‘หมีออนเซน’ กิมมิค ‘บุฟเฟ่ต์ชาบู’ หนึ่งเดียวในสยาม

ปลดล็อกดาวน์คราวนี้ ผู้ประกอบมีความหวังธุรกิจกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลัง“ดราม่าบุฟเฟ่ต์” จบไปคนหันมาสนใจ“บุฟเฟ่ต์ชาบู” และ "บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง" มากขึ้น “สยามสแควร์วัน” ถือเป็นแหล่งรวมร้านอาหาร “บุฟเฟ่ต์” โดยเฉพาะ “หมีออนเซน” แสนน่ารัก “สุภนนท์ ยมลยง” เจ้าของร้าน “Tenten  ชาบู 4 สี หมีออนเซน” เล่าว่าเริ่มเปิดตัวธุรกิจปลายปี 2019 ขายได้ 4-5 เดือน ก็เจอพิษ “โควิด-19”

“Tenten มีความหมายว่า สิบเต็มสิบ สมัยก่อนเวลาเราไปกินข้าวกับเพื่อน ก็จะถามกันว่าไปร้านไหนดี ร้านไหนอร่อย ทีนี้คำว่าอร่อยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ให้คะแนนร้านนี้ 7เต็ม 10 อีกร้าน 9 เต็ม 10 เราก็อยากให้คนมาทานที่ร้านนี้แล้วกลับไปบอกเพื่อนว่า อร่อยมากให้คะแนน สิบเต็มสิบ เพราะอร่อยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราต้องการสร้างร้านที่ตอบโจทย์มากที่สุด ก็เลยออกมาเป็นหม้อน้ำซุปมี 4 ช่อง เวลาไปกินข้าวกับครอบครัว กับแฟน หรือเพื่อน ร้านชาบูส่วนใหญ่มีน้ำซุปแค่ 2 ช่อง ถ้าเราไป 4 คน ต้องมีใครสักคนเสียสละ เพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน”

เขาต้องการให้บรรยากาศการกิน “บุฟเฟ่ต์ชาบู” สนุกขึ้น จึงเป็นที่มา “หมีออนเซน” สร้างความน่าสนใจ และดูแตกต่างจากร้านอื่น  คำว่า “สิบเต็มสิบ” ของเขารวมเอา รสชาติ คุณภาพของอาหาร ความสนุกสนาน และบรรยากาศภายในร้าน อยากให้คนกินกลับไปบอกต่อๆกันว่า “เฮ้ยแก ชั้นไปเจอร้านหนึ่งมา อร่อยมาก ชั้นให้สิบเต็มสิบเลย” นี่คือจุดประสงค์ของการทำร้านนี้ขึ้นมา ที่เลือกกิมมิคเป็น “หมี” เพราะเป็นสัตว์ที่เข้าถึงได้ง่ายดึงดูดใจ น้ำซุป มีให้เลือก 6 ชนิด คือ ซุปหม่าล่า,ซุปต้มยำ,ซุปใสปลาแห้ง,ซุปสุกี้ยากี้,ซุปทงคตสึ และซุปมิโซะนมฮอกไกโด  “น้ำจิ้ม” มีให้เลือก ทั้ง น้ำจิ้มแจ่ว,น้ำจิ้มสุกี้,น้ำจิ้มซีฟู้ด,น้ำจิ้มหม่าล่า,น้ำจิ้มงา,น้ำจิ้มสไปซี่,น้ำจิ้มพอนสึ และ น้ำจิ้ม Volano BBQ

“บุฟเฟ่ต์ชาบู” ร้าน Tenten  ชาบู 4 สี หมีออนเซน มีอาหารให้เลือกหลากหลายอาทิเช่น “ซูชิ” และ “ซาชิมิ” ล้วนเป็นวัตถุดิบนำเข้าถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของทางร้าน “หมูหวานชวนชิม” ชอบ แซลมอนซาชิมิ และเนื้อวากิว Satomomo รวมไปถึง “แซลมอนแซ่บวาซาบิ”  อร่อยโดนใจสุดๆให้คะแนน “สิบเต็มสิบ”

“เราวางแผนเรื่องวัตถุดิบ เสิร์ฟในช่วงเวลาที่สดและอร่อยที่สุด ช่วงโควิดที่ผ่านมาเราขายเดลิเวอรี่ เพราะต้องระบายสต๊อก  ยอมขายแบบขาดทุน  ปรากฏว่าขายดีมาก แต่ยิ่งขายยิ่งขาดทุน ผมว่าพิษโควิด ธุรกิจท่องเที่ยวกระทบหนัก รองลงมาก็คงเป็นธุรกิจร้านอาหาร และบริการนี่แหละครับ ยอมรับว่าเหนื่อยจริงๆ บางทีก็ท้อ ทุกวันนี้อยู่ได้ด้วยการพยายามบริหารจัดการกระแสเงินสด  ผมก็พยายามดูแลพนักงาน ทันทีที่ร้านเปิดได้ก็เปิดเลย วันแรกคาดว่าลูกค้าคงไม่ค่อยกล้าออกมากินข้าวนอกบ้าน  แต่ผิดคาด เพราะคนคงอัดอั้นมาก วันแรกที่ปลดล็อก ทุกคนออกมากินข้าวนอกบ้านกันเยอะมาก”

“สุภนนท์ ยมลยง” เจ้าของร้าน “Tenten  ชาบู 4 สี หมีออนเซน” เล่าต่อไปว่า ช่วงร้านอาหารปิด-เปิด หลายครั้ง เขาเองก็ชั่งใจว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ “ห้างฯ ปิดแต่ให้ร้านอาหารขายเดลิเวอรี่อย่างเดียว ร้านบุฟเฟ่ต์ ต้องการ Volume คนมาทานมากกว่า เดลิเวอรี่ไม่ได้ทำกำไร แค่รักษากระแสหมุนเวียน จ่ายเงินเดือนลูกน้อง จ่ายค่าเช่า  ผมทำโปรโมชั่น หมีฟรีหม้อ เสิร์ฟชุดชาบู หมีออนเซน แถมหม้อ เป็นทางเดียวที่จะรักษาร้านเอาไว้ได้  3-4 เดือนที่ผ่านมาวัตถุดิบนำเข้าแพงขึ้นเพราะค่าเงินบาทอ่อนตัวลง  แซลมอนแพงมาก แต่เรายังขายราคาเดิม  ผลดีคือพอเปิดร้านอีกครั้ง เราได้ลูกค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้น เขารู้จักเราตอนที่สั่งเดลิเวอรี่”

“หมีออนเซน” คือสิ่งที่ “สุภนนท์ ยมลยง” และหุ้นส่วน “ณรงค์ เนืองสิกขาเพียร”  ต้องการให้คนหันมามอง “บุฟเฟ่ต์ชาบู” ที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทำอย่างไรคนจะรู้จักร้าน “Tenten  ชาบู 4 สี หมีออนเซน”

“เหมือนเราตะโกนออกไปด้วย หมีออนเซน ซึ่งก็ได้ผล เพราะคนสนใจมารีวิว เอาไปลงโชเชียล มีลูกค้ากินแล้วชอบไปบอกต่อ เริ่มสร้างฐานลูกค้ากำลังจะไปได้ดี ก็มาเจอโควิดซะก่อน  บางทีเราก็ท้อ ทุกวันนี้ไม่กล้าวางแผนระยะยาว เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก ต้องวางแผนสำรอง 3-4 แผน เกือบสองปีมานี้เราปรับตัวมาตลอด ถือว่าได้พัฒนาตัวเองมากขึ้น เจออีกระลอกทำยังไง เงินสดเราพอไหม ก็ต้องคิดตลอด ส่วน ดราม่าบุฟเฟ่ต์ ผมมองว่า แค่สถานการณ์โควิดทุกร้านอาหารก็เหนื่อยแล้ว ต้องมาเจออุปสรรค ปัญหาอื่นเพิ่มก็เห็นใจเจ้าของร้านเหมือนกัน  ก็อยากเป็นกำลังใจให้ทุกๆร้าน ฝ่าฟันอุปสรรค์ต่างๆไปให้ได้ ผมว่าแต่ละร้านก็อาจจะมีปัญหาไม่เหมือนกัน อยากให้ทุกคนสู้ต่อไป การทำร้านบุฟเฟ่ต์กับ อะลาคาร์ท เป็นศาสตร์คนละแบบ ต่างมีความละเอียดอ่อนไม่เหมือนกัน บางร้านเป็นอะลาคาร์ทขายไม่ดีก็อยากปรับเป็นบุฟเฟ่ต์เพื่อเรียกคน แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จ  ร้านบุฟเฟ่ต์ยอมรับว่าเป็นงานที่เหนื่อย ลูกค้าจะเข้าช่วงเย็นๆ ถ้าเราเก็บลูกค้าช่วงเย็นไม่ได้ก็คือวันนั้นขาดทุน  เพราะต้นทุนสูง ใช้ของดี ปริมาณคนที่มากินต้องเต็มร้านเราถึงจะรอด”

เจ้าของร้านวัย 37 ปีในฐานะของประชาชนทั่วไป เขาเองก็อยากจะกลับมามีชีวิตปกติ  นัดเพื่อนๆไปกินข้าวแบบสบายใจ ซะที  เขามองว่าการใช้บล็อกเกอร์ การรีวิวอาหารถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคจะได้รับข่าวสารจากทางร้านในวงกว้าง เขาเองต้องการให้ลูกค้าประทับใจแล้วบอกต่อ  รวมทั้งการที่ลูกค้าถ่ายรูป “หมีออนเซน” แล้วแชร์ความน่ารักออกไป สมัยก่อนต้องใช้บริการเพจใหญ่ๆ จ่ายตังค์แล้วเขียนรีวิวราคาก็แล้วแต่แพคเกจ บางทีก็ต้องจ่ายกันหลายหมื่น ถือว่า ราคาค่อนข้างสูง สมัยนี้ยุคโซเชียล เพจเล็กๆ นักรีวิวอาหารเกิดขึ้นมากมาย ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะร้านอาหารจะได้มีโอกาสเป็นที่รู้จักเผลอๆอาจจะดังชั่วข้ามคืน  เขาเชื่อในพลังของการรีวิว แต่ก็เหมือนเป็นเหรียญสองด้าน  ทุกวงการมีทั้งดีและไม่ดี ทว่าเขามองในแง่ที่ดีมากกว่า สุดท้ายแล้วลูกค้าจะเป็นคนตัดสินเองว่า จะกลับมาใช้บริการซ้ำหรือไม่

พรีเมียมชาบู ซูชิ บุฟเฟ่ต์ และหมีออนเซน พร้อมน้ำซุป 4 ช่อง  เจ้าแรกหนึ่งเดียวในเมืองไทย นอกจากมีอาหารคุณภาพให้เลือกหลากหลายจุใจแล้ว ยังมีขนมหวานและไอศกรีม Haagen-Daz เสิร์ฟแบบไม่อั้น หมูหวานแสนปลื้มปริ่ม “เนื้อวากิว Satomomo” เป็นที่สุด ให้คะแนนหลายเมนูแบบ “สิบเต็มสิบ” กันไปเลย ถ้ามีโอกาสก็ลองแวะไปชิมกันนะคะ

Tenten  ชาบู 4 สี หมีออนเซน ตั้งอยู่ที่ชั้น 5 สยามสแควร์วัน ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ (BTS สถานีสยาม) เปิดบริการ วันจันทร์-ศุกร์ 11.00-20.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 10.00-20.00 น. (Last Order 19.30 น.)  โทร. 062 479 1623