งานบ้านที่รัก "ของใช้ส่วนตัว" อย่าละเลย ใช้กี่วันถึงต้องซัก

งานบ้านที่รัก "ของใช้ส่วนตัว" อย่าละเลย ใช้กี่วันถึงต้องซัก

สรุปตารางการซักของใช้ส่วนตัว โดยเฉพาะของจำพวกผ้าที่เสี่ยงต่อการเชื้อโรคสะสม และแบคทีเรียต่างๆ หากใครที่สังเกตว่าหน้าเป็นสิว ผื่นขึ้นหลัง หรือคันตามลำตัว อาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาที่ต้องทำความสะอาดบ้าน หรือของใช้ส่วนตัวแล้ว

ตั้งแต่มนุษย์ออฟฟิศเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่อย่างการ WFH ทำงานอยู่บ้านทำให้บางครั้งเราลืมวันลืมคืน ลืมช่วงเวลาสุดสัปดาห์ที่ต้องเคลียร์ทำความสะอาดบ้าน หรือบางคนอยู่ในชุดนอนตั้งแต่เช้าจรดเย็น การกระทำแบบนั้นไม่ผิด แต่อยากจะขอเตือนว่าเชื้อโรคสะสมในบ้านก็มากไม่แพ้นอกบ้านเลย

หากใครที่สังเกตว่าหน้าเป็นสิว ผื่นขึ้นหลัง หรือคันตามลำตัว อาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาที่ต้องทำความสะอาดบ้าน หรือของใช้ส่วนตัวแล้ว แต่ถ้าใครทำเป็นกิจวัตรได้ยิ่งดี กรุงเทพธุรกิจออนไลน์สรุปหลักการดูแลของใช้ส่วนตัว โดยเฉพาะของใช้จำพวกผ้าที่ต้องมีเวลาในการซักอย่างถูกหลักเพื่อลดเชื้อโรคสะสมในชีวิตประจำวันได้

 

งานบ้านที่รัก \"ของใช้ส่วนตัว\" อย่าละเลย ใช้กี่วันถึงต้องซัก

  • สิ่งที่ควรทำความสะอาดทุกๆ วัน

การทำความสะอาดประจำวันเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อลดการสะสมเชื้อโรค และแบคทีเรีย โดยสิ่งของที่ใช้บ่อยอย่าง ชุดนอน และผ้าเช็ดจาน ควรที่การซักในทุกๆ วัน เพราะผ้าเหล่านี้มีความอับชื้น และเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ง่าย

  • ทุกๆ อาทิตย์ หรือ 3-5 วัน

การกำหนดช่วงระยะการทำความสะอาดของใช้ส่วนตัวเป็นเรื่องที่ดี ซึ่ง ถุงผ้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดผม ปลอกหมอนหรือหมอนข้าง พรม และผ้าปูที่นอน ควรเปลี่ยนหรือซักทุกๆ อาทิตย์ หรือช่วงระยะเวลา 3-5 วัน

สำหรับผ้าเช็ดตัวบางคนอาจจะมองว่ามันจุกจิก และเปลืองแรงในการซักไปหรือไม่ มีผลสำรวจจากรายการวาไรตี้โชว์ของประเทศญี่ปุ่นซึ่งสรุปได้ว่าแม่บ้านญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับผ้าเช็ดตัวมาก ผลสำรวจแม่บ้านญี่ปุ่นเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวทุกวัน มากถึง 48% อีก 32% เปลี่ยนทุกๆ 3 วัน สำหรับคนไทยส่วนใหญ่แล้วจะมีช่วงระยะเวลา 1 อาทิตย์ แต่แนะนำว่าควรเปลี่ยนบ่อยๆ หรือซื้อสำรองไว้หลายผืนโดยเฉพาะในประเทศเมืองร้อนที่เราอาบน้ำวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น ยิ่งใช้บ่อยเท่าไร ก็ยิ่งต้องทำความสะอาดบ่อย

 

  • ทุกๆ เดือน

เครื่องนอนควรนำไปซักทำความสะอาดเป็นประจำ เพราะเราใช้งานทุกวัน ย่อมมีรอยเปื้อนและเกิดคราบสกปรกเป็นธรรมดา หากไม่ใส่ใจและปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและไรฝุ่น โดยเฉพาะผ้าห่ม ซึ่งไม่ค่อยมีใครใส่ใจเอาออกไปซักบ่อยเท่าผ้าปูที่นอนและปลอกหมอน โดยช่วงเวลาไม่ควรทิ้งไว้นานกว่า 1 เดือน

เช่นเดียวกับฟองน้ำล้างจาน กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขเคยออกประกาศเตือนให้เปลี่ยนฟองน้ำ หรือ แผ่นใยขัดล้างจาน (สก็อตไบร์) บ่อยขึ้นเพราะฟองน้ำล้างจานมีความชื้น แฉะ เป็นแหล่งรวมเชื้อโรคได้ดี ทางที่ดีควรเปลี่ยนภายใน 1 เดือน

  • ทุกๆ 3-6 เดือน

มาถึงของใช้ส่วนตัวที่มีระยะเวลาในการใช้ 3-6 เดือน ส่วนใหญ่คือหมอน ผ้าม่าน และสลิปเปอร์ ทั้งหมดที่กล่าวมามีขั้นตอนการซักที่ยุ่งยากแต่ก็ไม่ควรละเลย โดยปลอกหมอนมีเคล็ดลับคือการซักด้วยน้ำร้อน หรือการนำเอาไปผึ่งแดด สำหรับผ้าม่านอาจจะดูดฝุ่น หรือใช้เครื่องดูดไรฝุ่นแทนการถอดออกมาซัก และรองเท้าสลิปเปอร์ที่ควรซักให้บ่อยมากขึ้น ทางที่ดีครบ 6 เดือนควรเปลี่ยนคู่ใหม่ไปเลย

 

-----------------------------------

อ้างอิง : goodhousekeeping.comcleanipedia.comAntiFakeNewsCenter