รำลึก "สกาลา" ในความทรงจำ หลังเหลือแต่ซาก

รำลึก "สกาลา" ในความทรงจำ หลังเหลือแต่ซาก

“โรงหนังสกาลา" (SCALA) กำลังถูกทุบทิ้ง ส่อง 3 ความสำคัญของ "สกาลา" โรงหนังที่มีเอกลักษณ์ และเป็นความบันเทิงอยู่คู่กับสยามสแควร์มานานเกือบ 70 ปี

ถือเป็นการปิดตำนาน "โรงหนัง" สุดคลาสสิกของไทยอย่าง "สกาลา" (SCALA) อย่างเป็นทางการ ที่แม้จะประกาศยุติกิจการถาวรจากเจ้าของกิจการไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 แต่จากภาพซากอาคารที่ถูกรื้อทุบ ในวันที่ 1 พ.ย.64 ก็เป็นเหมือนการตอกย้ำว่า อาคารประวัติศาสตร์แห่งนี้จะไม่อยู่คู่สยามสแควร์แล้วจริงๆ 

โดยล่าสุดโซเชียลมีเดียเผยภาพ "โรงหนังสกาลา" กำลังถูกทุบทิ้งโดยรถแบคโฮ สร้างความน่าตกใจแก่กลุ่มคนรักสถาปัตยกรรม และคนที่มีความทรงจำเกี่ยวกับโรงหนังแห่งนี้ เนื่องจากสกาลาถือเป็นตำนานโรงหนังที่มีเอกลักษณ์และเป็นความบันเทิงอยู่คู่กับสยามสแควร์มานานกว่าครึ่งศตวรรษ

รำลึก \"สกาลา\" ในความทรงจำ หลังเหลือแต่ซาก ขอบคุณภาพจากทวิตเตอร์ @nantakwang

  • "สกาลา" ราชาโรงหนังแห่งสยาม

“โรงหนังในกรุงเทพฯ แห่งแรกที่เราเข้าไปดูหนัง จำได้ว่าเรื่อง paradise เสียดายที่ต้องปิดตัวลงไป เชื่อว่าที่นี่คือความทรงจำของคนชอบดูหนังหลายๆ คน ก็คงจะมีความประทับใจและความผูกพันมากมายที่โรงหนังแห่งนี้” นี่คือความรู้สึกของคอหนังคนหนึ่งที่ผูกพันกับโรงหนังแห่งนี้มานาน

โรงภาพยนตร์ "สกาลา" เป็นโรงภาพยนตร์ขนาด 904 ที่นั่ง เปิดฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2512 ด้วยภาพยนตร์เรื่อง สองสิงห์ตะลุยศึก ถือเป็นโรงภาพยนตร์ซีเนรามาที่สมบูรณ์ขั้นมาตรฐานโลกแห่งที่ 3 และยังคงความคลาสสิกเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์

มีจอขนาดใหญ่และเวทีอยู่บริเวณหน้าจอภาพยนตร์ ด้านหลังมีบันไดเชื่อมต่อออกไปยังห้องรับรอง ห้องแต่งตัว และห้องน้ำ ส่วนเวทีขนาดใหญ่นั้นสามารถใช้ในการแสดงละคร แฟชั่นโชว์ คอนเสิร์ต จัดประชุม เปิดตัวสินค้า หรือใช้จัดนิทรรศการต่างๆ ได้ นอกจากภายในโรงภาพยนตร์แล้ว บริเวณห้องโถงชั้นหนึ่งและชั้นสอง ยังสามารถใช้เป็นพื้นที่ในการจัดงานได้อีกด้วย

โรงภาพยนตร์ "สกาลา" บริหารงานโดยกลุ่มโรงภาพยนตร์เครือเอเพ็กซ์ ที่มีโรงภาพยนตร์ทั้งหมด 4 แห่ง  เกือบทั้งหมดตั้งอยู่ในย่านสยามสแควร์ ประกอบด้วย โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย โรงภาพยนตร์สยาม โรงภาพยนตร์ลิโด และโรงภาพยนตร์สกาลา จดทะเบียนธุรกิจในนาม ‘สยามมหรสพ’

บทความที่เกี่ยวข้อง : 

รำลึก \"สกาลา\" ในความทรงจำ หลังเหลือแต่ซาก

  • เสน่ห์แห่ง "สกาลา"

ปัจจุบันโรงภาพยนตร์ในเครือเอเพ็กซ์ทั้ง 4 แห่งนั้น ได้ปิดตัวไปแล้ว 3 แห่ง ได้แก่ โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย ซึ่งถูกทุบทิ้งในปี พ.ศ. 2532 โรงภาพยนตร์สยาม ถูกวางเพลิงจนเสียหายหมดทั้งอาคาร จากการชุมนุมทางการเมืองครั้งใหญ่ปี พ.ศ. 2553 และโรงภาพยนตร์ลิโด ที่ปิดตัวเพราะหมดสัญญาเช่ากับทางจุฬาฯ ในวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 คงเหลือแต่โรงภาพยนตร์สกาลาเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ยังคงเปิดตัวอยู่

รำลึก \"สกาลา\" ในความทรงจำ หลังเหลือแต่ซาก

โรงภาพยนตร์ "สกาลา" ออกแบบโดยจิระ ศิลป์กนก ตั้งชื่อตามโรงอุปรากร Teatro alla Scala แห่งเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี คำว่า Scala มีความหมายว่า บันได ในภาษาอิตาลี โรงภาพยนตร์ออกแบบในศิลปะอาร์ตเดโค ภายในมีเสาคอนกรีตโค้ง มีการผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกกับตะวันตก และมีโคมระย้าทรงหยดนํ้าค้างแข็ง 5 ชั้นขนาดยักษ์ที่สั่งตรงจากอิตาลี

ในปี พ.ศ. 2555 "สกาลา"  ได้รับรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ และในวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ได้รับประกาศว่าเป็นสถาปัตยกรรมอาร์ตเดโคอันโดดเด่น เป็นโรงภาพยนตร์พาณิชย์แบบโรงเดี่ยวแห่งสุดท้ายของกรุงเทพฯ ที่ยังเปิดบริการอยู่จนถึงปัจจุบัน