ทำความรู้จัก “ไวน์รัสเซีย” ไวน์ดีมีฟองซ่า

ทำความรู้จัก “ไวน์รัสเซีย” ไวน์ดีมีฟองซ่า

ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีคนรู้จัก “ไวน์รัสเซีย” จนเมื่อประธานาธิบดี “ปูติน” ลงนามกฎหมายให้จำหน่าย “แชมเปญ” เนื้อหาสั้น ๆ แต่สะเทือนไปทั่วฝรั่งเศสและทั่วโลก

ไวน์รัสเซีย (Russian wine) เป็นไวน์ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ลิ้มรส เช่นเดียวกับไวน์อีกหลายชาติในชายคาอดีตสหภาพโซเวียต แต่เมื่อ วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ลงนามผ่านร่างกฎหมายอนุญาตให้จำหน่าย แชมเปญ ทำให้คนทั่วโลกหันมาจับตามอง รัสเซีย เป็นเรื่องที่ร้อนแรงไม่แพ้กองทัพรัสเซียบุกประชิดชายแดน ยูเครน เลยทีเดียว

ทำความรู้จัก “ไวน์รัสเซีย” ไวน์ดีมีฟองซ่า    วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้ลงนามการขายแชมเปญล่าสุด

เหตุเพราะ แชมเปญ หรือ ชามปาญสกี้ (Shampanskyoe) ในภาษารัสเซีย ที่ผลิตในประเทศรัสเซียเท่านั้น ส่วนแชมเปญจากฝรั่งเศส รวมทั้งไวน์ฟองซ่าที่ผลิตในประเทศอื่น ๆ ถ้าจะขายในรัสเซียต้องพิมพ์คำว่า Sparkling Wine ในฉลากหลังด้วย และบังคับว่าต้องเป็นอักษรซีรีลลิค (Cyrillic Letters) จากนั้นผู้ผลิตจะต้องส่งตัวอย่างฉลากไปให้ทางการรัสเซียตรวจสอบ ถ้าถูกต้องก็ส่งได้เลย

ทำความรู้จัก “ไวน์รัสเซีย” ไวน์ดีมีฟองซ่า    โฆษณาแชมเปญสมัยก่อน

รัสเซียนั้นเป็นตลาดใหญ่อันดับ 13 ของแชมเปญ จากสถิติในปี 2020 ฝรั่งเศสส่งออกแชมเปญไปยังรัสเซียจำนวน 160,000 ลัง คิดเป็น 1.4% ของแชมเปญที่ผลิตได้ในแคว้นแชมเปญ

คนรัสเซียมีเงินดื่มแชมเปญกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังอดีตสหภาพโซเวียตล่มสลาย บรรดาเศรษฐีที่ต้องการความเป็นสากลในการทำธุรกิจกับต่างประเทศ แชมเปญเป็นเครื่องดื่มสากลและแสดงความหรูหรามากที่สุด แน่นอนไม่ใช่วอดก้าที่เป็นเครื่องดื่มประจำชาติ

ทำความรู้จัก “ไวน์รัสเซีย” ไวน์ดีมีฟองซ่า

  Shampanskoye กับเลนิน

ชามปาญสกี้ (Shampanskoye) หรือแชมเปญของรัสเซีย มีความเป็นมาอันยาวนานในรัสเซีย โดยไวเนอรีต่าง ๆ เริ่มผลิตสปาร์คกลิ้งไวน์ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา ขณะที่ตอนเป็นสหภาพโซเวียตใช้คำว่า Sovetskoye Shampanskoye (Сове́тское шампа́нское) หรือ Soviet Champagne ในภาษาอังกฤษ จึงตั้งขึ้นมาหมายถึง สปาร์คกลิ้งไวน์เพื่อประชาชนชาวโซเวียตทั้งมวล และใช้มาตั้งแต่บัดนั้น

ทำความรู้จัก “ไวน์รัสเซีย” ไวน์ดีมีฟองซ่า     Shampanskyoe

ไวน์รัสเซีย ในอดีตรวมถึงพื้นที่พิพาทของไครเมียด้วย จริง ๆ แล้วดินแดนส่วนใหญ่ของรัสเซียไม่เหมาะสำหรับการปลูกองุ่น ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่แถวครัสโนดาร์ (Krasnodar) รอสตอฟ (Rostov) รวมทั้งไครเมีย

ทำความรู้จัก “ไวน์รัสเซีย” ไวน์ดีมีฟองซ่า

   Abrau Durso Winery

เพราะสภาพของภูมิอากาศในรัสเซียไม่เอื้ออำนวยต่อการผลิตไวน์คุณภาพดี ๆ เหมือนชาติในยุโรปและชาติโลกใหม่อื่น ๆ ดังนั้นไวน์ที่ทำได้จึงบริโภคกันในประเทศ ขณะที่ไวน์คุณภาพระดับโลกต้องนำเข้า

ตลาดไวน์ในรัสเซียส่วนใหญ่ เป็นไวน์ราคาประหยัด ราคาขายปลีกต่ำกว่า 100 รูเบิล (ประมาณ 1.71 ดอลลาร์) ความพยายามที่จะเปลี่ยนจากชื่อเสียงของไวน์ที่มีคุณภาพต่ำ เมื่อครั้งที่เป็นโซเวียตประสบความสำเร็จในระดับปานกลาง แม้ว่า 80% ของไวน์ที่ขายในรัสเซียในปี 2013 จะทำจากองุ่นเข้มข้น

ทำความรู้จัก “ไวน์รัสเซีย” ไวน์ดีมีฟองซ่า    เขตผลิตไวน์ของรัสเซีย

เรื่องราวความเป็นมาของ ไวน์รัสเซีย อ้างอิงว่า องุ่นปลูกอยู่รอบ ๆ ทะเลแคสเปี้ยน,ทะเลดำ และทะเลอาซอฟ มาเป็นเวลาหลายพันปี มีหลักฐานการปลูกองุ่น และเพื่อการค้ากับชาวกรีกโบราณ พบตามชายฝั่งทะเลดำที่เมือง Phanagoria และGorgippia พร้อมระบุว่า รอบ ๆ ทะเลดำเป็นพื้นที่ผลิตไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

ผู้ก่อตั้งการผลิตไวน์เชิงพาณิชย์สมัยใหม่ในรัสเซียคือ เจ้าชายลีโอ กาลิตซีน (Leo Galitzine / 1845-1915) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งโรงงานแชมเปญแห่งแรกของรัสเซียบนที่ดินของ Novyi Svet รีสอร์ทส่วนตัวของเขาในไครเมีย

ทำความรู้จัก “ไวน์รัสเซีย” ไวน์ดีมีฟองซ่า   Shampanskyoe กับสตาลิน

ปี 1889 ได้รับรางวัลเหรียญทองจากนิทรรศการปารีส กระทั่งปี 1891 จึงได้ขยับขยายมาก่อตั้ง Abrau-Dyurso Winery ผลิตสปาร์คกลิ้งไวน์ตลอดศตวรรษที่ 20 ภายใต้แบรนด์ “โซเวียต แชมเปญ” หรือ "แชมเปญ เพื่อประชาชน"

ทำความรู้จัก “ไวน์รัสเซีย” ไวน์ดีมีฟองซ่า   เก็บองุ่นใน Krasnodar

ก่อนปฏิวัติปี 1917 ในรัสเซีย ชนชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถดื่มไวน์ได้ และหลังจากการปฏิวัติรัสเซียในปี 1917 ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ของฝรั่งเศสที่มีอิทธิพลต่อการผลิตไวน์ในรัสเซียพากันอพยพออกจากรัสเซีย ทำให้อุตสาหกรรมไวน์ในรัสเซียเริ่มเตาะแตะใหม่ตั้งแต่ปี 1920 เป็นต้นมา

อุตสาหกรรมไวน์เริ่มจะฟื้นตัวบ้างในช่วงทศวรรษที่ 1940 และ 1950 แต่ก็ต้องเผชิญวิบากกรรม ในปี 1986 โดยนายมิคาอิล กอร์บาชอฟ( Mikhail Gorbachev) นายกรัฐมนตรีโซเวียต รณรงค์ต่อต้านการบริโภคแอลกอฮอล์มากเกินไปในสหภาพโซเวียต ทำให้ไร่องุ่นถูกทำลายทิ้งไปประมาณ 800 ตารางกิโลเมตร

    ทำความรู้จัก “ไวน์รัสเซีย” ไวน์ดีมีฟองซ่า

    Fanagoria

หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต การเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจแบบตลาด การแปรรูปที่ดินทำให้พื้นที่ไร่องุ่นที่สำคัญหลายแห่งไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ในปี 2000 สหพันธรัฐรัสเซียมีพื้นที่ปลูกองุ่นทำไวน์เพียง 72,000 เฮกตาร์ (180,000 เอเคอร์) น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของพื้นที่ทั้งหมดที่ใช้ในช่วงต้นทศวรรษ 1980

ตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมาไวเนอรีต่าง ๆ ในรัสเซียได้นำเทคนิคและมาตรฐานของยุโรปมาใช้ โดยมี Abrau-Durso Winery เป็นแกนนำของอุตสาหกรรมไวน์ยุคใหม่ขณะนั้น ไวน์กึ่งหวานและหวานคิดเป็น 80% ของตลาดรัสเซีย ปี 2014 รัสเซียมีพื้นที่ปลูกองุ่นอยู่ในอันดับที่ 11 ของโลก

ทำความรู้จัก “ไวน์รัสเซีย” ไวน์ดีมีฟองซ่า

   Chateau le Grand Vostock

ในปี 2018 และ 2019 ไวน์รัสเซียหลายชนิดได้รับการจัดอันดับโดย โรเบิร์ต ปาร์คเกอร์ (Robert Parker) นักวิจารณ์ไวน์ชื่อดังแห่ง Wine Advocate ด้วยคะแนนค่อนข้างสูงระหว่าง 80 - 97 คะแนน

ปี 2020 Fanagoria Blanc de Blancs Brut วินเทจ 2017 จาก Fanagoria Estate Winery ใน Fanagoria บนคาบสมุทร Taman ได้รับรางวัลเหรียญทองจากการงาน "Chardonnay du Monde" (Chardonnay of the World) ซึ่งเป็นงานชิมไวน์ระดับนานาชาติ

ทำความรู้จัก “ไวน์รัสเซีย” ไวน์ดีมีฟองซ่า

  Abrau-Durso

ปัจจุบันภูมิภาคนอร์ท คอเคซัส (North Caucasus) เป็นที่ตั้งของไร่องุ่นส่วนใหญ่ของรัสเซีย เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศแบบคอนติเนนตัล ซึ่งเหมาะกับการปลูกองุ่นทำไวน์ ไม่เยือกเย็นหนาวจัดเหมือนภูมิภาคอื่น 

ขณะที่ดาเกสถาน (Dagestan) ซึ่งผลิตไวน์ประมาณ 13% ของไวน์รัสเซียทั้งหมด มีสภาพอากาศที่หลากหลายโดยบางพื้นที่ กึ่งทะเลทราย ผลิตในพื้นที่รอบ ๆ Stavropol

ทำความรู้จัก “ไวน์รัสเซีย” ไวน์ดีมีฟองซ่า   Lefkadia Wines

ปัจจุบันรัสเซียผลิตไวน์หลายสไตล์ ตั้งแต่สติลล์ ไวน์ (ขาว, แดง, โรเซ่),สปาร์คกลิ้งไวน์ และไวน์หวาน ด้วยองุ่นกว่า 100 สายพันธุ์ มากที่สุดคือรัตซิเตลี (Rkatsiteli) ประมาณ 45% นอกนั้นเป็นองุ่นพื้นเมืองที่แทบไม่คุ้นกับชาวโลก ส่วนองุ่นสายพันธุ์คลาสสิกก็มีบ้าง เช่น Cabernet Sauvignon, Merlot, Pinot Gris, Riesling, Silvaner เป็นต้น

ทำความรู้จัก “ไวน์รัสเซีย” ไวน์ดีมีฟองซ่า

   Lefkadia vineyards

ขณะที่การควบคุมการผลิตไวน์ของรัสเซีย (Controlled Appellations) จะควบคุมโดยยึดโยงกับพันธุ์องุ่นว่า เขตนั้นจะต้องปลูกองุ่นพันธุ์ใด ซึ่งค่อนข้างยากสำหรับคนทั่วไป

จากหนังสือ Russian Wine Guide มีไวเนอรีและผู้ผลิตไวน์ที่แนะนำประมาณ 55 แห่ง เช่น  Fanagoria, Lefkadia, Chateau du Talus, Abrau-Durso และ Chateau le Grand Vostock เป็นต้น

มีผู้เปรียบเล่น ๆ ว่ารัสเซียเก่งในการดื่มแชมเปญหรือชามปาญสกี้ (Shampanskyoe) ขณะที่ยูเครนคู่ขัดแย้งกันในขณะนี้มีดีเรื่องไวน์หวาน

ทำความรู้จัก “ไวน์รัสเซีย” ไวน์ดีมีฟองซ่า    พรายฟองของ Shampanskyoe

ซ่ากับหวานไม่มีใครกลัวใคร ไม่มีใครเกรงใคร อะไรจะเกิดขึ้น...!