เซฟโคมไฟยุควิคตอเรีย มรดกประวัติศาสตร์กรุงลอนดอน

เซฟโคมไฟยุควิคตอเรีย มรดกประวัติศาสตร์กรุงลอนดอน

เมื่อชาวลอนดอนลุกฮือคัดค้านแผนปลดโคมไฟโบราณอายุกว่า 200 ปีที่ให้แสงสว่างแก่ท้องถนนยามค่ำคืนมาตั้งแต่ยุควิคตอเรีย เพราะเล็งเห็นคุณค่าในเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

“ผมชอบแง่มุมทางประวัติศาสตร์ของมันครับ ถึงแม้ว่ามันจะหมายถึงการที่ผมต้องตื่นตั้งแต่ ตี 5 เพื่อมาดูแลมันก็ตาม”

              พอล ดอย ผู้ทำหน้าที่ไขลานนาฬิกาตั้งเวลาปิดเปิดโคมไฟโบราณซึ่งทำหน้าที่ให้แสงสว่างแก่กรุงลอนดอนอย่างซื่อสัตย์ บริเวณด้านนอกมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ มาเป็นเวลาร่วม 200 ปี กล่าว

โคมไฟโบราณยุควิคตอเรียที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง แถมยังต้องใช้คนมาคอยดูแลเหล่านี้เกือบจะเหลือแค่ชื่อเท่านั้น เมื่อเทศบาลเมืองเวสต์มินสเตอร์ประกาศว่ามีแผนจะนำหลอดไฟ LED ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่ามาใช้แทนโคมไฟโบราณที่ตอนนี้หลงเหลืออยู่ในสภาพที่ยังคงใช้งานได้ราว 275 ชิ้นเท่านั้น

 

แผนการดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับชาวเมือง รวมไปถึงกลุ่มคนรักประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก แถมยังถูกนำไปตั้งกระทู้ถาม ส.ส. ในรัฐสภา จนส่งผลให้เทศบาลเมืองเวสต์มินสเตอร์ต้องล้มเลิกแผนการไป

 

เซฟโคมไฟยุควิคตอเรีย มรดกประวัติศาสตร์กรุงลอนดอน

 

 

ประวัติศาสตร์ลอนดอน & ประวัติศาสตร์โลก

                โคมไฟโบราณเหล่านี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ลอนดอนเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของโลกด้วย

                ในปี ค.ศ. 1807 ลอนดอนสามารถคุยโอ่ได้ว่าเป็น “เมืองแรกของโลกที่มีโคมไฟน้ำมันติดตั้งเรียงรายบนท้องถนน” โดยวิศวกร เฟรดริก วินเซอร์ ได้ติดตั้งตะเกียงน้ำมัน 13 เสาให้แสงสว่างในย่าน Pall Mall ยามค่ำคืน เพื่อเป็นของขวัญวันเฉลิมพระชนมพรรษาแด่ สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร

                แล้วในช่วง 20-30 ปีต่อมา โคมไฟถนนที่ใช้น้ำมันเหล่านี้ก็เพิ่มจำนวนเป็นหลายพันดวงทั่วประเทศ แถมยังลามไปถึงพื้นที่ส่วนอื่นของยุโรป และอเมริกาเหนือ

 

เซฟโคมไฟยุควิคตอเรีย มรดกประวัติศาสตร์กรุงลอนดอน

 

                กรุงลอนดอนติดตั้งโคมไฟบนถนนจำนวน 1,000 กว่าอันในช่วงต้นศตวรรษ 19 หรือในยุควิคตอเรียที่การปฏิวัติอุตสาหกรรมรุ่งเรืองถึงขีดสุด โคมไฟเหล่านี้ถือเป็นนวัตกรรมสำคัญเพราะท้องถนนกรุงลอนดอนในยุคนั้นทั้งมืด สกปรก และอันตราย แบบที่คนชอบดูหนังย้อนยุคสมัยวิคตอเรีย หรืออ่านนิยายของ ชาร์ลส ดิกเคนส์, แมรี ปอปปินส์ และนิยายสืบสวนสอบสวนของเชอร์ล็อค โฮล์มส จะคุ้นเคยกันดี

                ปัจจุบันพื้นที่แถบเซ็นทรัลลอนดอนยังมีโคมไฟจากยุควิคตอเรียเหล่านี้หลงเหลืออยู่ในย่าน The Mall ที่นำไปสู่พระราชวังบักกิงแฮม ถนนด้านหลังสวน Covent Garden และรอบ ๆ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์

 

เซฟโคมไฟยุควิคตอเรีย มรดกประวัติศาสตร์กรุงลอนดอน

credit : @LondonGasketeer

 

เก่า-ใหม่ ต่างมีข้อดีของกันและกัน

                ผู้ที่ต้องการให้อนุรักษ์โคมไฟเหล่านี้เอาไว้ให้เหตุผลว่าพวกมันเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ของกรุงลอนดอนที่มีค่าคู่ควรแก่การเก็บรักษา แถมแสงที่ได้จากโคมไฟเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยงาม แต่ยังนุ่มนวลเป็นธรรมชาติในแบบที่หลอดไฟ LED ให้ไม่ได้

                แต่ในฝั่งที่ต้องการให้เปลี่ยนก็มีเหตุผลเรื่องสิ่งแวดล้อม เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และปรับปรุงความปลอดภัยของประชาชนให้ดีขึ้น

                พอล ไดโมลเดนเบิร์ก สมาชิกคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหารจัดการตัวเมืองและคุณภาพอากาศ กล่าวว่า โคมไฟเหล่านี้ดูแลรักษาและซ่อมแซมยากขึ้นทุกที

                “เวลาโคมไฟที่ใช้น้ำมันบนถนนแตก ถนนแถวนั้นจะตกอยู่ในความมืดเป็นเวลานาน ซึ่งมันไม่ปลอดภัยสำหรับคนเดินถนนหรือใครก็ตามที่ต้องใช้ถนนในความมืด” ไดโมลเดนเบิร์ก กล่าว แต่ถึงกระนั้นเขาก็เข้าใจแคมเปญยกเลิกการถอดถอนโคมไฟโบราณทิ้ง และบอกว่าทางคณะรัฐมนตรีรับรู้ถึงประเด็นเรื่องมรดกของชาติแล้ว

 

เซฟโคมไฟยุควิคตอเรีย มรดกประวัติศาสตร์กรุงลอนดอน โคมไฟดั้งเดิมที่ยังหลงเหลืออยู่ในย่าน Covent Garden

 

“พวกเรารักลอนดอน”

แผนการถอดถอนตะเกียงน้ำมันยุควิคตอเรียส่งผลให้เกิดการก่อตั้งกลุ่ม The London Gasketeers ขึ้นเมื่อต้นปี 2565 เพื่อคัดค้านแผนการดังกล่าว (สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มได้ทางทวิตเตอร์บัญชี @LondonGasketeer)

 

เซฟโคมไฟยุควิคตอเรีย มรดกประวัติศาสตร์กรุงลอนดอน

                ลุค ฮันนีย์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง The London Gasketeers บอกว่าเขาเกิดในกรุงลอนดอนจึงใส่ใจประวัติศาสตร์ของเมืองอย่างลึกซึ้ง เขาเสียใจมากที่เทศบาลตัดสินใจทำในสิ่งที่เป็นการ “รื้อถอนสิ่งที่เป็นเสน่ห์และมรดกที่สำคัญมาก” ของกรุงลอนดอนออกไปโดยแทบจะไม่มีการปรึกษาชาวเมืองเลย

                จุดเริ่มต้นของการเข้ามาก่อตั้งกลุ่มนี้ของลุคเกิดขึ้นเมื่อประมาณหนึ่งปีก่อน

                “เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ผมกำลังซื้อของช่วงคริสต์มาสอยู่กับภรรยา พวกเรานั่งอยู่ด้านบนรถบัสสองชั้นที่วิ่งผ่านสวน Covent Garden ซึ่งเป็นจุดที่มีตะเกียงโบราณอยู่หนาแน่น ภรรยาถามว่าพวกมันยังใช้น้ำมันอยู่รึเปล่า ผมเลยค้นข้อมูลในกูเกิลเพื่อบอกเธอ แต่ผมกลับต้องตกใจที่พบว่าเทศบาลมีแผนที่จะรื้อถอนพวกมันออกไป”

                พอรู้ดังนั้น ฮันนีย์เลยติดต่อไปหา ทิม ไบรอาร์ส ทันที โดยทิมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหนังสือหายากที่ทำการต่อสู้เพื่อรักษาเครื่องเรือนยุควิคตอเรียในเวสต์มินสเตอร์เอาไว้ แล้วทั้งคู่ก็ก่อตั้งกลุ่ม The London Gasketeers ขึ้นบนโซเชียลมีเดียเมื่อต้นปี 2565

                “เราได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลาม คนขับแท็กซี่ สหภาพการค้า คนทั้งฝ่ายซ้ายฝ้ายขวา กลุ่ม Brexit (กลุ่มสนับสนุนให้ถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป) และกลุ่มที่สนับสนุนให้ยังอยู่กับอียู ก็สนับสนุนเรา เรียกว่าผู้คนจากทุกสาขาอาชีพเข้าร่วมกับเราหมดเลยครับ” ฮันนีย์กล่าว “เรารักลอนดอน เราใส่ใจเรื่องนี้ เราจะไม่ยอมให้นำมันออกไป”

                                                            

เซฟโคมไฟยุควิคตอเรีย มรดกประวัติศาสตร์กรุงลอนดอน credit : @LondonGasketeer

 

สำหรับเหตุผลที่ทางการต้องการนำโคมไฟน้ำมันออกไปนั้น ฮันนีย์มีข้อแก้ต่างเช่นกัน เขาบอกว่าทางกลุ่มได้ทำการคำนวณโดยอ้างอิงจากตัวเลขของเทศบาลแล้วพบว่าตะเกียงน้ำมันปล่อยก๊าซคาร์บอนเพียง 0.0088 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณการปล่อยก๊าซทั้งหมดในเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งถือว่าน้อยมาก

 

ประเด็นเรื่องอะไหล่หายากนั้น พวกเขาลงทุนเดินทางไปยังบริษัท Lamplighters Lock Up แล้วพบว่ามีอะไหล่สำรองเก็บเอาไว้สูงถึงเพดานด้วยซ้ำ

 

เซฟโคมไฟยุควิคตอเรีย มรดกประวัติศาสตร์กรุงลอนดอน

เซฟโคมไฟยุควิคตอเรีย มรดกประวัติศาสตร์กรุงลอนดอน

ภาพจากทวิตกลุ่ม The London Gasketeers ตอนที่พวกเขาไปตรวจสอบโกดังของ British Gas Lamplighters ใน Battersea แล้วพบว่ามีอะไหล่สำรองอยู่ในปริมาณที่เยอะมาก

 

ส่วนในเรื่องของความปลอดภัย ฮันนีย์กล่าวว่าถ้าโคมไฟน้ำมันให้ความสว่างไม่เพียงพอ ทำไมเทศบาลไม่นำโคมไฟฟ้ามาติดตั้งตามผนังเพื่อให้แสงสว่างเพิ่มเติม แล้วเก็บรักษาสิ่งที่เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญของประเทศเอาไว้

                “ตะเกียงน้ำมันให้แสงที่นุ่มนวลและสวยงาม มันถูกประดิษฐ์ขึ้นด้วยแนวคิดที่จะเลียนแบบแสงอาทิตย์ ดังนั้น มันจึงมีความเป็นธรรมชาติมาก เป็นสิ่งอัศจรรย์ที่ดีต่อทั้งผีเสื้อกลางคืน ค้างคาว และท้องฟ้ามืดๆ ด้วย”

 

หมายเหตุ : ข้อมูลอ้างอิงจากสำนักข่าวเอเอฟพี, นสพ. The Evening Standard

 

เซฟโคมไฟยุควิคตอเรีย มรดกประวัติศาสตร์กรุงลอนดอน

เซฟโคมไฟยุควิคตอเรีย มรดกประวัติศาสตร์กรุงลอนดอน

เซฟโคมไฟยุควิคตอเรีย มรดกประวัติศาสตร์กรุงลอนดอน