“แตงโม นิดา” น้ำคำกลั่นจากน้ำตา 2 แม่วงการบันเทิง กับ 2 หนุ่มพิเศษ กล่าวอาลัย

“แตงโม นิดา” น้ำคำกลั่นจากน้ำตา 2 แม่วงการบันเทิง กับ 2 หนุ่มพิเศษ กล่าวอาลัย

คำกล่าวไว้อาลัย “แตงโม” ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ จาก 2 แม่วงการบันเทิง เอ ศุภชัย เขียนบทกลอนฝากอ้อมกอดแห่งความรักไปกับดวงดาว อ้วน รีเทิร์น น้ำตารื้นกับคำ “ลาก่อนลูกสาวแม่” และ 2 แขกเซอร์ไพรส์ พิพัฒน์ กันทะรันต์, ซี ศิวัฒน์

ระหว่างการประกอบ พิธีไว้อาลัย ตามธรรมเนียมปฏิบัติคริสตศาสนิกชนสำหรับการจากไปของดาราสาว “แตงโม” ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ ณ คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ (Liberty Church Bangkok) ระหว่างวันที่ 11-13 มีนาคม 2565 หนึ่งในขั้นตอนของพิธีคือการ “กล่าวไว้อาลัย” 

ในพิธีครั้งนี้ "การกล่าวไว้อาลัย" ขึ้นกล่าวโดยบุคคลในวงการบันเทิง จำนวน 4 ท่าน ซึ่ง 2 ใน 4 ท่าน “แตงโม นิดา” ให้ความรักและความเคารพเปรียบเสมือน “แม่ในวงการบันเทิง” ตลอดการใช้ชีวิตทำงานอยู่ในวงการบันเทิง ส่วนอีก 2 ท่านเป็นรุ่นพี่ที่นับถือกับดาราคู่ขวัญที่มีผลงานโด่งดังจากการเข้าวงการบันเทิงมาพร้อมกัน
 

วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2565 ผู้กล่าวไว้อาลัยต่อการจากไปของ “แตงโม นิดา” ได้แก่ เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร ผู้จัดการนักแสดง ถึงแม้ไม่ใช่นักแสดงในสังกัด แต่ “แตงโม” ก็รักและเคารพ "เอ-ศุภชัย" มาโดยตลอดหลังจากที่ได้รู้จักกัน

เอ ศุภชัย กล่าวย้อนถึงวันที่ได้รู้จัก “แตงโม” เปรียบชีวิต “แตงโม” เป็นหนังสือคุณธรรมหนึ่งเล่มที่มีทุกคำตอบ และอ่านบทกลอน “กอด” ที่เขียนขึ้นด้วยตนเองฝากความรักและความคิดถึงไปยัง “แตงโม” บนดินแดนสรวงสวรรค์ของพระเจ้า ดังนี้
 

“แตงโม นิดา” น้ำคำกลั่นจากน้ำตา 2 แม่วงการบันเทิง กับ 2 หนุ่มพิเศษ กล่าวอาลัย เอ ศุภชัย ขึ้นกล่าวไว้อาลัย "แตงโม นิดา"

“พี่เอกราบสวัสดีแขกผู้มีเกียรติที่เคารพรักทุกท่าน พี่เอทราบดีว่าวันนี้เรามีจุดประสงค์เดียวกัน คือเรารักน้องโม เรามีความรู้สึกเดียวกัน เรารู้สึกถึงการสูญเสียดวงใจของพวกเราไป 

พี่เอไม่อยากมาพูดในวันนี้เลยจริงๆ เพราะเป็นวันที่รู้สึกว่า หัวใจของเราอ่อนแอมากๆ แต่น้องโมเคยพูดไว้ว่า ถ้ามีงานอะไรสำคัญๆ ขอให้พี่เอได้มากล่าวอะไรให้โมไว้สักอย่างบ้างนิดหน่อย พี่เอก็ขอเล่าเรื่องที่ได้เจอกับเด็กผู้หญิงคนนี้แล้วกันนะครับ

น้องโม หลายคนสงสัยว่าทำไมพี่เอถึงจะผูกพัน ใกล้ชิดกันมากขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เป็นเด็กในสังกัดเราด้วยซ้ำ แต่พี่เอจะเล่ามาตั้งแต่สมัยเจอน้องโมครั้งแรก

คือตอนนั้นพี่เอเป็นผู้จัดการน้องเวียร์ ศุกลวัฒน์ น้องปู ไปรยา น้องธาวิน เยาวพลกุล และน้องแตงโมมีโอกาสไปเล่นละครกับช่องเจ็ดสี พี่เอก็ได้รู้จักกับน้องโม 

ตอนนั้นน้องโมได้อยู่ในการดูแลของคุณวุฒิ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทพี่เอ ตอนนั้นตัวพี่เอเองก็ยังไม่มีเงิน ไม่มีรายได้เยอะอะไรเลย เราก็ลำบากกันมา กินข้าวกันจานละ 15 บาท 20 บาท หน้ารามฯ พี่เอมาจากใต้ ก็อยากกินอาหารใต้ น้องโมก็บอกไปบ้านพี่วุฒิอยู่ซอยรามคำแหง 29 เดี๋ยวเราแวะกินอาหารใต้กัน พี่เอจะได้กินผัดสะตอ เป็นสิ่งที่เรารู้สึกว่าเราอยู่กันมาตั้งแต่ตอนที่เรายังเหนื่อยกันมาด้วยกัน 

แล้ววันหนึ่งเหมือนกับเราเดินมาในช่วงเวลาที่เขาเรียกว่าถึงจุดๆ หนึ่ง พี่เอก็ยังดีใจที่มีโอกาสได้ช่วยเหลือได้ดูแลน้อง ทุกวันเกิด พี่เอกับน้องโมเราจะมาเจอกันทุกปี ซึ่งเรารู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ผูกพัน 

“แตงโม นิดา” น้ำคำกลั่นจากน้ำตา 2 แม่วงการบันเทิง กับ 2 หนุ่มพิเศษ กล่าวอาลัย

สิ่งที่น้องโมทำให้เราเห็นคือ น้องโมเป็นเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง ทุกหน้าที่เราเปิด จะมีสิ่งที่สอนชีวิต สอนทุกอย่างให้กับชีวิต เป็นบทเรียนที่สอนว่า ทำแบบนี้แล้วจะต้องมีแบบนี้ เราไม่ต้องไปอ่านหนังสือสอนธรรมะหรืออะไรเลย เราดูชีวิตน้องโม สอนแม้กระทั่งความกตัญญูกตเวทีกับพ่อกับแม่ กับทุกคน กับคนรอบข้าง กับป้า 

สิ่งที่เวลาเราคิดถึงน้องโม เรามีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้ม น้องโมเป็นคนตลก พูดเรื่องขำๆ เวลาเจอพี่เอ แซวตลอดเลยค่ะ วันนี้พี่เอเลยใส่หมวกมา เพราะน้องโมชอบบอกว่า ‘ดูแม่กูใส่หมวกสิ ดูหมวกแม่สิ’ วันนี้ถ้าน้องโมอยู่ใกล้ๆ น้องโมก็คงแซวอยู่ค่ะ 

พี่เอรู้สึกคิดถึง อยากบอกหลายๆ อย่างมากตอนนี้  ว่าสูญเสียน้องที่รักยิ่งคนนี้ไป สิ่งที่พี่คนนี้ยังจำได้ทุกอย่างคือ ความดี ความจริงใจ ความตรงไปตรงมา ของน้องคนนี้ 

“แตงโม นิดา” น้ำคำกลั่นจากน้ำตา 2 แม่วงการบันเทิง กับ 2 หนุ่มพิเศษ กล่าวอาลัย

เราทุกคนคงคิดเหมือนกัน เราอยากกอดน้อง อยากกอดน้องอีกสักครั้ง ให้เรารู้สึกว่าน้องอยู่ใกล้ๆ เรา และเรารู้สึกว่าเราอยากกอด 

พี่เอแต่งกลอนมาเยอะมาก อยากอ่านให้ทุกท่านฟัง แต่ขอเลือกมาหนึ่งบท บทที่รู้สึกว่าตอนนี้ทุกคนเห็นรูปน้องโม เห็นทุกอย่าง(สถานที่จัดพิธีและบนเวที) พี่เออยากให้น้องโมมีความสุข พี่เออยากให้น้องโมเห็นว่าพี่เอทำดอกไม้ พี่ๆ พี่ก้องมาช่วยดูแลงาน พี่นักข่าวมาช่วยดูแล พี่ๆ วงการบันเทิงทุกคนรักน้อง เรามากอดน้องพร้อมกันนะคะ พี่เอขอฝากกลอนบทนี้ให้กับน้องโมนะลูก

กอดจะยังอบอุ่นหนุนเต็มกอด    รักตลอดจริงใจไม่คลายหย่อน
ความคิดถึงส่งถึงกันไม่สั่นคลอน   นิรันดร อสงไขย ไม่ลางเลือน
ลมยังพัด รักพี่ ไปที่น้อง    ดาวยังส่องลอยเด่นไปเป็นเพื่อน
ธารยังใสไหลรวมจิตจึงติดเตือน   ไม่คลาดเคลื่อนเดือนปีไม่มีคลาย
ยังงดงามสดใสในความฝัน   นิจนิรันดร์มั่นรักสมัครหมาย
ยังส่องแสงส่องฟ้าดาราราย   แม้ชีพวายใจยังชิดคิดถึงนะคะน้องโม

* * * 

“แตงโม นิดา” น้ำคำกลั่นจากน้ำตา 2 แม่วงการบันเทิง กับ 2 หนุ่มพิเศษ กล่าวอาลัย อ้วน รีเทิร์น กล่าวไว้อาลัย "แตงโม นิดา"

วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2565 ผู้กล่าวไว้อาลัยต่อการจากไปของ “แตงโม นิดา” ได้แก่ อ้วน รีเทิร์น (อนันต์ เสมาทอง) นักแสดงและพิธีกร กล่าวถึงความเป็นนักสู้ ความมีสัจจะของ “แตงโม” หลายอย่างที่ “อ้วน รีเทิร์น” กล่าว เตือนถึงการแสดงความรักความปรารถนาดีกับคนที่เรารักทันที การใช้เวลาแบ่งปันความสุข เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม ก่อนที่โอกาสนั้นจะไม่มีอีกแล้ว

“กราบสวัสดีผู้ใหญ่ทุกท่าน ถ้าจะให้พูดถึงแตงโม ในความน่ารัก พูดไม่หมดค่ะ แต่จะขอพูดสั้นๆ นะคะว่าแตงโมเป็นเด็กที่มี ความกล้า ความอดทน มานะ บากบั่น ฟันฝ่าอุปสรรคที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตลูกแล้วลูกเล่าด้วยความกล้าแกร่ง แต่ในขณะเดียวกัน แตงโมเหมือนดอกไม้ดอกเล็กๆ ที่น่าทะนุถนอม สวยงามสดใส

แตงโมเป็นเด็กที่ กตัญญูรู้คุณผู้ใหญ่ทุกท่าน ทั้งในวงการและนอกวงการ แตงโมจดจำคำพูดของตัวเองได้ทุกครั้งที่ให้สัญญาไว้กับทุกคน

เป็นคนมีน้ำใจกับเพื่อนทุกคน เพื่อนๆ ในกองถ่ายทุกคนที่ร่วมงานกับแตงโมจะรัก ทุกครั้งที่แตงโมอยู่กับทุกคน มีแต่ความสุขและรอยยิ้ม ไม่เคยเอาปัญหาใดๆ เข้ามาให้คนอื่นขุ่นเคืองใจหรือมีความทุกข์กับตนไปด้วย แต่ในขณะเดียวกันแตงโมเป็นคนมีเมตตาสูง แตงโมพร้อมที่จะร้องไห้กับน้องแมวน้องหมาที่เนื้อตัวมอมแมมอยู่ข้างทาง

“แตงโม นิดา” น้ำคำกลั่นจากน้ำตา 2 แม่วงการบันเทิง กับ 2 หนุ่มพิเศษ กล่าวอาลัย

แตงโมเป็นคนรักษาคำพูดที่ให้กับทุกคน แม่อ้วนเคยพูดไว้กับแตงโมเมื่อสองปีที่แล้วว่าอยากเห็นแตงโมเรียนจบปริญญา เพื่อจะได้ไม่มีใครมาดูถูกเรา หลังจากนั้นสองปี แตงโมส่งรูปมา อยากให้แม่อ้วนไปร่วมถ่ายรูปในงานรับปริญญาของแตงโม

แม่อ้วนไม่ได้ไปนะคะเพราะว่าผู้ใหญ่แล้วขับรถขับราก็ไม่ค่อยถูก อยากให้เขาถ่ายรูปกับเด็กๆ แตงโมส่งข้อความมาว่า เงินที่แม่ให้หนูมา หนูเอาไปร่ำเรียนจนจบแล้วนะแม่ เป็นของขวัญให้แม่อ้วน เขาจะรักษาคำพูดทุกคำ

แตงโมชวนไปนอนที่บ้าน ก็ไม่เคยไป เราอยากให้เขาได้อยู่กับเด็กๆ ที่มีความสุข สุดท้ายก่อนที่น้องจะจากไปสิบกว่าวัน แตงโมโทร.มาขอบคุณทุกอย่างแม่อ้วน แม่อ้วนถามเขาว่า ลูกเขยแม่เป็นยังไงบ้าง แตงโมบอกว่า

ตาหนวดเป็นคนน่ารักมาก ดูแลหนูทุกสิ่งทุกอย่าง มองข้ามเรื่องอะไรที่ไม่ดีของหนูหมด คนนี้คือคนที่หนูจะฝากชีวิตไว้ 

“แตงโม นิดา” น้ำคำกลั่นจากน้ำตา 2 แม่วงการบันเทิง กับ 2 หนุ่มพิเศษ กล่าวอาลัย

แตงโมพูดกับแม่อ้วนหลายครั้งหลายคราวถึงผู้ใหญ่ที่มีความเมตตาให้แตงโมทุกๆ ท่าน แตงโมไม่เคยลืม 

วันนี้พี่อ้วนก็ขอบอกเลยว่าไม่เคยลืมลูก ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ที่แตงโมชวนไปกินข้าว ไปนอนที่บ้าน ไปรับปริญญา แม่อ้วนจะไปอยู่กับแตงโมทุกที่ จนวินาทีสุดท้ายของลูก

วันนี้พี่อ้วนขอเป็นตัวแทนของเพื่อนๆ ทุกคน แม่ๆ ทุกคน ที่รักและเอ็นดูแตงโมเหมือนลูกแท้ๆ แฟนคลับและประชาชนทุกคนที่รักแตงโมทั้งหมดทั่วประเทศ ครั้งนี้ทำให้ทุกคนได้รู้เลยว่าแตงโมเป็นที่รักของคนทั่วประเทศไทยจริงๆ แม่อ้วนไม่มีอะไรจะพูดนะคะ ขอพูดครั้งเดียวว่า 'ลาก่อนลูกสาวของแม่' ขอบคุณทุกคนค่ะ”

* * *

“แตงโม นิดา” น้ำคำกลั่นจากน้ำตา 2 แม่วงการบันเทิง กับ 2 หนุ่มพิเศษ กล่าวอาลัย พิพัฒน์ กันทะรันต์ และ ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์

วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2565 ผู้กล่าวไว้อาลัยต่อการจากไปของ “แตงโม นิดา” ได้แก่ อ๊อด พิพัฒน์ กันทะรันต์ โปรดิวเซอร์และ Filmography และดาราหนุ่ม ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ เพื่อนนักแสดงซึ่งก้าวเข้าสู่วงการพร้อมกับ “แตงโม” และกลายเป็นนักแสดงคู่ขวัญประสบความสำเร็จจากละครเรื่อง “เบญจา คีตา ความรัก”

อ๊อด พิพัฒน์ กันทะรันต์ เป็นรุ่นพี่ที่ “แตงโม” รักและเคารพอีกท่านหนึ่ง เดินทางมาจากจังหวัดเชียงใหม่เพื่อร่วมพิธีไว้อาลัย โดยกล่าวว่ารู้จัก “แตงโม” จาก เอ ศุภชัย มีความสนิทสนมนับถือเป็นพี่น้องที่มีความปรารถนาดีให้กัน ปรึกษาเรื่องตางๆ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  “แตงโม” เคยกล่าวว่า วันหนึ่งหากมีอะไร อยากให้ตนได้มากล่าวบางสิ่งบางอย่าง

ช่วงหนึ่งของการกล่าวไว้อาลัย อ๊อด พิพัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ “แตงโม นิดา” คงจะอยู่ในอ้อมกอดของพระเจ้าเหมือนที่ทุกคนทราบ แต่น้องโมยังจะมีผลงานที่ดีๆ ผลงานทางการแสดง ผลงานต่างๆ ผลงานการใช้ชีวิตให้กับทุกท่านได้จารึกและเป็นตำนานต่อไป 

“เหมือนที่น้องแตงโมเคยให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง น้องโมกล่าวว่า ถ้าเปรียบชีวิตน้องโมเป็นหนังสือเล่มหนึ่ง ให้ทุกท่านได้อ่านและวิเคราะห์หนังสือเล่มนี้ดีๆ จะสามารถศึกษาและเข้าใจชีวิตของตัวเองมากขึ้น 

มาถึงวันนี้มันเป็นหนังสือหน้าสุดท้ายแล้วที่น้องโมจะต้องเขียนบันทึก แล้วพวกเราจะบันทึกหน้าสุดท้ายให้กับน้องโมในหนังสือชีวิตเล่มนี้ของน้องโม 

ก็คือในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา น้องโมมีความบริสุทธิ์ใจ มีความรัก มีความเมตตา มีความจริงใจให้เพื่อนเสมอ น้องโมรักความถูกต้อง และความเป็นธรรมให้กับเพื่อน ต่อสู้เพื่อเพื่อนทุกคนที่น้องโมรักเสมอ 

ผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้ของน้องโมจะจบได้ สิ่งที่น้องโมควรได้รับที่สุดในวันนี้ ก่อนหนังสือจะจบลงก็ ก็คือความถูกต้องและความเป็นธรรม สำหรับน้องแตงโมต่อไป”

“แตงโม นิดา” น้ำคำกลั่นจากน้ำตา 2 แม่วงการบันเทิง กับ 2 หนุ่มพิเศษ กล่าวอาลัย

ขณะที่ ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ กล่าวว่า “กราบสวัสดีแขกผู้มีเกียรติทุกๆ ท่านนะครับ เอาจริงๆ จากใจ ผมเองนั้นก็ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน และก็ไม่ได้คิดด้วยว่าจะมีโอกาสได้มากล่าวคำไว้อาลัยกับเพื่อนที่เราสนิทกันมาก่อนจริงๆ  

จริงๆ ไม่น่าจะใช้คำว่าเพื่อน ผมรู้สึกว่าจริงๆ นั้นโมก็คือคนในครอบครัวของผมคนหนึ่ง อย่างที่พี่อ๊อดบอก เราสองคนเติบโตมาด้วยกัน เข้าวงการมาพร้อมกัน มีผู้จัดการคนแรกคนเดียวกัน รับรางวัลพร้อมกัน มีชื่อเสียงโด่งดังพร้อมกัน เราเป็นคู่ขวัญ 

ผมได้มีโอกาสเจอพี่วุฒิ เจอโม เรามีเรื่องราวสนุกสนานผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน ที่ต้องบอกว่าโมเป็นครอบครัวของผม เพราะว่าเราสองคนเหมือนเด็กอ่อนที่เข้าวงการโดยที่ยังไม่เข้าใจความรับผิดชอบใดๆ และเราก็เรียนรู้และเติบโตพร้อมๆ กัน 

ผมเจอพี่เอ เจอพี่วุฒิ เจอพี่อ๊อด เราจะมีเรื่องราวสนุกสนาน มีรอยยิ้มเสมอ นี่คือภาพจำของผู้หญิงคนนี้ 

“แตงโม นิดา” น้ำคำกลั่นจากน้ำตา 2 แม่วงการบันเทิง กับ 2 หนุ่มพิเศษ กล่าวอาลัย

วันนี้ผมมีความรู้สึกหลายอย่าง มีความรู้สึกดีใจ และเสียใจไปพร้อมๆ กัน ดีใจที่งานในวันนี้สวยงามเหลือเกิน ทุกอย่างที่พี่เอทำให้ พี่อั้มทำให้ มันสวยงามมากจริงๆ ดีใจที่วันนี้ทุกๆ คนรักโมเหลือเกิน แต่มันเจ็บปวดใจมากเหลือเกินที่ครั้งนี้คงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอกันจริงๆ 

ผู้หญิงคนนี้สร้างแรงบันดาลใจให้ผมเสมอ ตอนที่เราได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน สมัยก่อนตอนที่ผมเป็นวัยรุ่น ทำงานได้รับเงิน ประสาวัยรุ่นครับ สิ่งที่ผมจะทำก็คือ ก็คงไปหาซื้อของให้ตัวเอง

แต่แรงบันดาลใจของผู้หญิงคนนี้อย่างที่พี่เอบอก เรื่องราวชีวิตของโมเหมือนตำราชีวิตเล่มใหญ่เล่มหนึ่ง สิ่งที่เธอทำคือ เธอไม่ได้เอาเงินนั้นไปใช้ส่วนตัวก่อน เธอนำเงินนั้นไปให้บุพการีของเธอก่อน นั่นคือสิ่งที่เธอทำ และเธอบอกผมว่าเธอไม่จำเป็นต้องใช้อะไร ถ้าคนที่รู้จักโมจริงๆ เธอไม่ได้เป็นคนติดแบรนด์เนม เธอใช้อะไรก็ได้ ใช้กระเป๋าย่าม ใช้อะไรก็ได้จริงๆ มันทำให้ผมเห็นครั้งแรกว่า โมเป็นแบบนี้ตั้งแต่ยังไม่ดัง

“แตงโม นิดา” น้ำคำกลั่นจากน้ำตา 2 แม่วงการบันเทิง กับ 2 หนุ่มพิเศษ กล่าวอาลัย

อีกสิ่งหนึ่งที่ตลอดระยะเวลาที่ผมรู้จักกับโม และผมเชื่อว่าทุกคนวันนี้ก็ได้รู้แล้ว โมเป็นคนที่ สุจริตต่อความรู้สึกตัวเอง คิดอย่างไรพูดแบบนั้น ไม่มีพิษไม่มีภัย ไม่มีเสริมไม่มีเติมไม่มีแต่ง  

การที่เธอจะรักใครสักคน ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม จะรวย จะจน จะสนิทหรือไม่สนิทก็ตาม เธอก็รักเขา จนผมต้องถามว่า ทำไมต้องทำแบบนั้น ไม่กลัวคนอื่นตัดสินเหรอ ไม่กลัวคนอื่นเขาว่าเหรอ ซึ่งมันมีคนตัดสินเธอและมีคนว่าเธอ แต่สิ่งที่เธอตอบผมมาคือ ไม่เป็นไร เธอรู้ดีว่าเธอสุจริตใจ คนอื่นไม่รู้ไม่เป็นไร แต่เรารู้ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว 

วันนี้คงปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ทุกคำพูดของโม มันต้องกลับมามองเรื่องราวชีวิตของเราจริงๆ นี่เป็นหนังสือเล่มใหญ่ แม้เป็นหน้าสุดท้ายอย่างที่พี่อ๊อดบอก แต่วันนี้ครับทุกชีวิต ทุกลมหายใจที่โมมี จนแม้วันนี้จะไปอยู่ในพื้นที่ที่ดีกว่า มันสร้างความเปลี่ยนแปลง มันทำให้เราต้องมองย้อนกลับมาที่ตัวเอง แล้วรักของเราวันนี้เป็นแบบไหน เป็นรักที่สุจริต หรือรักที่มีแต่ได้กันแน่ 

ไม่ว่าโมจะอยู่ที่ไหนก็ตาม วันนี้มีเพื่อนสนักแสดงที่เป็นครอบครัว ‘เบญจา คีตา ความรัก’ อย่างที่บอกครับเราเติบโตมาด้วยกัน เราเป็นมากกว่าเพื่อนร่วมงาน เป็นครอบครัว

ผมไม่ใช่คริสต์ แต่ผมคิดว่า นี่เป็นประสงค์ของพระเจ้า ที่โมมาอยู่บนโลกใบนี้ เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมครั้งยิ่งใหญ่ และหลังจากนี้วันนี้ทุกคนไม่ใช่แค่โม ไม่ใช่แค่คนรอบข้างที่เคยรู้จักโม เห็นว่าโมเป็นยังไง วันนี้คนทั้งประเทศนี้ได้เห็นแล้ว ว่าผู้หญิงคนนี้สวยงามแค่ไหน

ไม่ว่าโมจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ผมขออธิษฐานจากหัวใจ ขอให้โมได้รับรู้ ว่าพวกเรารักและคิดถึงโมเสมอ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกใบนนี้ที่โมสร้างให้พวกเราได้จดจำ จะคงอยู่ตลอดไปจนกว่าเราได้เจอกัน"

“แตงโม นิดา” น้ำคำกลั่นจากน้ำตา 2 แม่วงการบันเทิง กับ 2 หนุ่มพิเศษ กล่าวอาลัย

credit photo : คริสตจักรแห่งความสุข

* * *