“นกบินชนกระจก” เมื่อนกตกเพราะหน้าต่าง กับ 5 ทางรอดของ “นก” หลายล้านตัว

“นกบินชนกระจก” เมื่อนกตกเพราะหน้าต่าง กับ 5 ทางรอดของ “นก” หลายล้านตัว

ปัญหา “นกบินชนกระจก” (Bird Window Collisions) เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นกทั่วโลกต้องตายไปเป็นจำนวนมากมายในแต่ละปี รวมไปถึงประเทศไทยเราด้วย

เมืองไทยเรา อาจจะยังไม่ทราบถึงปัญหา นกบินชนกระจก (Bird Window Collisions) กันมากนัก ยังรับรู้ถึงอันตรายของปัญหานี้ในกลุ่มนักดูนกและผู้สนใจเท่านั้น แต่ในต่างประเทศแล้ว ถือเป็นปัญหาใหญ่และสำคัญมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในยุโรปและอเมริกาเหนือ เช่น สหรัฐและแคนาดา  ถึงกับประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติกันเลยทีเดียวเมื่อหลายปีก่อน

ในฤดูนกอพยพ ถึงมีการจัดโครงการรณรงค์ปิดไฟตามอาคารสูงในหัวเมืองใหญ่ๆ แล้วก็มีเว็บไซต์ให้ข้อมูลเรื่อง นกชนกระจก และมีการคิดค้นอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ เช่น ใช้กระจกที่มีลวดลายซึ่งนกมองเห็นได้ง่าย เป็นความพยายามเพื่อช่วยชีวิตนกอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม

ทำไมจึงบอกว่า “นกบินชนกระจก” เป็นปัญหาใหญ่ที่หลายๆ ประเทศประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ ลองมาดูตัวเลขความสูญเสียของ “นกชนกระจก” ตามอาคารสูงๆ และกระจกตามบ้านเรือนกัน มีข้อมูลจากวิทยาลัยมูเลนเบิร์ก ในเพนซิลวาเนีย ของสหรัฐ ระบุว่า ในสหรัฐแต่ละปี นกถึง 975.6 ล้านตัว ต้องมาตายด้วยสาเหตุนี้ ส่วนเว็บไซต์เอบีซีเบิร์ดส์ (https://abcbirds.org) ให้ข้อมูลว่า แต่ละปีมีนกตายหลังจากบินชนกระจกประมาณ 1 พันล้านตัว ในจำนวนนี้เกือบ 50 เปอร์เซ็นต์เป็นกระจกที่ติดตามบ้าน

มีการศึกษาวิจัยปัญหานี้มานานนับทศวรรษ จนได้ข้อสรุปว่า "บรรดานกไม่รู้ว่ากระจกเป็นอุปสรรคขัดขวางการบิน" พูดง่ายๆ คือ กระจกใสจนนกมองไม่เห็นนั่นเอง

ในประเทศไทย ก็มีรายงาน "นกบินชนกระจก" จนตายหรือบาดเจ็บออกบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างฤดูนกอพยพ ราวช่วงเดือนกันยายน-มีนาคมของทุกปี ทว่ายังไม่มีการรวบรวมสถิติกันเอาไว้อย่างเป็นทางการ

หลายคนคงเกิดคำถามในใจว่า “ทำไมนกถึงบินชนกระจก ?"

เพราะว่ากระจกบ้าน กระจกหน้าต่างอาคาร ทำให้เกิดภาพลวงตาได้หลายแบบ

ในช่วงกลางวัน กระจกใสตามตึกสูงๆ โดยเฉพาะที่อีกฟากเป็นกระจกเหมือนกัน จะเกิด See-through Effect นกเห็นเป็นช่องเปิดโล่งให้บินได้ เลยจะบินทะลุบ้าน ทะลุห้อง ขณะที่ในช่วงกลางคืน โดยเฉพาะตึกสูงๆ ระฟ้าที่เปิดไฟสว่างๆ จะเป็นปัญหากับนกอพยพ เพราะห้องที่เปิดไฟจะสว่างโล่ง นกมองไม่เห็นกระจก นกก็บินเข้าไป กะว่าคงจะบินทะลุตึกเช่นกัน

ขนาดคนยังเดินชนกระจกใสๆ ได้ และคนชนกระจกด้วยอัตราความเร็วตามปกติยังรู้สึกมึนหัว บางทีได้แผลเลือดออกเหมือนกัน ลองนึกภาพดูว่า นกบินมาด้วยความเร็วสูงแล้วพุ่งชนกระจก จะเกิดอะไรขึ้น ผลที่ตามมาคือ นกอาจบาดเจ็บ, ช็อค, หมดสติ และถึงขั้นตายก็มี

หลายๆ ครั้ง เราเห็นนกที่พุ่งชนกระจกตกลงสู่พื้น จนนอนนิ่งไป สักพักก็บินต่อไปได้ แต่ก็มีข้อมูลว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของ “นกชนกระจก” แล้วบินต่อไปได้ จะตายในเวลาต่อมา เพราะสมองได้รับการกระทบกระเทือน

ปัญหา “นกบินชนกระจก” จึงเป็นกับดักมรณะของนกอย่างแท้จริง

สำหรับวิธีหยุด "นกตายและบาดเจ็บ" เพราะบินชนกระจก  ตามตึกสูงระฟ้าและอาคารบ้านเรือนนั้น เว็บไซต์ BBC Earth สรุปได้ 5 วิธี ดังนี้

1. ลดจำนวนกระจกใสเมื่อมีการสร้างตึกใหม่

2. ทำเครื่องหมายหรือมาร์คกิ้งลงบนกระจก ให้นกมองเห็นได้ง่าย

3. ปรับแก้แสงกระจก เพื่อไม่ให้เกิดเงาสะท้อน

4. ติดบานเกล็ด หรือที่กันแสงแดด  เพื่อบังกระจกใส

5. ปิดไฟบนตึกยามค่ำคืน ป้องกันนกบินเข้าหาแสงไฟ

สำหรับเจ้าของตึกสูงระฟ้าทั้งหลาย หากริเริ่มนำร่องแก้ปัญหา "นกชนกระจก” อาจเป็นไปได้ว่าจะได้ใจลูกค้าในเรื่อง Brand awareness อีกทางหนึ่ง

ส่วนตามบ้านเรือนที่ติดกระจกใสบานใหญ่ ก็ช่วยสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่เรียกว่า “นก” ได้หลายทาง เช่น ติดสติ๊กเกอร์เป็นหรือลวดลายต่างๆ หรืออย่างฮาร์ดคอร์หน่อยก็ติดสติ๊กเกอร์รูปนกล่าเหยื่อเช่นเหยี่ยวหรืออินทรีก็ได้       

ในบางประเทศที่ผู้คนดูแลเอาใจใส่ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะมีเทปกาวสีทึบๆ ที่เรียกว่า BirdTape ขาย ใช้ติดเป็นเส้นยาวๆ ตามกระจก หรือใช้วิธีแบบสเปรย์ฉีด (UV Liquid) เพื่อลดการสะท้อนของแสงกระจก ทำให้นกมองเห็นกระจก เลี่ยงการบินเข้าชน

วิธีการเหล่านี้ นำไปประยุกต์ใช้ได้ทันที และอาจจะมีวิธีการอื่นๆ และใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมได้ตลอด เพราะการศึกษาหาทางช่วยชีวิตเพื่อนร่วมโลกอย่างนกและสัตว์ป่าอื่นๆ นั้น ไม่เคยหยุดยั้งลงในสังคมที่ใส่ใจต่อสิ่งมีชีวิตรอบๆ ตัว