เข้าใจ “Gen Z” ผ่านเทรนด์สี เมื่อการคุมโทนและ "SafeZone" คือเรื่องเดียวกัน

เข้าใจ “Gen Z” ผ่านเทรนด์สี เมื่อการคุมโทนและ "SafeZone" คือเรื่องเดียวกัน

ทำไมคน Gen Z ถึงชอบการคุมโทนสี? ทั้งการใช้สีแต่งห้อง แต่งรูปไอจี ลามไปจนถึงการเลือกร้านคาเฟ่ที่มีสีคุมโทน ชวนหาคำตอบว่าทำไมโลกธุรกิจต้องรู้ว่าคน Gen Z ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร?

‘ลงรูปนี้ไม่ได้ เดี๋ยวไอจีไม่คุมโทน’

‘คาเฟ่นี้น่าไปจัง จัดร้านแบบคุมโทน’

ต้องยอมรับว่าปัจจุบันวัฒนธรรมกินดื่มเที่ยวของคนรุ่นใหม่ เน้นเสพบรรยากาศ และการตกแต่งที่โดนใจ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเลือกใช้บริการ มากกว่าจะตัดสินจากรสชาติอาหารของร้านนั้นๆ เหมือนสมัยก่อน 

Cafe Hopping, travel vibe หรือแม้แต่การจัดวาง instargram ก็ล้วนมีสไตล์ที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะการ “คุมโทนสีภาพ” ให้ไปทิศทางเดียวกัน กำลังกลายเป็นเทรนด์ฮิตของผู้คนยุคนี้ราวกลับโดนต้องมนต์

เข้าใจ “Gen Z” ผ่านเทรนด์สี ความคลีน ความสบายตา ของสิ่งที่เรียกว่าการ "คุมโทน" กลายเป็นสิ่งที่โลกธุรกิจได้หยิบยกเอามาทำการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายโดยเฉพาะการตลาดที่ต้องการจับกลุ่ม Gen Z 

แล้วทำไมคน Gen Z ถึงชอบการคุมโทน? คำตอบคือก็เพราะว่าคน Generation นี้ได้กลายเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ของโลกยุคปัจจุบันแล้ว โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน และกำลังจะกลายเป็นคนกลุ่มหลักที่ขับเคลื่อนสังคมในอีกไม่นาน

 

  • ทำไมโลกธุรกิจต้องทำความเข้าใจ Gen Z

ก่อนเข้าเรื่องการคุมโทน เรามาทำความรู้จักกับ  Generation Z  ก่อน (อ่านว่าเจเนอเรชั่น ซี) กลุ่มประชากรนี้คือกลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี 1996 - 2012 หากนับจากปี ศ.ค.ปัจจุบัน 2021 จะมีอายุเฉลี่ยระหว่าง 9 - 25 ปี

ก่อนหน้านี้ทุกคนอาจจะคิดว่า Gen Y หรือกลุ่มคนที่มีอายุตั้งแต่ 26 - 40 ปี คือผู้กุมชะตาโลก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เป็นวัยทำงานเต็มตัว และถือเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ที่สุดในโลก แต่ในปี 2021 นี้ Generation ที่มีขนาดประชากรใหญ่ไม่แพ้กัน คือ “Gen Z” ที่มีจำนวนมากถึง 1 ใน 3 ของประชากรโลกกว่า 7,000 ล้านคน ยิ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค (APAC) ที่เป็นภูมิภาคที่ประชากรและเศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็วนั้น มีกำลังหลักในการขับเคลื่อนประเทศคือ “Gen Z”   

ดังนั้นกลุ่มคน Gen Z จึงเป็นเจเนอเรชั่นที่มีความสำคัญ มีอิทธิพลต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก

สำหรับประเทศไทยมีประชากร Gen Z ประมาณ 30% และถึงแม้จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว แต่ Gen Z ก็จะมีบทบาทในการชี้นำและเลือกสินค้าให้กับผู้สูงอายุ

 

 

  • Gen Z กับการมีพื้นที่ Safe Zone

ลักาณะทั่วไปของกลุ่มคน Gen Z คือ พวกเขาเติบโตมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่อยู่แวดล้อมรอบตัว มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีต่างๆ และเรียนรู้ได้เร็ว แต่ขณะเดียวกันก็เป็นการเติบโตท่ามกลางความกดดันในสถานการณ์สังคมที่ยุ่งเหยิง

สอดคล้องกับโลกเทคโนโลยีและสื่อโซเชียลที่หมุนรอบตัวอย่างรวดเร็ว ยืนยันจากรายงาน ผลสรุปเทรนด์แห่งปี 2022  ที่จัดทำโดย ศูนย์สร้างสรรค์การออกแบบ (TCDC) ภายใต้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ได้สรุปว่า การที่ Gen Z เติบโตมากับเทคโนโลยีตั้งแต่เกิด ทำให้คน Gen นี้ให้ความสำคัญกับการมี Safe Zone มากกว่าคน Gen อื่นๆ

เข้าใจ “Gen Z” ผ่านเทรนด์สี เมื่อการคุมโทนและ \"SafeZone\" คือเรื่องเดียวกัน

Safe Zone ถูกนิยามว่าเป็น "พื้นที่แห่งความปลอดภัย" นอกเหนือจากความปลอดภัยทางด้านร่างกายและทรัพย์สินแล้ว ยังรวมถึงความปลอดภัยทางด้านจิตใจ หรือที่เรียกว่า “พื้นที่ปลอดภัยทางอารมณ์" ที่สามารถเป็นตัวเองได้เต็มที่อย่างมีความสุข โดยพื้นที่นั้นไม่จำเป็นต้องเป็นห้อง สถานที่ แต่อาจจะรวมถึงสิ่งของ หรือผู้คนได้เช่นกัน

นอกจากนี้การเกิดภาวะโรคระบาดโควิด-19 ทำให้ผู้คนทุก Generation เกิดความอ่อนไหว และไม่มั่นคงทางอารมณ์ตลอดเวลา เมื่อเทียบกับ Gen Z ที่เป็นกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมให้ความสำคัญกับพื้นที่ปลอดภัยทางอารมเป็นพิเศษ ยิ่งโหยหาและหวงแหน Safe Zone มากขึ้น

จากการสำรวจของ Youth trends : Bedroom and Home life ของ wgsn.com นักวิชาการต่างลงความเห็นว่า Gen Z ให้ความสำคัญกับห้องนอน (ที่นับเป็นพื้นที่ส่วนตัว Safe Zone) และแต่งห้องด้วยสไตล์เฉพาะตัว ที่เน้นการคุมโทนสีทั้งวัสดุและเฟอร์นิเจอร์

เข้าใจ “Gen Z” ผ่านเทรนด์สี เมื่อการคุมโทนและ \"SafeZone\" คือเรื่องเดียวกัน

  • การคุมโทน และ Safe Zone คือเรื่องเดียวกัน

‘สีห้อง’ สำคัญกว่าที่เราคิด ไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่มันยังสามารถส่งพลังถึงร่างกายและจิตใจของผู้อยู่อาศัยได้แบบไม่รู้ตัว ในอดีตพบว่ามีวัฒนธรรมโบราณของชาวอียิปต์และชาวจีน ที่ใช้สีต่างๆ มาบำบัดและรักษาผู้ป่วย

ส่วนในทางวิทยาศาสตร์ก็มีผลวิจัยหลายฉบับที่ตอกย้ำว่า สีสันสามารถส่งผลต่อมนุษย์ได้ในด้านจิตใจและอารมณ์

การคุมโทนสีห้องจึงเป็นหนึ่งในทฤษฎีสี ที่ส่งผลให้ผู้ที่อาศัยอยู่รู้สึกผ่อนคลาย สบายตา สบายใจ เมื่อได้เห็นพื้นที่เหล่านั้นเต็มไปด้วยสีที่เรากำหนด ก็จะรู้สึกพึงพอใจ และรู้สึกว่าบ้านน่าอยู่มากขึ้นหลายเท่า

โดยการเลือกโทนสีเพื่อตอบสนองการรับรู้หรือความรู้สึกนี้ เรียกกันว่า ‘การบำบัดด้วยสี’ (color therapy) เป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับมานานแล้วว่าเป็นการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม (ทั้งกายและใจ) โดยเน้นที่การเลือกสเปกตรัมของแสงหรือสี ที่มีผลต่ออารมณ์และสุขภาพร่างกายของเรา

เข้าใจ “Gen Z” ผ่านเทรนด์สี เมื่อการคุมโทนและ \"SafeZone\" คือเรื่องเดียวกัน

ดังนั้นแล้วเทรนด์การคุมโทนที่ฮิตในกลุ่ม Gen Z มันจึงทำหน้าที่ควบคู่กันระหว่างความสวยงามและการความผ่อนคลายในพื้นที่ Safe Zone อย่างเต็มที่ 

อีกทั้ง สิ่งที่ตอกย้ำว่า “การคุมโทน” และ “Safe Zone” เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคน Gen Z ก็คือ การที่แบรนด์ต่างๆ มีการปรับกลยุทธ์สร้างหน้าร้านให้มีลักษณะเป็นพื้นที่ปลอดภัย ด้วยการคุมโทนสี เช่น แบรนด์ Aesop ในออสเตรเลีย ออกแบบบรรยากาศภายในร้านให้รู้สึกว่าเมื่อเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้แล้ว จะเกิดความสงบและปลอดภัย (นิยามเดียวกับ Safe Zone ) โดยสามารถเพิ่มยอดขายในกลุ่มลูกค้าที่เป็น Gen z ได้มากขึ้นอย่างน่าประทับใจเลยทีเดียว

-------------------------------

อ้างอิง :  tcdc.or.th , workpointtoday.com , envato.com , ryt9.com , krungsri.com , dictionary.cambridge.org , alljitblog.com , wgsn.com , createtomorrowwgsn.com , i-d.vice.com , mckinsey.com , pintermedia.com , thematter.coverywellmind.com