นวนิยาย“หลง เงา รัก” คว้ารางวัลชนะเลิศ”ชมนาด” ครั้งที่ 10

นวนิยาย“หลง เงา รัก” คว้ารางวัลชนะเลิศ”ชมนาด” ครั้งที่ 10

งานประกวดวรรรณกรรมประเภทนวนิยาย มีมากมายหลายเวที แต่ที่จัดให้เฉพาะนักเขียนหญิงมีน้อย รางวัล “ชมนาด” เป็นอีกเวทีหนึ่ง ที่นักเขียนหญิงหลายคนหมายมั่นปั้นมือที่จะได้รางวัลชนะเลิศจากเวทีนี้สักครั้ง

เดินทางมาถึงปีที่ 10 แล้ว สำหรับโครงการประกวดงานวรรณกรรมยอดเยี่ยมประเภทนวนิยาย (FICTION) ของนักเขียนหญิง รางวัลชมนาด (Chommanard Book Prize) ที่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น จำกัด จัดทำขึ้นเพื่อยกระดับนักเขียนสตรีสู่ระดับสากล

เนื้อหาทันสมัยมากขึ้น

นรีภพ จิระโพธิรัตน์ ประธานรอบคัดเลือกต้นฉบับ โครงการประกวดงานวรรณกรรมยอดเยี่ยมประเภทนวนิยาย กล่าวว่า ปีนี้มีผลงานที่ส่งเข้ามาประกวดทั้งสิ้น 26 เรื่อง ผ่านเข้ารอบตัดสิน 8 เรื่อง ได้แก่ กาลครั้งหนึ่งที่โคชนะ, หลงเงารัก, ปริศนาบรรณกร, โศกนาฎกรรมนอกเล่ม…นิยาย, ดานิกามาลีรินทร์, ผงปรุงรส…ชีวิต, ปล่อย และ รอยเท้าบนกลีบดอกไม้ ส่วนใหญ่ผลงานมีสีสันทันสมัยแปลกใหม่น่าติดตาม

เนื้อหาทันสมัยมากขึ้น

นรีภพ จิระโพธิรัตน์ ประธานรอบคัดเลือกต้นฉบับ โครงการประกวดงานวรรณกรรมยอดเยี่ยมประเภทนวนิยาย กล่าวว่า ปีนี้มีผลงานที่ส่งเข้ามาประกวดทั้งสิ้น 26 เรื่อง ผ่านเข้ารอบตัดสิน 8 เรื่อง ได้แก่

กาลครั้งหนึ่งที่โคชนะ, หลงเงารัก, ปริศนาบรรณกร, โศกนาฎกรรมนอกเล่ม…นิยาย, ดานิกามาลีรินทร์, ผงปรุงรส…ชีวิต, ปล่อย และ รอยเท้าบนกลีบดอกไม้ ส่วนใหญ่ผลงานมีสีสันทันสมัยแปลกใหม่น่าติดตาม

ภาพรวมของผลงานที่ส่งเข้าประกวดในปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นแนวดิสโทเปีย มีความสับสนวุ่นวายในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสังคม เศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงโรคระบาด บางเรื่องมีพล็อตแยก ความโดดเด่นของปีนี้คือ ชีวิตตัวละคร เขียนได้อย่างมีสีสันน่าติดตาม

นวนิยาย“หลง เงา รัก” คว้ารางวัลชนะเลิศ”ชมนาด” ครั้งที่ 10 สกุล บุณยทัต หนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน

บางเรื่องเป็นโลกของจินตนาการ บางเรื่องเป็นวรรณกรรมเยาวชน บางเรื่องเป็นเรื่องท้องถิ่น เรื่องที่ต้องต่อสู้กับจิตใจ เรื่องที่เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า โรคระบาด มีแนวสืบสวน แนวดาร์ก ๆ ด้วย

นักเขียนมีชั้นเชิงและกลวิธี มีการซ่อนปมซ่อนเรื่อง มีจบแบบให้คนอ่านไปขบคิดต่อ ตัวละครฉูดฉาดมีสีสันมาก เน้นความบรรเจิด มีจินตนาการ การพรรณาโวหารน้อยลง มีความกระชับ ทันสมัยมากขึ้น นิยายรักโป๊เปลือยก็มี แนววายก็มี ”

ขณะที่ รศ.ดร.ตรีศิลป์ บุญขจร คณะกรรมการรอบตัดสิน มองว่า ผลงานที่ส่งเข้าประกวดในปีนี้จำนวนมาก วิพากษ์ปัญหาสังคมในปัจจุบัน เพื่อที่จะบอกว่า ถ้าเราไม่แก้ไขจะนำไปสู่อนาคตที่เราไม่อยากให้เป็น ส่วนเนื้อหาก็มีบริบทที่หลากหลาย

“มีแนวเรื่องที่หลากหลายกว่าเดิม มีเรื่องที่ใช้ข้อมูลทางสารคดีมานำเสนอด้วยวิธีการแบบนวนิยาย ทำให้อ่านสนุก เข้าใจสังคมและวิธีการแก้ปัญหา

ที่น่าสนใจคือ บริบทร่วมสมัย สังคมที่ไม่เหมือนเดิม เช่น วิถีชีวิตของผู้หญิงที่ไม่ได้เป็นผู้หญิงในอุดมคติ หรือกุลสตรีในขนบ เพราะปัญหาครอบครัว มีชีวิตยากลำบาก ทำให้มีเสรีภาพทางเพศ นำเสนอโดยใช้ฉากต่างประเทศ สะท้อนว่า คนเหล่านี้ก็อยากจะมีชีวิตที่อบอุ่น สร้างครอบครัวที่ประกอบไปด้วยความรักด้วยเช่นกัน”

นวนิยาย“หลง เงา รัก” คว้ารางวัลชนะเลิศ”ชมนาด” ครั้งที่ 10

'ชนินทร์ธรณ์ ชื่นโพธิ์กลาง' กับรางวัลชนะเลิศ จากผลงานนวนิยาย 'หลง เงา รัก'

เรื่องที่โดดเด่น คว้ารางวัลไป

ในการตัดสินรอบชนะเลิศ มี เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เป็นประธานกรรมการ ส่วน สกุล บุณยทัต, รศ.ดร.ตรีศิลป์ บุญขจร, รศ.ดร. สุรเดช โชติอุดมพันธ์, นรีภพ จิระโพธิรัตน์ เป็นกรรมการ คณะกรรมการลงมติเป็นเอกฉันท์ให้นวนิยายเรื่อง 'หลง เงา รัก' ของ ชนินทร์ธรณ์ ชื่นโพธิ์กลางได้รางวัลชนะเลิศ

สกุล บุณยทัต กล่าวว่า “เป็นงานที่เกลี้ยงที่สุด คนเขียนมีองค์ความรู้เล่าบริบทต่างๆ ได้ดี แม้จะเป็นเรื่องที่เปิดเปลือย ผู้เขียนเลือกใช้ฉากในต่างประเทศ แต่ก็มีแก่นความคิดของตัวละคร ที่จะต้องตัดสินใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่เด่นที่สุด

รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่เรื่อง 'ปล่อย' ของ กชกร ชิณะวงศ์ เป็นเรื่องที่มีอุดมคติของผู้หญิง ในภาวะซึมเศร้าจากการสูญเสียครอบครัวอันเป็นที่รัก และในที่สุดก็เปลี่ยนวิธีคิดของตัวเองให้เป็นอุดมการณ์ 

รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ 'รอยเท้าบนกลีบดอกไม้' ของ นภัทร สังสนา เป็นเรื่องของผู้หญิงที่ผิดหวังจากความรัก ที่รักฝ่ายชายมากเหลือเกิน แต่สุดท้ายก็ถูกทิ้ง ทำให้เกิดบาดแผลในการสร้างชีวิตครอบครัว และต้องพบกับความผิดหวังจากความรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า

โดยรวมนวนิยายทั้งสามเรื่อง สื่อความหมายได้ดี แม้บางเรื่องมีเนื้อหาที่เปรี้ยวจี๊ด และมีฉากอีโรติก แต่ไม่รู้สึกว่าเป็นการยัดเยียด ทว่า กลับเป็นท่วงทำนองที่สอดคล้องกับสภาวะเหตุการณ์อย่างสมเหตุสมผล ที่สำคัญ กรรมการจำเป็นต้องเปิดกว้าง เพราะงานวรรณกรรมเป็นงานเสรี และเป็นการทดลองความจริง

รางวัลชมนาด ครั้งที่ 10 ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท โล่เกียรติคุณ และค่าลิขสิทธิ์ในการจัดพิมพ์เป็นเล่มทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และอับดับ 2 จะได้รับโล่ผู้เข้ารอบ พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท และ 30,000 บาท ตามลำดับ

นวนิยาย“หลง เงา รัก” คว้ารางวัลชนะเลิศ”ชมนาด” ครั้งที่ 10

กชกร ชิณะวงศ์ และ นภัทร สังสนา กับผลงานรางวัลที่ 2 และ 3

คำประกาศรางวัลชนะเลิศ ปี 2564

นวนิยายเรื่อง 'หลง เงา รัก' เล่าเรื่องราวของหญิงสาวสมัยใหม่ ประกอบอาชีพเป็นนางแบบในวิถีทุนนิยมที่เน้นย้ำมายาคติเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก เธอจึงหมกมุ่นกับความผอมแบบหุ่นนางแบบจนเป็น 'โรคคลั่งผอม' (anorexia)

ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่าภายใต้รูปลักษณ์อันงดงามบนสื่อโฆษณา ผู้หญิงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างไร ด้วยบาดแผลที่เคยถูกลักพาตัวไปในวัยเด็ก แต่กลับสร้างความทรงจำอันสุขใจ ตัวละครเอกในเรื่องแหวกขนบกุลสตรีทั้งในด้านรูปลักษณ์ภายนอกและเพศวิถี

แม้กระนั้นเธอก็ไขว่คว้าโหยหารักแท้ และได้พบชายหนุ่ม ซึ่งมีอาชีพต่างไปจากวิถีความเป็นชายในอดีตและตรงกันข้ามกับความหมกมุ่นในความผอมของเธอ

หลง เงา รัก มีองค์ประกอบของวรรณกรรมประเภท Chick Lit คือ นวนิยายรัก เบาสมอง ของหญิงสมัยใหม่ในมหานคร ยุคทุนนิยมโลกาภิวัตน์ที่มีวิถีแตกต่างจากกุลสตรีแนวขนบ และจบด้วยความสุขสมหวังในความรัก

แต่ที่น่าสนใจของนวนิยายเรื่องนี้ คือ การทำให้ดูเหมือนเป็นนวนิยายแปล (pseudo translation) การสร้างตัวละครที่ไม่ใช่คนไทย การใช้ฉากในโลกตะวันตก การใช้ภาษาอังกฤษเป็นชื่อบท การใช้ภาษาแบบสำนวนแปล การใช้ประโยคสั้นๆเหมือนนวนิยายออนไลน์  จึงทำให้ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องราวของผู้หญิงในสังคมไทย

ผู้เขียนวิพากษ์วิถีและค่านิยมอันฉาบฉวยในสังคมทุนนิยม ที่ยังคง 'หลง เงา' พร้อมทั้งสร้างทัศนคติเชิงบวกให้เห็นว่า 'หญิงเปรี้ยว' นั้น แท้จริงก็โหยหา 'รัก' และต้องการสร้างครอบครัวที่มีความรักเป็นพื้นฐานเช่นเดียวกัน

คณะกรรมการจึงมีมติให้ หลง เงา รัก ของ ชนินทร์ธรณ์ ชื่นโพธิ์กลาง ได้รับรางวัลชนะเลิศ ประจำปีพุทธศักราช 2564