ส่องโฆษณา ‘Super Bowl LVI’ จัดเต็ม 'แบรนด์-ดาราดัง' มาเพียบ!

ส่องโฆษณา ‘Super Bowl LVI’ จัดเต็ม 'แบรนด์-ดาราดัง' มาเพียบ!

ราคาโฆษณาระหว่างการถ่ายทอดสดการแข่งขัน “Super Bowl LVI” ปีนี้สูงถึง 6.5 ล้านดอลลาร์ แต่แบรนด์ดังพร้อมสู้ราคา ขนกองทัพนักแสดงมาเล่นโฆษณาจำนวนมาก

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับ “ซูเปอร์ โบวล์ ครั้งที่ 56” (Super Bowl LVI) อีเวนต์ยิ่งใหญ่ที่มีคนเฝ้ารอชมมากที่สุดแห่งปีของวงการโทรทัศน์สหรัฐ โดยในปีนี้จัดที่ “SoFi Stadium” ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ “NBCโดยผลการแข่งขันLos Angeles Rams” สามารถพลิกเอาชนะ “Cincinnati Bengals” ได้ในควอเตอร์สุดท้ายด้วยคะแนน 23 ต่อ 20

ส่วนการแสดงระหว่างพักครึ่ง (Halftime Show) ในปีนี้ ศิลปินขนทัพกันมาแบบจัดหนักจัดเต็ม พร้อมเพลงฮิตของแต่ละคนที่ผู้ชมร้องตามกันได้ทั้งสนาม ทั้ง “ดร.เดรย์” (Dr. Dre), “สนูป ด๊อกก์” (Snoop Dogg), “เอ็มมิเน็ม” (Eminem), “แมรี เจ. ไบลจ์” (Mary J. Blige) และ “เคนดริค ลามาร์” (Kendrick Lamar) ซึ่งสนุกสนานและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมเป็นอย่างมาก 

 

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในการแข่งขันซูเปอร์ โบวล์คือ โฆษณาระหว่างการถ่ายทอดสดการแข่งขัน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีราคาที่สูงมากที่สุดในวงการโทรทัศน์สหรัฐ ในปีนี้มีหลายแบรนด์ดังที่ยอมทุ่มเงินกว่า 6.5 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อเวลาโฆษณาเพียง 30 วินาทีในช่วงเวลาดังกล่าว 

เนื่องด้วย การแข่งขันซูเปอร์ โบวล์มีผู้ชมเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีกลุ่มผู้ชมมีช่วงอายุที่กว้างขึ้นตามไปด้วย ทำให้สินค้าแทบทุกประเภทสามารถลงโฆษณาในช่วงเวลานี้ได้ โดยตลอดการแข่งขันจะมีโฆษณาประมาณ 40-50 ตัว 

แบรนด์สินค้าต่าง ๆ ทุ่มเงินเป็นจำนวนมากในการผลิตโฆษณาขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ฉายในช่วงเวลานี้โดยเฉพาะ ซึ่งมักจะทำออกมาเป็นแนวตลกขบขันและขนทัพนักแสดงชื่อดังมาปรากฏในโฆษณาอีกด้วย  ไม่ว่าจะเป็น “อเมซอน” (Amazon) ใช้คู่รักนักแสดงอย่าง “สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน” (Scarlett Johansson) และ “โคลิน โจสท์” (Colin Jost) มาโฆษณา “Alexa” ผู้ช่วยอัจฉริยะของอเมซอน ขณะที่ “อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์” (Arnold Schwarzenegger) และ “ซัลมา ฆาเยก” (Salma Hayek) รับบท “ซุส” และ “เฮร่า” คู่รักเทพเจ้าที่ใหญ่ที่ของเทพเจ้ากรีก ในโฆษณารถยนต์ “BMW” 

 

ส่วน “ลินด์ซีย์ โลแฮน” (Lindsay Lohan) กลับมาทวงบัลลังก์เจ้าแม่คอมเมดี้ในโฆษณาสถานที่ออกกำลังกาย “Planet Fitness” ซึ่งมีนักแสดงมาร่วมเล่นโฆษณานี้ด้วยอีกคับคั่งอาทิ “เดนนิส ร็อดแมน” (Dennis Rodman), “แดนนี่ เทรโจ” (Danny Trejo), “วิลเลียม แชตเนอร์” (William Shatner) และ “บัซซี โคเฮน” (Buzzy Cohen)

 

ในส่วนของนักแสดงในจักรวาลมาร์เวลนอกจากโจแฮนส์สันกับสามีที่มาปรากฏตัวในโฆษณาระหว่างเกมซูเปอร์ โบวล์แล้ว ยังมี “เซ็นเดยา” (Zendaya) ผู้รับบทหวานใจของสไปเดอร์แมน ได้เล่นโฆษณา “Squarespace” บริษัทสร้างเว็บไซต์ กำกับโดย “เอ็ดการ์ ไรท์” (Edgar Wright) คนเขียนบท “แอนท์-แมน” และผู้กำกับ “จี้ เบบี้ ปล้น” (Baby Driver) อีกทั้งยังมี “พอล รัดด์” (Paul Rudd) ผู้รับบท “แอนท์-แมน” และ “เซธ โรเกน” (Seth Rogen) นักแสดงตลกชื่อดัง ในโฆษณา มันฝรั่งทอดกรอบ “เลย์” และยังมี “บรี ลาร์สัน” (Brie Larson) ผู้รับบท “กัปตันมาร์เวล” ในโฆษณารถยนต์ “นิสสัน

 

นอกจากนี้ ยังมีโฆษณาของแบรนด์ดัง ๆ อีก อาทิ บริการส่งอาหารดิลิเวอรี “Uber Eat”, มายองเนสยี่ห้อ “Hellmann’s”, ไฟแช็คและอุปกรณ์จุดไฟ “Bic” ส่วนขาประจำของโฆษณาซูเปอร์ โบวล์ปีนี้ก็ไม่พลาดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ฟาร์มม้า “Budweiser Clydesdale”, เครื่องดื่มเบียร์ “Busch Light” และ เครื่องดื่ม “Bud Light Seltzer Hard Soda” 

ขณะที่ “ทาโก เบลล์” ร้านอาหารเม็กซิกัน ก็กลับมาซื้อเวลาโฆษณาในช่วงซูเปอร์ โบวล์อีกครั้งในรอบ 5 ปี โดยในคราวนี้มี “โดจา แคท” (Doja Cat) นักร้องสาวที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ มาเล่นโฆษณาให้ และยังเป็นครั้งแรกที่มีบริษัทคริปโทเคอร์เรนซีอย่าง Crypto.com และ FTX.com ซื้อโฆษณาในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย

สตูดิโอภาพยนตร์ต่างเลือกปล่อยเทรลเลอร์และทีเซอร์ ของภาพยนตร์ ซีรีส์เรื่องใหม่ในช่วงซูเปอร์ โบวล์ด้วยเช่นกัน  ไม่ว่าจะเป็น “อเมซอน ไพร์ม” (Amazon Prime) ปล่อยทีเซอร์ของซีรีส์ฟอร์มยักษ์ “The Lord of the Rings: The Rings of Power” ซึ่งเป็นเรื่องราวในจักรวาลมิดเดิล เอิร์ธ ก่อนภาพยนตร์ชุด “The Lord of the Rings

 

ส่วน “เน็ตฟลิกซ์” (Netflix) จัดมาเป็นภาพรวมของภาพยนตร์ที่น่าดูในเน็ตฟลิกซ์ประจำปีนี้ โดยมีหลากหลายแนว และมีนักแสดงชั้นนำมาร่วมแสดงอย่างคับคั่ง อาทิ “ไรอัน เรย์โนลด์ส” (Ryan Reynolds) ในภาพยนตร์ไซไฟ “The Adam Project”, “ไรอัน กอสลิง” (Ryan Gosling) และ “คริส อีแวนส์” (Chris Evans) ใน ภาพยนตร์แนวสายลับ “The Gray Man”, “เจมี ฟ็อกซ์” (Jamie Foxx) ใน ภาพยนตร์แอคชั่นสุดระทึก “Day Shift”, “คริส เฮมส์เวิร์ธ” (Chris Hemsworth) ในภาพยนตร์ไซไฟ เอาชีวิตรอด “Spiderhead”, “เจนนิเฟอร์ โลเปซ” กับการพลิกบทบาทครั้งสำคัญใน “The Mother” และภาคต่อของภาพยนตร์สืบสวนสอบสวนสุดฮิตอย่าง “Knives Out 2

 

มาร์เวล สตูดิโอส์” (Marvel Studios) ที่ปล่อยเทรลเลอร์ตัวใหม่ของหมอแปลก หลังจากที่ไปช่วยสไปเดอร์แมนแก้ไขปัญหา “Spiderman: Far For Home” แล้ว คราวนี้ถึงคราวที่ตนเองจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำลงไปบ้างใน “Doctor Strange in the Multiverse of Madness” นอกจากนี้มาร์เวล ยังปล่อยทีเซอร์ของซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่อย่าง “Moonlight” ที่จะเข้าฉายใน “Disney Plus” วันที่ 30 มี.ค. อีกด้วย

 

ทางด้าน “ดีซี คอมมิคส์” (DC Comics) ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกันออกเป็นภาพรวมหนังที่จะเข้าฉายในปีนี้ทั้งหมด 4 เรื่อง คือ “The Batman” เวอร์ชันของ “โรเบิร์ต แพตตินสัน” (Robert Pattinson), “Black Adam” วายร้ายคู่ปรับตลอดกาลของ SHAZAM, “The Flash” ที่จะมาทำให้จักรวาลดีซีปั่นป่วนอีกครั้ง และ “Aquaman and the Lost Kingdom” ภาคต่อของอควาแมน 

 

นอกจากนี้ ยังมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องอื่น ๆ ที่ปล่อยเทรลเลอร์ในช่วงการแข่งขันซูเปอร์ โบวล์อีก ไม่ว่าจะเป็น “Jurassic World: Dominion” บทสรุปไตรภาคของภาพยนตร์ไดโนเสาร์, “NOPE” ภาพยนตร์เขย่าขวัญเรื่องใหม่ของผู้กำกับ Get Out, “Sonic the Hedgehog 2” ภาคต่อของเกมสุดฮิต และ “The Lost City” ภาพยนตร์แนวตลกผจญภัยของ “แซนดรา บุลล็อก” (Sandra Bullock) และ “แชนนิง เททัม” (Channing Tatum)

 

จากข้อมูลของ Superbowl-Ads เว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลโฆษณาในช่วงการถ่ายทอดการแข่งขันซูเปอร์ โบวล์ พบว่าราคาโฆษณามีมูลค่าสูงขึ้นทุกปี จากการแข่งขันครั้งแรกในปี 2510 ด้วยราคาขายเพียง 37,500 - 42,500 ดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับสถานีโทรทัศน์ที่ออกอากาศ ก่อนที่จะมีการปรับราคาขึ้นอย่างเนื่องในทุกปี จนพุ่งมาถึง 6.5 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน โดยเพิ่มขึ้นถึง 900,000 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับราคาโฆษณาในปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 5.6 ล้านดอลลาร์

ซูเปอร์ โบวล์ เป็นการแข่งขันชิงแชมป์อเมริกันฟุตบอลอาชีพประจำปีของ “เอ็นเอฟแอล” (NFL: National Football League) ระหว่างทีมผู้ชนะเลิศของ สาย “เอ็นเอฟซี” (NFC: National Football Conference) และ สาย “เอเอฟซี” (AFC: American Football Conference) มักจะจัดขึ้นวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนม.ค. หรือวันอาทิตย์แรกของเดือนก.พ. ของทุกปี ถือว่าเป็นรายการโทรทัศน์ที่มีผู้รับชมการถ่ายทอดสดมากที่สุดในสหรัฐ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 21 เป็นต้นมามีผู้ชมอยู่ที่ระหว่าง 86-114 ล้านคน

สำหรับครั้งที่มีผู้ชมมากที่สุดคือการแข่งครั้งซูเปอร์ โบวล์ครั้งที่ 49 (Super Bowl XLIX) ระหว่าง New England Patriots กับ Seattle Seahawks และมี “เคที เพอร์รี” (Katy Perry) ขึ้นทำการแสดงในช่วงพักครึ่งการแข่งขัน โดยมีผู้ชมกว่า 114,442,000 คน จึงไม่แปลกใจว่าทำไมหลายแบรนด์จึงยอมจ่ายเงินในราคาสูงขนาดนี้ เพื่อแลกกับโฆษณาเพียงไม่กี่วินาที เพราะเป็นโอกาสเดียวที่จะทำให้คนเกือบครึ่งประเทศได้เห็นสินค้าของคุณ

 

ที่มา: Business Insider, CBS NewsComic BookNBC ChicagoVulture