกใหม่เลย ส้มไม่อยากทุบทิ้ง เพราะว่ามันมีเอกลักษณ์ มีกลิ่นไอของสุขนิรันดร์ มีรากเหง้าของครอบครัวเรา อยากเก็บความทรงจำนี้ไว้ ก็เลยตัดสินใจเก็บโครงสร้างอาคารเดิมเอาไว้ ส่วนห้องพักจากเดิมที่ร้อยกว่าห้อง เราให้เหลือเพียง 52 ห้อง เพิ่มพื้นที่ของห้องให้กว้างขึ้น”
นอกจากโครงสร้างอาคารเดิมแล้ว เฟอร์นิเจอร์เก่า ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้หวาย โคมไฟ ซึ่งมีกลิ่นไอของความเป็นวินเทจก็ได้รับการแต่งแต้มทำสีขึ้นมาใหม่
“บริเวณลอบบี้เราทำเป็นห้องอาหารติดกระจกโดยรอบสามารถมองเห็นวิวหอนาฬิกาที่ออกแบบโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ได้อย่างชัดเจน เวลาเคาท์ดาวน์ปีใหม่ผู้คนจะมากันที่นี่
ส่วนห้องพักอยากให้มีกลิ่นไอของวันวาน อารมณ์เหมือนบ้านของอากงที่หลานๆ กลับมาตกแต่งใหม่ มีความโมเดิร์นทันสมัยที่เชื่อมโยงกับเสน่ห์ของวันวาน
ในห้องพักจะมีโต๊ะกินข้าว มุมกาแฟ เพราะเราอยากให้คนที่เข้ามาพักรู้สึกเหมือนเป็นบ้านมากกว่าเป็นโรงแรม โดยเฉพาะแขกที่พักเป็นลองสเตย์”
เมื่อถามถึงตัวอักษรล้านนากับรูปนาฬิการะบุเวลาสิบโมงกว่าๆ ที่ประดับอยู่บนหัวเตียงในห้องพัก ว่ามีความหมายอย่างไร
คุณส้มอธิบายว่า เป็นความพยายามที่จะใส่ความรู้สึกของความเป็นเชียงรายผ่านตัวอักษรที่เป็นคำกลอนกล่อมเด็กของล้านนา
ส่วนเวลาสิบโมงกว่าๆ นั้น ถ้าสังเกตดีๆ จะมีเส้นเหมือนกับรอยยิ้มที่สื่อถึงเวลาแห่งความสุขขณะอยู่ที่สุขนิรันดร์
จากตำนานโรงแรมแห่งแรกของเชียงราย สู่บูทีคโฮเทลหรูบนทำเลทองกลางเมืองเชียงราย ด้านหน้าโรงแรมมีวิวหอฬิกาสีทองสุดอลังการผลของ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ด้านหลังมองเห็นบ้านดำในเมืองของ ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ
นับเป็นความสุขนิรันดร์ของผู้เข้าพักที่รักในศิลปวัฒนธรรมโดยแท้