ภาพยนตร์เรื่องโปรดของ “บารัก โอบามา” ปี 2021

ภาพยนตร์เรื่องโปรดของ “บารัก โอบามา” ปี 2021

ชวนสำรวจรสนิยมการดูภาพยนตร์ของ “บารัก โอบามา” ว่าในปี 2021 นี้ ซึ่งหนังเรื่องโปรดของเขามีทั้งหนังขาวดำ หนังเพลง หนังรักโรแมนติก หนังคาวบอย หนังสงคราม หนังสารคดี หนังภาษาต่างประเทศ ที่ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์อย่างล้นหลาม

อดีตประธานาธิบดี บารัก โอบามา แห่งสหรัฐ เป็นคอหนัง คอซีรีส์ และคอหนังสือตัวยง ล่าสุดเขาได้เปิดเผยรายชื่อภาพยนตร์เรื่องโปรดของตัวเองประจำปี 2021 ที่แสดงให้เห็นถึงรสนิยมการเสพความบันเทิงอันหลากหลาย เพราะในลิสต์นั้นมีทั้งหนังภาษาต่างประเทศ หนังสารคดี หนังคาวบอย หนังเพลง และหนังขาวดำที่ควรค่าแต่การไปหามาดูตามรอยอดีตท่านผู้นำยิ่งนัก

โอบามาบอกว่าหนังเหล่านี้ที่เขาเลือกมาต่างบอกเล่าเรื่องราวอันทรงพลัง และเขาหวังว่าคนอื่นๆ จะสนุกกับภาพยนตร์เหล่านี้เหมือนกับที่เขาเป็น

 

สำหรับภาพยนตร์เรื่องโปรดที่โอบามาเลือกมามีทั้งหมด 14 เรื่อง ดังต่อไปนี้ (หมายเหตุ : ไม่ได้เรียงลำดับความชอบ)

 

ภาพยนตร์เรื่องโปรดของ “บารัก โอบามา” ปี 2021

ภาพยนตร์เรื่องโปรดของ “บารัก โอบามา” ปี 2021

 

 

  • “Summer of Soul”

ภาพยนตร์สารคดีอเมริกันเกี่ยวกับเทศกาล Harlem Cultural Festival ในปี 1969ของผู้กำกับ Ahmir "Questlove" Thompson หนังเรื่องนี้ได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมากในเรื่องการหยิบเอาฟุตเตจเก่าของเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ของคนผิวดำมาสอดแทรกเข้าไป ตัดสลับกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเทศกาลนี้ซึ่งจัดขึ้นในย่านฮาร์เล็ม เป็นเวลายาวนานถึง 6 สัปดาห์

 

ถึงแม้ว่า Harlem Cultural Festival จะเป็นเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมหาศาล และยังมีศิลปินชื่อดังตบเท้าเข้าร่วมแสดงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Stevie Wonder, Mahalia Jackson, Nina Simone, The 5th Dimension, The Staple Singers, Gladys Knight & the Pips, Blinky Williams, Sly and the Family Stone และ Chambers Brothers แต่น่าแปลกที่ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลนี้ไม่เป็นที่แพร่หลายสมกับความยิ่งใหญ่ของตัวงาน

 

เมื่อผู้กำกับ Questlove ลุกขึ้นมาทำสารคดีเกี่ยวกับเทศกาลนี้ พร้อมนำฟุตเตจอันทรงคุณค่าและหาชมได้อยากมาให้ดูกัน จึงได้รับคำชมเป็นอย่างมาก

 

 

  • “West Side Story”

ภาพยนตร์เพลง (Musical movie) เรื่องแรกของ “สตีเวน สปีลเบิร์ก” ที่เกิดจากความชอบ ความหลงใหลส่วนตัวที่มีต่อละครบรอดเวย์เรื่องดังในตำนาน สปีลเบิร์กจึงหยิบยกเรื่องนี้มาสร้างเป็นหนังโดยที่ยังคงความเคารพต้นฉบับของ West Side Story ฉบับละครเวทีเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม แต่ขณะเดียวกันเขาก็ใส่ความเป็นตัวของตัวเองลงไป และปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องบางส่วนให้ทันสมัยยิ่งขึ้น

 

ข่าวดีคือ West Side Story กำลังลงโรงฉายในบ้านเรา สามารถรับชมได้ในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านคุณ

 

 

  • “The Power of the Dog”

หนังคาวบอยที่เขียนบทและกำกับโดย Jane Campion อ้างอิงจากนิยายชื่อเดียวกันของนักเขียน Thomas Savage นำแสดงโดย Benedict Cumberbatch, Kirsten Dunst, Jesse Plemons, Kodi Smit-McPhee

 

หนังเรื่องนี้เป็นการร่วมทุนสร้างระหว่างประเทศ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ในเรื่องของการกำกับ บทภาพยนตร์ ตลอดจนเพลงประกอบ และฝีมือของเหล่านักแสดง จนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดประจำปี 2021 โดย American Film Institute

 

สามารถรับชมได้ทาง Netflix

 

  • “Pig”

หนังอเมริกันแนวดราม่า ผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของ Michael Sarnoski นำแสดงโดย นิโคลาส เคจ ที่ได้รับเสียงชื่นชมว่าอาจเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ดีที่สุดในชีวิตการแสดงของเขา

 

Pig เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคนหาเห็ดที่หมูซึ่งใช้ในการหาเห็ดทรัฟเฟิลของเขาถูกขโมยไป หนังเรื่องนี้ได้รับเสียงชื่นชมเรื่องการกำกับ และการแสดงของเคจที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Critics' Choice Awards ครั้งที่ 27 ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมด้วย

 

 

  • “Passing”

หนังขาวดำ ผลงานการกำกับภาพยนตร์สารคดีเรื่องแรกของ Rebecca Hall สร้างจากนิยายปี 1929 ของนักเขียนชื่อ Nella Larsen เป็นเรื่องเกี่ยวกับชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่สีผิวขาวจนถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนขาวได้เลย โดยคนกลุ่มนี้จะมีศัพท์เรียกว่า "passing"

 

นำแสดงโดย Tessa Thompson, Ruth Negga, André Holland, Bill Camp, Gbenga Akinnagbe, Antoinette Crowe-Legacy และ Alexander Skarsgård

 

ติดอันดับ 1 ใน 10 หนังที่ดีที่สุดประจำปี 2021 โดย African American Film Critics Association ขณะที่ Negga ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม

สามารถรับชมได้ทาง Netflix

 

 

  • “The Card Counter”

หนัง crime film สัญชาติอเมริกันที่เขียนบทและกำกับการแสดงโดย Paul Schrader นำแสดงโดย Oscar Isaac, Tiffany Haddish, Tye Sheridan, Willem Dafoe โดยมี มาร์ติน สกอร์เซซี เป็น Executive Producer

 

หนังพูดถึง วิลเลียม เทลล์ (ออสการ์ ไอแซค) นักพนันผู้โดดเดี่ยวที่เรียนรู้การจดจำไพ่ทุกใบในสำรับมาตอนที่ติดคุกทหารอยู่นานหลายปี พอออกจากคุกจึงนำความสามารถนี้มาใช้เล่นพนันแบล็คแจ็คในคาสิโน แต่เทลล์มีกฎประจำตัวอยู่ว่าจะไม่ทำตัวโดดเด่นจนเป็นที่จับตา จึงเล่นพนันแค่พอชนะเงินไม่มากแล้วก็เลิก

 

นอกจากนี้เทลล์ยังไม่พักที่ไหนเป็นประจำ แต่จะย้ายโรงแรมไปเรื่อยๆ แถมยังมีนิสัยประหลาด ต้องเอาผ้าสีขาวคลุมเตียง โต๊ะ เก้าอี้ทุกตัวในโรงแรมที่เข้าพัก

 

แต่แล้ววันหนึ่งมีคนมาเล่าอดีตสมัยที่เขายังเป็นทหารอยู่ให้ฟัง เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นความจริงหรือไม่ เทลล์จะรับมือกับเหตุการณ์นี้อย่างไร ต้องไปติดตามชมในหนังที่ Paul Schrader กำกับและเขียนบทได้อย่างสนุกและน่าติดตาม

 

 

  • “Judas and the Black Messiah”

หนังอเมริกันพูดถึงชีวประวัติของ Fred Hampton ประธานพรรค Black Panther Party สาขาอิลลินอยส์ ในช่วงปลายยุค 1960 ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 93 มากถึง 6 สาขา และคว้าไปครองได้ 2 สาขา คือ นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Kaluuya) และเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Fight for You)

 

นอกจากนี้ Kaluuya ยังไปกวาดรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมมาครองอีกหลายเวที ทั้งลูกโลกทองคำ, Critics' Choice Awards, Screen Actors Guild Awards และ BAFTA Awards

 

 

  • “Old Henry”

หนังอเมริกันคาวบอยต้นทุนต่ำ เขียนบทและกำกับโดย Potsy Ponciroli นำแสดงโดย Tim Blake Nelson ผู้รับบทคาวบอยที่อาศัยอยู่กับลูกชายในพื้นที่ห่างไกล วันหนึ่งเขาไปเจอคนได้รับบาดเจ็บพร้อมกระสอบใส่เงินสดมาเต็ม หลังจากนั้นก็มีคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายมาตามหาเงินดังกล่าว

 

เฮนรี่จะเชื่อใจใครดี แต่แล้วระหว่างที่ต้องป้องกันตัวเองและลูกชายจากสถานการณ์ดังกล่าว เฮนรี่ก็เผยให้เห็นทักษะการยิงปืนที่เก่งกาจจนทุกคนต้องทึ่ง และพากันสงสัยว่าจริงๆ แล้วชายผู้นี้เป็นใครกันแน่

 

Old Henry ได้รับเลือกจาก The National Board of Review ให้เป็นหนึ่งในสิบหนังอิสระยอดเยี่ยม (Top Ten Independent Films) ประจำปีนี้

 

 

  • “The Last Duel”

หนังมหากาพย์ประวัติศาสตร์ผลงานการกำกับของ Ridley Scott เขียนบทโดย Nicole Holofcener, Ben Affleck และ Matt Damon โดยอิงจากหนังสือปี 2004 เรื่อง The Last Duel: A True Story of Trial by Combat in Medieval France ของ Eric Jager

 

หนังย้อนไปในยุคกลางของฝรั่งเศส เมื่ออัศวินชื่อ Jean de Carrouges (นำแสดงโดย แมทท์ เดมอน) ท้าให้เพื่อน Jacques Le Gris (อดัม ไดรเวอร์) มาดวลดาบตัดสินกันตัวต่อตัว หลังจากที่ภรรยาของเขา Marguerite (โจดี้ คัมเมอร์) กล่าวหา Jacques ว่าข่มขืนเธอ

 

หนังได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ที่นำเรื่องนี้ไปเปรียบกับ Rashomon หนังปี 1950 ของ Akira Kurosawa และยังได้รับเลือกจาก National Board of Review เป็นหนึ่งในสิบหนังยอดเยี่ยมประจำปี 2021 แต่กลับทำรายได้ไปเพียง 30.2 ล้านดอลลาร์ จากต้นทุน 100 ล้านดอลลาร์

 

 

  • “The Tragedy of Macbeth”

หนังอเมริกันดรามาที่เขียนบทและกำกับโดย Joel Coen จากเค้าโครงของบทละครเรื่อง Macbeth ของวิลเลียม เชคสเปียร์ นำแสดงโดยดาราเจ้าบทบาทเจ้าของรางวัลออสการ์ แดนเซล วอชิงตัน และ ฟรานเซส แมคดอร์มานด์

 

ได้รับเสียงชื่นชมเรื่องการกำกับ (ถือเป็นหนังเรื่องแรกที่สองพี่น้อง Coen ไม่ได้กำกับร่วมกัน) การแสดงของแดนเซล และฟรานเซสที่เชื่อขนมกินได้ ตลอดจนการออกแบบเครื่องแต่งกาย และการถ่ายภาพออกมาได้อย่างงดงาม

 

 

  • “C’mon, C’mon”

หนังขาวดำสัญชาติอเมริกัน เขียนบทและกำกับโดย Mike Mills นำแสดงโดย Joaquin Phoenix, Gaby Hoffmann, Scoot McNairy, Molly Webster, Jaboukie Young-White, Woody Norman

 

เป็นหนังเกี่ยวกับ จอห์นนี่ นักข่าวสถานีวิทยุที่ต้องเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อสัมภาษณ์เด็กๆ ถึงชีวิตความเป็นอยู่ และการมองอนาคตของพวกเขา แล้วจู่ ๆ จอห์นนี่ก็ได้รับโทรศัพท์จากพี่สาว Viv ให้ไปช่วยดูแลลูกชายวัย 9 ขวบของเธอที่ชื่อว่า Jesse ให้หน่อยระหว่างที่เธอไม่อยู่ แล้วสายสัมพันธ์ของลุงที่ไม่ค่อยชอบพูดถึงชีวิตส่วนตัว กับหลานชายที่มีบุคคลิกประหลาดๆ ก็เกิดขึ้น กลายเป็นความจับใจของคนที่ได้ดู

 

 

หนังต่างประเทศ

  • “Drive My Car”

ผลงานของผู้กำกับ Ryusuke Hamaguchi ที่ถูกมองว่าเป็นความหวังใหม่ของวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่นในปัจจุบัน ได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากหลายเวที เพราะมีการนำเรื่องสั้นของ “ฮารูกิ มูราคามิ” ที่มีความยาวเพียง 50 หน้า มาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ความยาวเกือบ 3 ชั่วโมงได้อย่างแยบยล ลึกซึ้ง

 

ข่าวดีคือหนังเรื่องนี้ยังหาดูได้ในโรงภาพยนตร์บ้านเรา ลองไปเช็ครอบดูที่ House Samyan และ Doc Club&Pub

 

 

  • “The Worst Person in the World”

หนังโรแมนติกคอมเมดี้ของผู้กำกับชาวนอร์เวย์ Joachim Trier ที่ได้เข้าฉายที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ประจำปี 2021 โดยมี Renate Reinsve ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมไปครอง

 

หนังจะพาคุณไปสำรวจการค้นหาความรัก การแสวงหาความสุข และตัวตนของผู้หญิงยุคใหม่ ผ่านเรื่องราวของ Julie นักศึกษาแพทย์วัย 20 ในเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ ที่อยู่ดีๆ ก็เกิดเปลี่ยนใจ อยากไปเป็นตากล้องถ่ายภาพแทน

 

ชีวิตของ Julie ยิ่งยุ่งเหยิงมากขึ้นไปอีกเมื่อเธอเกิดไปสนใจผู้ชายอีกคนที่มีวัยใกล้เคียงกัน ทั้งที่มีแฟนที่อายุมากกว่า 15 ปีอยู่แล้ว นั่นเท่ากันว่านอกจากจะสับสนเรื่องอาชีพที่จะทำในอนาคตแล้ว เธอยังสับสนกับคนที่จะใช้ชีวิตร่วมกันต่อไปในอนาคตด้วย

 

ถึงแม้ว่าพล็อตหนังอาจจะดูกุ๊กกิ๊ก แต่ The Worst Person in the World กลับได้รับคำชมอย่างเลิศเลอจากเหล่านักวิจารณ์ภาพยนตร์ชื่อดัง อาทิ Peter Bradshaw จาก The Guardian ที่บอกว่าเป็นหนึ่งในหนังที่ดีที่สุดของเมือง Cannes และเป็นหนัง instant classic ขณะที่ Vanity Fair และ The Atlantic เลือกหนังเรื่องนี้เป็น Best Movie of 2021" กันเลยทีเดียว

 

 

  • “Quo Vadis, Aida?”

ปิดท้ายด้วยหนังเกี่ยวกับสงครามบอสเนียของ Jasmila Žbanić ที่รับหน้าที่ทั้งโปรดิวซ์ เขียนบท และกำกับด้วยตัวเอง

 

หนังพูดถึง Aida Selmanagić อดีตครูที่ทำหน้าที่ล่ามให้กับยูเอ็นในปี 1995 ซึ่งพยายามที่จะรักษาชีวิตของครอบครัวจากเหตุการณ์กองทัพ Army of Republika Srpska บุกเข้ายึดเมือง Srebrenica ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ในเมืองตามมา