“หมู่เกาะสุรินทร์” ไปกี่ครั้งก็ยังฟิน ไปกี่ทีก็ยังสวย

“หมู่เกาะสุรินทร์” ไปกี่ครั้งก็ยังฟิน ไปกี่ทีก็ยังสวย

ทางอันดามันเหนือนั้น นอกจากหมู่เกาะสิมิลันแล้วยังมี "หมู่เกาะสุรินทร์" อีกแห่งนึ่งที่มีความสวยงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ดังนั้นคราวนี้ เราจะไปเยือนหมู่เกาะสุรินทร์กันบ้าง

แต่เดิมนั้น หมู่เกาะสิมิลัน นั้น นอกจากความสวยงามที่อยู่เหนือผิวน้ำแล้ว ก็จะมีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นแหล่งดำน้ำลึก สมัยที่ผู้เขียนยังร่างกายสมบูรณ์ยังดำน้ำลึกได้ ก็เคยไปดำน้ำที่สิมิลันมา 2-3 ครั้ง และยอมรับว่าโลกใต้น้ำที่สิมิลันนั้นสวยงามสมคำร่ำลือ แต่สิมิลันไม่ใช่แหล่งดำน้ำตื้นที่ดีนักมีแหล่งดำน้ำตื้นเพียงไม่กี่จุด เช่น ที่หน้าเกาะหนึ่ง หรือที่เกาะ 9 เท่านั้น แต่แหล่งดำน้ำตื้นที่ขึ้นชื่อกลับมาอยู่ที่หมู่เกาะสุรินทร์ ซึ่งมีแหล่งดำน้ำตื้นหลายแห่ง และแต่ละแห่งก็ไม่ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด

การเดินทางไป "หมู่เกาะสุรินทร์" นั้นก็คล้ายกับที่ไปหมู่เกาะสิมิลัน คือจะมีเรือไปแบบ one day tour โดยเรือจะออกที่ท่าเรือคุระบุรี จ.พังงา (ติดกับ อ.สุขสำราญของ จ.ระนอง) ค่าเรือไป-กลับ พร้อมนำเที่ยว อาหารกลางวัน เครื่องดื่มบนเรือ ค่าธรรมเนียมต่างๆ อยู่ที่คนละ 1,700 บาท จะจองตั๋วเรือไปก่อน หรือจะ walk in ก็แล้วแต่สะดวก แต่ในช่วงเทศกาลต่างๆ ผมแนะให้จองไปก่อน ที่รู้มา จะมีอยู่ 2 บริษัท ที่ออกจากท่าเรือคุระบุรี คือของซาบีนา (สำนักงานอยู่ตรงข้ามกับที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์เลย แล้วเราสามารถเอารถไปจอดในอุทยานฯได้) กับอีกที่คือกรีนวิวส์ และเหมือนว่าจะมีเรือมาจากท่าเรือทับละมุด้วย อย่างเลิฟอันดามันกับซีสตาร์ ก็เลือกเอาตามใจชอบแล้วกัน เรือจะออกจากท่าราว 9 โมงเช้า ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงก็ถึงเกาะ (ถ้ามาจากท่าเรือคุระบุรี แต่ถ้าออกจากท่าเรือทับละมุก็จะเกือบๆ 2 ชม.)

“หมู่เกาะสุรินทร์” ไปกี่ครั้งก็ยังฟิน ไปกี่ทีก็ยังสวย

"หมู่เกาะสุรินทร์" นั้นจะประกอบด้วยเกาะสุรินทร์เหนือและเกาะสุรินทร์ใต้ แต่ส่วนใหญ่แหล่งท่องเที่ยวในแบบ one day tour จะอยู่ที่เกาะสุรินทร์เหนือ เช่น แหล่งดำน้ำตื้นที่อ่าวบอน อ่าวแม่ยาย และอ่าวด้านหน้าอ่าวช่องขาด หลักๆ ก็จะราวๆ นี้ และจะไปทานข้าวเที่ยงที่ที่ทำการอุทยานฯบนเกาะสุรินทร์เหนือบริเวณอ่าวช่องขาด

อุทยานฯหมู่เกาะสุรินทร์นั้น นักท่องเที่ยวสามารถพักแรมบนเกาะได้ ถ้าพักที่อ่าวช่องขาด จะเป็นบ้านพัก จองได้ที่กรมอุทยานฯ และอีกที่หนึ่ง จะอยู่ที่อ่าวไม้งาม ซึ่งมีทั้งเต็นท์ของทางอุทยานฯ เต็นท์ของบริษัทเรือทัวร์ที่เขาทำแพ็คเกจนอนบนเกาะ 1 คืน (สอบถามจากบริษัทที่ซื้อตั๋วเรือ) และบริเวณที่นักท่องเที่ยวสามารถนำเต็นท์ส่วนตัวมากางนอนได้

“หมู่เกาะสุรินทร์” ไปกี่ครั้งก็ยังฟิน ไปกี่ทีก็ยังสวย

นักท่องเที่ยวที่จะไม่พักแรม พอขึ้นบนเกาะสุรินทร์เหนือ บริเวณช่องขาด พอทานข้าวแล้วก็เดินเล่น จะมีชายหาดที่สวย น้ำใส ไม่แพ้ที่ใดๆ แล้วพอบ่าย 3 เขาก็จะพากลับฝั่ง บางบริษัทอาจพาแวะบ้านมอแกนที่อยู่เกาะสุรินทร์ใต้ด้วย

สำหรับคนที่จะพักแรม ท่านก็นำสัมภาระลงเรือมาตั้งแต่เช้าเลย แล้วมาขึ้นเกาะที่อ่าวช่องขาด บอกเรือที่ท่านซื้อตั๋วมาว่าจะกลับวันไหนแค่นั้นเอง หลังจากนั้น ท่านก็ไปแจ้งที่เคาน์เตอร์อุทยานฯว่าจะไปพักแรมที่อ่าวไม้งาม เขาจะมีเรือหางยาวรับจ้างพาไป (เหมือนค่าเรือคนละ 200 บาท) ไปถึงอ่าวไม้งามก็หาที่กางเต็นท์ตามใจชอบ จะพักกี่วันก็ไม่มีใครว่า

“หมู่เกาะสุรินทร์” ไปกี่ครั้งก็ยังฟิน ไปกี่ทีก็ยังสวย

ที่อ่าวไม้งามนี้จะมีร้านค้าสวัสดิการ สั่งอาหาร เครื่องดื่มได้ (ราคาก็อาจจะแพงกว่าบนฝั่งหน่อย) หรือท่านจะเอาอาหารไปทำเอง เขาก็มีสถานที่ประกอบอาหารไว้ให้ด้วย น้ำร้อนมีบริการฟรีที่ร้านสวัสดิการ

พอท่านไปพักแรมแล้ว อยากจะไปเที่ยวยังที่ต่างๆ ก็จะมีเรือหางยาวพาเที่ยว จะไปอ่าวสุเทพ อ่าวบอน อ่าวไทรเอน โดยติดต่อที่เคาน์เตอร์ของอุทยานฯ นอกจากนั้นยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเดินจากอ่าวช่องขาด ไปอ่าวไม้งามได้ด้วย ระยะทางราว 2 กิโลเมตร

“หมู่เกาะสุรินทร์” ไปกี่ครั้งก็ยังฟิน ไปกี่ทีก็ยังสวย

แต่ทิวทัศน์ของทะเลละชายหาดของทั้งอ่าวช่องขาด และอ่าวไม่งามนั้นไม่แพ้ที่ใดเลย น้ำทะเลใส สวย ชายหาดขาว สะอาด (แต่ไม่ละเอียดเท่าที่หมู่เกาะสิมิลัน) บรรยากาศร่มรื่นมาก ที่อ่าวไม้งามนั้นมีป่าชายเลนด้วย เป็นป่าชายเลนที่พื้นไม่เป็นเลนเหมือนป่าชายเลนทั่วไป  แต่เป็นพื้นทรายทะเล เราจึงดำน้ำเล่นในป่าโกงกางได้ด้วย

ที่จริงแล้วที่ "หมู่เกาะสุรินทร์" มีแหล่งดำน้ำลึกเหมือนกัน อย่างเช่นที่หินกอง เกาะตอรินลา หินแพ เกาะสต๊อก แต่อย่างที่บอกไว้แต่ต้นว่า ดำน้ำตื้นจะขึ้นชื่อกว่า

“หมู่เกาะสุรินทร์” ไปกี่ครั้งก็ยังฟิน ไปกี่ทีก็ยังสวย “หมู่เกาะสุรินทร์” ไปกี่ครั้งก็ยังฟิน ไปกี่ทีก็ยังสวย

ในช่วงที่เรายังมีนักท่องเที่ยวมาก ในช่วงเวลาของมื้อกลางวันที่อ่าวช่องขาด ผู้คนจะหนาแน่นราวกับมีงานมหกรรมอะไรสักอย่าง แต่ในยามนี้ เกาะทั้งเกาะดูสงบเงียบ เป็นธรรมชาติ ยิ่งโดยเฉพาะที่อ่าวไม้งาม จะดูร่มรื่น สงบ และเป็นธรรมชาติมาก จึงถือเป็นช่วงโอกาสทองที่คนไทยเราจะได้ออกเที่ยวทะเลไทยกัน ไปชื่นชมความงามของบ้านเรา

ช่วงนี้แหละ...โอกาสทองของการเที่ยวทะเลไทยอย่างแท้จริง...