ฐาปน สิริวัฒนภักดี มากกว่าศิลปะที่ซ่อนอยู่ใน Bangkok Art Biennale

ฐาปน สิริวัฒนภักดี เล่าความเป็นมาการจัดงาน บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ (Bangkok Art Biennale) งานเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติในกรุงเทพฯ ปี 2022 เวียนมาเป็นครั้งที่ 3 ปีนี้จัดภายใต้คอนเซปต์ CHAOS : CALM โกลาหล : สงบสุข
บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ (Bangkok Art Biennale หรือ BAB) เป็นเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติในเมืองหลวงของประเทศไทย จัดขึ้นเป็นประจำทุกสองปี ซึ่งเดือนตุลาคมปี 2565 นี้ จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ในชื่อ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2022 งานใหญ่ที่คนชอบงานศิลปะ งานดีไซน์ งานแสดงแนวคิด ปักหมุดรอชม
โดยในปีนี้ งานเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Bangkok Art Biennale 2022 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด CHAOS : CALM โกลาหล : สงบสุข จัดเต็มผลงานศิลปะจาก 73 ศิลปิน 35 สัญชาติ ในเดือนตุลาคมนี้
ฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งมูลนิธิ Bangkok Art Biennale ผู้ริเริ่มจัดงาน “บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่” เปิดใจในงานแถลงข่าวการจัดงาน บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2022 เมื่อวันอังคารที่ 13 กันยายน 2565 ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ว่า จริงๆ แล้วเขาไม่ค่อยมีความรู้เรื่องศิลปะมากนัก
แต่จากการมีโอกาสพูดคุยกับคนในแวดวงศิลปะ อาทิ ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์, คุณนิติกร กรัยวิเชียร, คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ทำให้เกิดแรงบันดาลใจอยากสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับวงการศิลปะของประเทศ อยากเชื่อมโยงผลงานศิลปินไทยไปสู่สายตาชาวโลก และมองว่าศิลปะสามารถสร้างคุณค่าเชื่อมโยงไปสู่คนไทยได้อีกหลายภาคส่วน จึงได้เริ่มจัดงาน บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ครั้งแรกเมื่อปี 2018
“ในการจัดงานก็ต้องมีความต่อเนื่อง ถ้าไม่ต่อเนื่อง ก็เหมือนทำเสร็จแล้วก็หายไป" ฐาปน กล่าว
ด้วยความเป็น “เบียนนาเล่” เท่ากับการจัดงานทุกๆ สองปีที่จะเวียนมาหนึ่งครั้ง เมื่อตั้งหลักที่ปี 2018 จึงต่อด้วยปี 2020 และปีนี้ 2022
“ปี 2020 ก็มีความท้าทาย เพราะอยู่ในช่วงปีโควิด แต่เราก็ผลักดันอยากมีโอกาสสร้างสรรค์งานศิลปะให้เป็นที่รับรู้ผ่านโซเชียลแพลตฟอร์ม เราอยากรู้ ท้ายที่สุดการจัดงานเทศกาลศิลปะบางกอกอาร์ตเบียนนาเล่จะขยายผลไปสู่มิติอื่นๆ อย่างไรบ้าง เรามอง มุ่งเน้น และหวังที่จะเชื่อมโยงสู่สากลด้วยการต้อนรับศิลปินนานาชาติ”
คุณฐาปน กล่าวด้วยว่า ในเรื่องการใช้ ความคิดสร้างสรรค์ และ มุมมองของยุคสมัย เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องๆ ศิลปินรุ่นใหม่ที่ก้าวเข้ามาในวงการ และศิลปินอาวุโสที่มีประสบการณ์ยาวนานและมีเอกลักษณ์ในรูปแบบที่สร้างสรรค์ในเรื่องงานศิลปะ เราต้องถามหาว่า จะมีโอกาสในการตอบสนองชีวิตคนรุ่นใหม่อย่างไร ด้วยการใช้ ต้นทุนด้านวัฒนธรรม และ สร้างสรรค์คุณค่าจากงานศิลปะ
ที่สำคัญ เราพอจะมีโอกาสเสริมสร้าง ศักยภาพให้เศรษฐกิจประเทศไทย ของเราได้มากน้อยอย่างไร
กรุงเทพมหานคร ต้องถือว่าเป็นจุดศูนย์กลาง เป็นศูนย์รวม ในการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจ ในการสร้างการรับรู้ให้อยู่ในสายตาชาวโลก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง หรือการเชื่อมโยงมิติต่างๆ
“ถ้าเรามองว่า การพัฒนา..เริ่มจากที่ตัวคน แสดงว่าเรามองงานอาร์ตเป็นเรื่อง ซอฟต์เพาเวอร์ เราถามหาเรื่อง art and culture เรากำลังถามว่าสามารถที่จะมองในรูปแบบของเศรษฐกิจสร้างสรรค์”
คำถามที่ว่า cultural values (คุณค่าทางวัฒนธรรม) และ artistic values (คุณค่าทางศิลปะ) จะมีโอกาสแปรกลับเข้ามาเป็น economic value (มูลค่าทางเศรษฐกิจ) ได้อย่างไร
ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ Bangkok Art Biennale ตอบคำถามโดยยกตัวอย่าง รำไทย โดยกล่าวว่า "ถ้าเรามองให้เกิดความสวยงามและสร้างความน่าสนใจในมิติ artistic values เป็นไปได้หรือไม่ พอมองใกล้ขึ้นคงจะเห็นในเรื่องของความสวยงาม ความพิเศษ ความมีเอกลักษณ์
แต่ตอนที่เราดำเนินงาน BAB เราก็อยากหยิบยกว่าในโลกนี้มีเรื่องราวที่เขาได้พัฒนาการจาก ต้นทุนด้านวัฒนธรรม เรามีสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นที่หลายท่านคุ้นเคย เช่น พลีตส์ พลีส (Pleats Please) ของ อิซเซ่ มิยาเกะ เขาได้แรงบันดาลใจจากการพับกระดาษโอริกามิ ออกมาเป็นผ้าเป็นพลีต ผืนผ้าสำหรับนุ่งห่ม มูลค่าด้านเศรษฐกิจของผ้ารูปแบบพลีตสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้หลายหมื่นล้าน
ถ้าผมยกตัวอย่างที่สอง จิตรกรรมฝาผนัง ถ้าเรามองแบรนด์ในเมืองไทย จิม ทอมป์สัน ก็หยิบยกรูปแบบจิตรกรรมฝาผนังมาทำในรูปแบบโพรดักต์ดีไซน์และแพ็คเกจจิ้งต่างๆ นานา
cultural values ใน ชุดโนรา คงยากที่จะร้อยลูกปัดเสร็จแล้วนำมาจำหน่าย เพราะไม่คงสามารถใช้ในชีวิตประจำวัน แต่เวลาเรามองความสวยงามที่ใกล้เข้ามามากขึ้นในเชิง artistic values (คุณค่าทางศิลปะ) มีโอกาสสร้างสรรค์ออกมาเป็นสินค้าหลากหลาย เช่น โคมไฟ สร้อยข้อมือ เป็นการร้อยและเรียบเรียงในรูปแบบชุดโนรา"
Bangkok Art Biennale คืออีกหนึ่งงานสร้างสรรค์ที่จะค่อยๆ เชื่อมโยง 3 คุณค่านั้นเข้าด้วยกัน
* * * * * *
credit photo : เฟซบุ๊ก Bangkok Art Biennale