Don’t Look Up เสียดสี แสบสันต์ เหมือนคนเขียนบทนั่งอยู่ในใจคนไทย

Don’t Look Up เสียดสี แสบสันต์ เหมือนคนเขียนบทนั่งอยู่ในใจคนไทย

วิเคราะห์เจาะลึก Don’t Look Up หนังที่กำลังเป็นกระแสพูดถึงกันว่า เสียดสีรัฐบาล และสถานการณ์ในบ้านเมืองเราตอนนี้ได้อย่างแสบสันต์เสียเหลือเกิน

บางคนดูหนังดูละครเพื่อพาตัวเองหลบลี้ออกจากความเป็นจริงไปสู่โลกที่มีแต่ความสุขสมหวัง สบายใจ ไม่เครียด

 

แต่บางคนก็ดูหนังดูละคร "เพื่อย้อนดูตัว" ยิ่งเรื่องไหนมีความใกล้ตัวมากเท่าไรก็จะยิ่งดูสนุก และอินกับมันมากขึ้น

เช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่อง Don’t Look UP ภาพยนตร์ทาง Netflix ที่กำลังมาแรงในบ้านเราขณะนี้ ด้วยพล็อตที่เย้ยหยัน เสียดสีพฤติกรรมของมนุษย์ในโลกปัจจุบันได้อย่างแสนสันต์ ทว่าพล็อตที่เป็นสากลของหนังเรื่องนี้กลับเข้ากันได้ดีเหลือเกินกับสถานการณ์ที่กำลังเป็นอยู่ในบ้านเรา

 

ชนิดที่ดูแล้วต้องอดอุทานออกมาไม่ได้ว่า “นี่มันหนังจิกกัด สะท้อนความเป็นจริงในบ้านเราเมืองเราชัดๆ คนเขียนบทมานั่งอยู่ในใจคนไทยหรืออย่างไรกัน”

 

Don’t Look Up เสียดสี แสบสันต์ เหมือนคนเขียนบทนั่งอยู่ในใจคนไทย

DON’T LOOK UP เขียนบทและกำกับโดยผู้กำกับรางวัลออสการ์ อดัม แมคเคย์ จาก The Big Short เกมฉวยโอกาสรวย

 

นำแสดงโดยนักแสดงฝีมือระดับพระกาฬทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ, เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์, เมอรีล สตรีพ, เคต แบลนเชตต์, มาร์ก ไรแลนซ์, โจนาห์ ฮิลล์ รวมไปถึงรุ่นเล็กอย่าง ทิโมธี ชาลาเมต์ ร่วมด้วยนักร้องสาวเสียงสวรรค์ อารีอานา กรานเด ซึ่งบทเพลงที่เธอร้องทำหน้าที่ได้ดีเหลือเกินในหนัง

 

Don’t Look Up เสียดสี แสบสันต์ เหมือนคนเขียนบทนั่งอยู่ในใจคนไทย Don’t Look Up เสียดสี แสบสันต์ เหมือนคนเขียนบทนั่งอยู่ในใจคนไทย Don’t Look Up เสียดสี แสบสันต์ เหมือนคนเขียนบทนั่งอยู่ในใจคนไทย

 

DON’T LOOK UP ออนแอร์ทาง Netflix ไปตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่หนังเรื่องนี้ยังคงได้รับการพูดถึงอย่างต่อเนื่องในไทยมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเรื่องย่อของหนังมีอยู่ว่า

 

เคท ดิบิแอสกี้ (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) นักศึกษาวิชาดาราศาสตร์ระดับปริญญาเอก และอาจารย์ของเธอ ดร. แรนดัลล์ มินดี้ (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) ค้นพบว่าดาวหางซึ่งมีขนาดใหญ่พอๆ กับยอดเขาเอเวอเรสต์ กำลังจะพุ่งชนโลกภายในเวลาเพียงแค่ 6 เดือน

 

ทว่าทั้งๆ ที่หายนภัยระดับที่ทำให้มวลมนุษยชาติ และสิ่งมีชีวิตต้องสูญพันธุ์กันทั้งโลกกำลังจะเกิดขึ้น แต่กลับไม่มีใครสนใจเรื่องนี้เลย เพราะมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องของตัวเอง นักการเมืองสนใจแต่เรื่องหาเสียง นักธุรกิจก็เอาแต่หาผลประโยชน์ ในขณะที่ประชาชนก็สนใจแต่ข่าวนักร้องเลิกกัน

 

เคทและแรนดัลล์พยายามจะนำเรื่องนี้ไปแจ้งกับรัฐบาล แต่ปรากฎว่าไม่มีใครสนใจเลยแม้แต่น้อย แถมยังถูกมองเป็นตัวตลก ถูกเย้ยหยันดูแคลนต่างๆ นานา ทั้งจากประธานาธิบดีออร์ลีน (เมริล สตรีพ) และลูกชาย (โจนาห์ ฮิลล์) ผู้มีตำแหน่งเป็นถึงเสนาธิการทำเนียบขาว เพราะทั้งคู่มัวแต่สนใจการเลือกตั้งกลางเทอมที่กำลังจะมีขึ้น

 

พอจะหันไปพึ่งพาสื่อ ก็เจอเข้ากับสื่อที่จะทำเฉพาะข่าวที่เรตติ้งดี ไม่ก็รายการข่าวเช้าซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องกอสซิป ใครรักกันเลิกกันมากกว่า แถมพิธีกรยังพยายามทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องตลกไปเสียหมด ไม่ว่าเรื่องนั้นจะคอขาดบาดตายแค่ไหนก็ตาม

 

 

  • ต่อให้โลกกำลังจะแตกก็อย่าไปมองมัน

ฉากที่ดูแล้วสะท้านสะเทือน เจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างมากก็คือเรื่องที่ “ข้อเท็จจริง” ถูกบิดเบือนจนกลายเป็น “เรื่องไม่จริง” ไปซะอย่างนั้น

 

เรื่องดาวหางกำลังจะพุ่งเข้าชนโลกกลับถูกบิดเบือนอย่างเป็นระบบ ทำกันเป็นกระบวนการ (แม้แต่คนของนาซ่าที่อยู่ฝ่ายรัฐบาลก็ยังออกมาปล่อยเฟคนิวส์) จนประชาชนเริ่มไม่แน่ใจกันแล้วว่าตกลงดาวหางดังกล่าวมีจริงหรือไม่จริง

 

เท่านั้นไม่พอ คนในสังคมเองก็ยึดมั่นถือมั่นในอุดมการณ์ อัตตาตัวตน หรือความเชื่อที่ฝังหัวมานานชนิดที่ว่า “ความจริง” มาปรากฎให้เห็นอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่อุดมการณ์หรือ “ลัทธิบูชาตัวบุคคล” ก็ทำให้พวกเขามองข้ามมันไปเสียอย่างงั้น

 

หนังสะท้อนเรื่องนี้ออกมาในฉากที่ดาวหางโคจรเข้ามาใกล้โลกจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแล้ว แต่รัฐบาล (นำโดยลูกชายประธานาธิบดี) ก็ยังชวนคนตะโกนคำขวัญต่อต้านว่า Don’t Look UP อย่าเงยหน้าขึ้นไปมองมันซะอย่างงั้น (เพราะถ้ามองแล้วจะเห็นความจริง)

 

Don’t Look Up เสียดสี แสบสันต์ เหมือนคนเขียนบทนั่งอยู่ในใจคนไทย Don’t Look Up เสียดสี แสบสันต์ เหมือนคนเขียนบทนั่งอยู่ในใจคนไทย

  • เพลงของ “อารีอานา กรานเด” คือที่สุด

ใครที่ไม่ใช่คอเพลงอาจไม่รู้ว่า “อารีอานา กรานเด” ผู้รับบท “ไรลีย์ บินา” นักร้องสาวคนดังที่เลิกกับแฟนจนเป็นข่าวดังครึกโครมในหนัง ตัวจริงเธอก็เป็นนักร้องดังระดับซูเปอร์สตาร์เช่นกัน แต่ต่างกันตรงที่ว่าเธอไม่ได้สวยใสไร้สมองเหมือนในหนัง แต่อารีอานาเป็นนักร้องวัยรุ่นที่สนใจปัญหาสังคม ออกมาคอลเอาท์แสดงจุดยืน รวมถึงเข้าร่วมการประท้วงอยู่บ่อยครั้ง

 

Don’t Look Up เสียดสี แสบสันต์ เหมือนคนเขียนบทนั่งอยู่ในใจคนไทย

 

ส่วนใน Don’t Look Up ถึงแม้ว่าจะไม่เยอะ แต่บทของเธออิมแพ็คมาก โดยเฉพาะฉากร้องเพลง Just Look Up บนเวที ไรลีย์ใช้เสียงหวานๆ ของเธอร้องเพลงช้าที่ฟังดูเผินๆ เหมือนเพลงรัก แต่พอตั้งใจฟังเนื้อเพลงแล้วเล่นเอาสะดุ้งไปหลายตลบ เพราะมันจิกกัดได้แสบสันต์จริงๆ

 

“ช่วยออกจากกะลาซักทีได้ไหม เชื่อนักวิทยาศาสตร์บ้างมันจะตายรึไง

ฉิบหายตายห่ากันหมดแล้ว รอบนี้พลาดโง่ๆ จริงๆ

ต่อให้ทำเหมือนทุกอย่างปกติดี แต่คราวนี้เจอของจริงไม่จกตาละนะ

จะฉลอง ร้องไห้ สวดมนต์ข้ามปีก็ตามใจ

เอาไงก็เอาเถอะ ให้ผ่านความฉิบหายไปได้

เพราะเราอาจไม่มีอนาคตต่อไป

แค่เงยหน้า เลิกติดตามช่องเฟคนิวส์ เพราะเราจะตายกันหมดแล้ว”

 

 

  • ฉากจบสะใจ ไม่มีแผ่วจนวินาทีสุดท้าย

ระหว่างที่นั่งดูไปเรื่อยๆ ก็เกิดคำถามขึ้นในใจว่าแล้วหนังเรื่องนี้จะจบแบบไหนกันนะ ซึ่งคงต้องให้ไปดูกันเอาเอง แต่บอกได้อย่างเดียวว่าสะใจแน่นอน เพราะคนเขียนบทไม่มีแผ่ว ตามเสียดสีจิกกัดไม่เลิกราไปจนนาทีสุดท้าย เรียกว่าต้องดูจน End Credit จบก็ยังจะมีซีนมาให้ได้ฮากันส่งท้าย

 

Don't Look Up ได้รับเลือกจาก National Board of Review และ American Film Institute ติดหนึ่งในสิบหนังที่ดีที่สุดของปี 2021 แล้วยังได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 4 สาขา รวมถึงสาขาใหญ่อย่าง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทเพลง/ตลก

 

ส่วนเวที Critics' Choice Awards ก็ได้เข้าชิงถึง 6 สาขา รวมถึง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) เช่นกัน

 

ขณะที่ Netflix รายงานว่าหนังเรื่องนี้ได้สร้างสถิติใหม่เป็นคอนเทนต์ที่มียอดเข้าชมมากที่สุดใน 1 สัปดาห์ นั่นทำให้ Don't Look Up กลายเป็นภาพยนตร์ของเน็ตฟลิกซ์ที่มียอดเข้าชมสูงสุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของบริษัทเลยทีเดียว

 

Don’t Look Up เสียดสี แสบสันต์ เหมือนคนเขียนบทนั่งอยู่ในใจคนไทย

Don’t Look Up เสียดสี แสบสันต์ เหมือนคนเขียนบทนั่งอยู่ในใจคนไทย Don’t Look Up เสียดสี แสบสันต์ เหมือนคนเขียนบทนั่งอยู่ในใจคนไทย Don’t Look Up เสียดสี แสบสันต์ เหมือนคนเขียนบทนั่งอยู่ในใจคนไทย