ทายาทรุ่น 4“เซ่งชง”เครื่องหนังอายุ 126 ปี สมัยรัชกาลที่ 6

ทายาทรุ่น 4“เซ่งชง”เครื่องหนังอายุ 126 ปี สมัยรัชกาลที่ 6

"เซ่งชง"ร้านเครื่องหนังร่วมสมัยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 จนถึงวันนี้ก็อายุ 126 ปี เป็นร้านตัดรองเท้ายุคแรกๆ ที่คนไทยเริ่มสวมรองเท้า และทุกวันนี้ยังตัดรองเท้าขี่ม้า และนี่คือเรื่องเล่าสั้นๆ ที่ชวนให้รู้จักร้านเก่าและเก๋า

ถ้าพูดถึงเครื่องหนังอายุ 126 ปี ต้องย้อนเวลากลับไปสมัยรัชกาลที่ 5-6 สยามประเทศเพิ่งเปิดรับอารยธรรมตะวันตกมาหมาดๆ ในยุคสมัยที่คนไทยเริ่มสวมรองเท้า แต่ยังไม่ค่อยมีร้านรองเท้า จึงต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

เป็นช่วงจังหวะที่ เซ่งชง ชาวจีนจากกวางตุ้งมาตั้งรกรากในกรุงรัตนโกสินทร์ นำความรู้เรื่องการทำรองเท้าที่ติดตัวมา เปิดร้านเครื่องหนังในพระนครเมื่อปี 2439 

เซ่งชง จึงเป็นร้านเครื่องหนัง รองเท้า เข็มขัด และกระเป๋า ยุคแรกๆของเมืองไทยที่สืบทอดจนถึงปัจจุบัน เพราะขึ้นชื่อเรื่องวัสดุที่มีคุณภาพทนทาน และมีตำนานอันยาวไกล เป็นร้านเครื่องหนักยุคแรกที่ตัดรองเท้าราคาถูกกว่าต่างประเทศ

นอกจากนี้เซ่งชง ยังทำงานเครื่องหนังถวายราชสำนักอย่างต่อเนื่อง เคยได้รับโอกาสตัดฉลองพระบาทถวายรัชกาลที่ 6 และทำงานถวายราชสำนัก กองเสือป่า รวมถึงเครื่องหนังประกอบทหารม้า กองทัพบก โดยเถ้าแก่ซ่งชงไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ 

จนได้รับความเมตตาพระราชทานราชทินนามจากรัชกาลที่ 6 เป็นหลวงประดิษฐบาทุกา ต้นตระกูล“ประดิษฐ์บาทุกา”สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

ทายาทรุ่น 4“เซ่งชง”เครื่องหนังอายุ 126 ปี สมัยรัชกาลที่ 6 ชยาศิลและอาจฤทธิ์ ประดิษฐ์บาทุกา สองพี่น้อง ทายาทรุ่น 4 เซ่งชง

ทายาทรุ่น 4“เซ่งชง”เครื่องหนังอายุ 126 ปี สมัยรัชกาลที่ 6 รองเท้าขี่ม้า ทำมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 

“คนจีนแคระเก่งเรื่องงานฝีมือ ตัดรองเท้าเสื้อผ้าจะทำได้ดี เราเป็นคนจีนที่ทำรองเท้าขี่ม้า เข็มขัด อุปกรณ์ขี่ม้ามานาน ในอดีตนำเข้าจากอิตาลีและเยอรมัน แต่เราสั่งหนังวัว ควาย แกะมาทำเอง ถ้าถามว่า รองเท้าขี่ม้าคู่หนึ่งใช้เวลาทำนานแค่ไหน...น่าจะประมาณ  1 เดือน ราคาที่ขายส่วนใหญ่ต้องสมเหตุสมผล ราคาประมาณ 4,500 บาท ” ชยาศิล ทายาทรุ่น 4 เล่า

เซ่งชง จึงไม่ใช่ร้านเครื่องหนัง รองเท้า ที่เหมือนร้านทั่วไป แต่มีตำนานสืบทอดตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จากรุ่นคุณทวดจนถึงทายาทรุ่น4 และเป็นร้านที่คนรุ่นเก่าไว้เนื้อเชื่อใจ ใช้บริการมาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันชยาศิลและอาจฤทธิ์ ประดิษฐ์บาทุกา สองพี่น้อง ทายาทรุ่น 4 รับช่วงบริหารร้านนี้ตั้งแต่ปี 2548 บนถนนนครสวรรค์ กรุงเทพฯ 

“เมื่อก่อนอุปกรณ์ขี่ม้าต้องนำเข้าจากต่างประเทศ กระทั่งมีคนมาให้คุณทวดลองทำ ก็ทำขายตัั้งแต่ตอนนั้น และผมกำลังทำเรื่องพัฒนาคุณภาพและอาจจะรีแบรนด์ เรื่องมาตรฐานและคุณภาพ จะเลืือกวัสดุทนทาน การตั้งราคาต้องไม่แพงเกินไป แต่ก็ไม่ถูก ตอนนี้ทำอะไรก็ต้องเรียนรู้จริงๆ ถ้าไม่ละเอียดไม่เข้าใจก็จะมีผลต่อคุณภาพ” อาจฤทธิ์ เล่าไว้อย่างน่าสนใจ

ทายาทรุ่น 4“เซ่งชง”เครื่องหนังอายุ 126 ปี สมัยรัชกาลที่ 6 อุปกรณ์ซ่อมแซม เจาะรูเข็มขัดและเครื่องหนังในร้านเซ่งชง ถนนนครสวรรค์

่ว่ากันว่า เซ่งชง เริ่มจากเช่าตึกแถวจากเพื่อนชาวจีนบริเวณถนนเจริญกรุง เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายรองเท้า และด้วยจากสภาพบ้านเมืองในยุคนั้นที่ยังไม่มีร้านรองเท้า ทำให้ร้านเซ่งชงกลายเป็นร้านเครื่องหนักยุคแรกๆ ที่ทำจากหนังแท้ 

เมื่อแวะเวียนเข้าไปในร้าน ชยาศิล นำรองเท้าขี่ม้ามาโชว์ให้ดู ก็ได้เห็นว่า ไม่ง่ายเลยที่จะตัดรองเท้าที่ยาวเกือบถึงเข่า เขาบอกว่า การทำรองเท้าขี่ม้า ต้องทำให้เล็กเรียวแนบไปกับช่วงขา เพราะการขี่ม้าเป็นกีฬาที่ต้องกระฉับกระเฉง 

และไม่ต้องสงสัยเลยว่า รองเท้าขี่ม้าแบบที่พวกเขาตัดอย่างพิถีพิถันในสมัยรัชกาลที่ 6 คนที่ใช้บริการ คงต้องเป็นชนชั้นสูง (ศัพท์ในสมัยนั้น)ที่ซื้อหาและใช้บริการได้

และนี่คือเรื่องราวที่ซ่อนไว้ด้วยคุณค่าบางอย่างที่สืบทอดมาจนถึงยุคปัจจุบัน ภายใต้บรรยากาศกลิ่นเครื่องหนังที่มีความร่วมสมัยและการเดินทางมายาวนานที่เต็มไปด้วยความใส่ใจในรายละเอียด

....................      

-กิจกรรมและภาพถ่ายจาก KTC Press club  ตอนThe Secret of พระนคร ตอน“เริงพระนครตะลอนสยามอารยะ” 

-เซ่งชง 2439 ถนนครสวรรค์ แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เฟซบุ๊ค : เซ่งชง เครื่องหนัง

ทายาทรุ่น 4“เซ่งชง”เครื่องหนังอายุ 126 ปี สมัยรัชกาลที่ 6 อานม้าในร้าน ทำมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6

ทายาทรุ่น 4“เซ่งชง”เครื่องหนังอายุ 126 ปี สมัยรัชกาลที่ 6 (เข็มขัดร้านนี้ขึ้นชื่อว่าทนทานมาก )