Work From Home แล้ว ‘อ้วน’ ? ส่อง 7 วิธี ‘ลดน้ำหนัก’ ทำง่ายๆ ได้ที่บ้าน

Work From Home แล้ว ‘อ้วน’ ? ส่อง 7 วิธี ‘ลดน้ำหนัก’ ทำง่ายๆ ได้ที่บ้าน

ในยุคโควิดชาวออฟฟิศต้องปรับตัวสู่การ "Work From Home" และหลายคนพบว่าตัวเอง "อ้วน" ขึ้น โดยเฉพาะอ้วนลงพุง ลงขา และก้น ถ้าไม่อยากให้หุ่นพังไปมากกว่านี้ ต้องรู้ 7 วิธี "ลดน้ำหนัก" ที่สามารถทำง่ายๆ ระหว่างทำงานที่บ้าน

เมื่อโควิด-19 ส่งผลให้พนักงานออฟฟิศในสายงานต่างๆ ต้องปรับตัวสู่การ "Work From Home" เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งกินเวลายาวนานมาเกือบ 2 ปี ทำให้บางคนพบว่าตัวเอง "อ้วน" ขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นผลมาจากการอยู่บ้านนานๆ แล้วเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง ขาดการออกกำลังกาย

ประกอบกับธุรกิจฟิตเนสเซ็นเตอร์ ศูนย์กีฬา และสวนสาธารณะต่างๆ ก็ถูกสั่งปิด ยิ่งทำให้ไปออกกำลังกายไม่ได้ แต่อย่าเพิ่งยอมแพ้ให้กับไขมันที่พอกพูนบริเวณพุง ต้นขา และก้นของคุณ แม้ว่าจะต้องอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ แต่เราก็สามารถ "ลดน้ำหนัก" ด้วยการบริหารร่างกาย เพื่อขจัดไขมันได้ด้วย 7 วิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้ 

1. ออกกำลังกายในช่วงเช้าของวัน

จัดตารางเวลาใหม่ นอกจากตารางการทำงาน Work From Home แล้วจะต้องหาเวลาว่างเพิ่มแผนการออกกำลังกายลงไปในตารางด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเดิน, การวิ่งบริเวณบ้าน, Body Weight ในพื้นที่ห้องพัก ฯลฯ แนะนำว่าให้ทำในตอนเช้าจะดีที่สุด จะได้ไม่เบียดเบียนเวลาทำงานช่วงกลางวันด้วย

แต่ถ้าหากจัดเวลาออกกำลังกายไว้ช่วงเย็น อาจจะมีโอกาสล้มเหลวสูง เพราะคุณจะง่วนอยู่กับงานจนลืมเวลา และทำให้ขาดการออกกำลังกายไปในที่สุด

Tips : ควรตั้งนาฬิกาปลุก ฝึกตนเองให้ตื่นเร็วกว่าปกติครึ่งชั่วโมง แล้วลุกจากเตียงมาออกกำลังกายซะ พยายามทำให้สำเร็จในแต่ละวัน ให้คิดว่ามันเป็นการนัดหมายงานสำคัญที่คุณพลาดไม่ได้! 

หรืออาจจะทำเช็คลิสต์ง่ายๆ ไว้เตือนตัวเองให้กลับมาฟิตร่างกาย ด้วยวิธีปั้นหุ่นสวยลดพุงด้วย 4 ข้อต้องจำ ได้แก่ กินให้เป็นเวลา ออกกำลังกาย เน้นผักผลไม้ และนอนให้เพียงพอ

 

2. หาแรงสนับสนุนจากคนรอบข้าง

ก่อนอื่นต้องรู้ว่าการ "ลดน้ำหนัก" ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน (มีโควิดหรือไม่มีโควิด) ก็ยากทั้งนั้น ในระหว่างที่ลดน้ำหนักคุณมักจะมีอารมณ์แปรปรวน อาจด้วยความหิวหรือด้วยความล้าจากการออกกำลังกาย และอาจทำให้ล้มเลิกกลางคัน

ดังนั้น การได้รับแรงสนับสนุนจากคนใกล้ชิดอย่างเหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก แฟน เพื่อนสนิท หรือคนในครอบครัว อาจจะช่วยเป็นบัดดี้ในโปรแกรมลดน้ำหนักของแต่ละวัน เช่น ออกกำลังกายเป็นเพื่อนคุณ หรือเริ่มกินอาหารคลีนด้วยกัน หรือพูดให้กำลังใจระหว่างลดน้ำหนัก ช่วยแนะนำอาหารสุขภาพไขมันต่ำในแต่ละมื้อ ฯลฯ

Tips : คุณไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน แต่คุณยังสามารถออกกำลังกายกับกลุ่มเพื่อนในโซเชียลมีเดียได้ ทำให้คุณรู้สึกมีแรงจูงใจมากขึ้น

3. แบ่งเวลาพักผ่อนให้สมดุล อย่าทำงานทั้งวัน!

มันเป็นเรื่องดีที่คุณจดจ่อกับการทำงาน เพื่อให้งานเสร็จและมีประสิทธิภาพในช่วง Work From Home แต่การนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นชั่วโมงๆ นั้นไม่ดีต่อสุขภาพเลยจริงๆ ดังนั้นคุณต้องหยุดพักและลุกออกจากหน้าจอบ้าง! ทุกๆ การทำงานหน้าจอ 2-3 ชั่วโมง แนะนำให้พัก 10 นาที สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยรีเฟรชจิตใจเท่านั้น แต่ช่วยให้คุณกระฉับกระเฉงอีกด้วย

Tips : แนะนำว่าในระหว่างพัก อาจจะหันไปทำงานบ้านเล็กๆ น้อย เช่น กวาดห้อง, ดูดฝุ่น, พับเก็บเสื้อผ้า นอกจากได้รีเฟรชตัวเองจากงานและได้พักสายตาจากหน้าจอแล้ว ยังได้ประโยชน์จากการจัดเก็บบ้าน ทำให้บ้านสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย

 

4. วางแผน/ปรับเปลี่ยนอาหาร
การใช้เวลาเล็กน้อยในการวางแผน "มื้ออาหาร" ในแต่ละสัปดาห์ จะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมายมากขึ้น โดยเริ่มจากการเปลี่ยนมากินอาหารเพื่อสุขภาพ เน้นโปรตีนและไฟเบอร์ ลดคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล วิธีนี้จะช่วยให้อิ่มนานขึ้น ลดความหิวให้น้อยลง

วิธีวางแผนมื้ออาหารเพื่อสุขภาพ ต้องเริ่มตั้งแต่การออกไปช้อปปิ้งซื้อของและวัตถุดิบต่างๆ เข้าบ้าน โดยจดเมนูสุขภาพที่อยากทำ และวางแผนอาหารให้ครบทุกมื้อใน 1 สัปดาห์ เพื่อที่จะได้ทำตามตารางได้ง่ายขึ้น

Tips : เวลาช้อปปิ้งซื้อของและวัตถุดิบ นอกจากเน้นซื้อผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ ก็ควรมีขนมคบเขี้ยวเอาไว้กินระหว่างวันด้วย (Treat Snack) แต่ให้เปลี่ยนจาก มันฝรั่งทอด เฟรนช์ฟราย หรือเค้ก มาเป็นถั่วอบแห้ง, อะโวคาโด, ผักอบแห้ง, แอปเปิ้ลกับเนยถั่ว ฯลฯ

5. ใช้หม้อตุ๋นแรงดันทำอาหาร ง่าย เร็ว กินแล้วไม่อ้วน

อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณทำอาหารสุขภาพได้ง่ายๆ สะดวกรวดเร็ว และเป็นอาหารคลีนที่ได้คุณค่าสูง นั่นคืออาหารประเภทต้มหรือตุ๋น เพียงหาเมนูตุ๋นที่คุณชอบ ใส่เนื้อสัตว์ ผักต่างๆ ปรุงรสเล็กน้อย เติมน้ำ เตรียมง่ายๆ ไม่เกิน 10 นาที แล้วตุ๋นทิ้งไว้เพียง 30 นาที ระหว่างนี้ก็สามารถไปเดินเล่น ผ่อนคลายจากการทำงานได้ เมื่อครบเวลาแล้วก็พร้อมทานได้ทันที สะดวก ง่าย รวดเร็ว

Tips : แนะนำให้ทำเมนูตุ๋นช่วงมื้อเย็น หลังจากเสร็จจากงานในแต่ละวัน ระหว่างที่รออาหารปรุงสุก ก็สามารถไปพักผ่อนคลายเครียดจากการทำงานได้

6. อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ! 

ระหว่างที่นั่งทำงาน Work From Home ที่บ้าน อย่าเผลอง่วนอยู่กับงานทั้งวันจนลืมดื่มน้ำระหว่างวัน เพราะ "น้ำ" เป็นส่วนสำคัญของการ "ลดน้ำหนัก" ช่วยล้างสิ่งตกค้างต่างๆ ภายในร่างกาย และทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น และช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

Tips : แนะนำให้วางขวดน้ำไว้ข้างๆ ตัวคุณขณะทำงาน และทุกครั้งที่คุณรู้สึกอยากเปิดตู้เย็นหรือหยิบขนม ให้ดื่มน้ำอึกใหญ่ๆ แทน การดื่มน้ำช่วยให้คุณหยุดกินจุบจิบได้ พยายามดื่มน้ำให้ได้ 2 ลิตรต่อวัน

7. ตั้งเวลาทำงานที่บ้านให้เหมือนทำงานที่ออฟฟิศ

แม้ว่าคุณจะไม่ต้องเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศแล้ว แต่การ Work From Home นั้น คุณควรตั้ง "เวลาเริ่มงาน" และ "เวลาเลิกงาน" ให้เหมือนกับตอนที่ไปทำงานปกติที่ออฟฟิศ เพื่อให้ร่างกายคุ้นชินและยึดกับเวลาทำงานให้เป็นนิสัย

การทำแบบนี้จะช่วยลดความเครียดระหว่างการ Work From Home ได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการควบคุมน้ำหนัก เพราะทุกคนย่อมต้องการเวลาผ่อนคลายหลังเลิกงานในตอนเย็น

Tips : แนะนำตั้งเวลานาฬิกาปลุกไว้ เพื่อให้เรารับรู้เวลาเริ่มทำงาน และเวลาเลิกงานที่ชัดเจนในแต่ละวัน

--------------------------

อ้างอิง : 7 ways lose weight working from home