4 วิธีดูแล ‘สุนัข’ ช่วงฤดู ‘ฝน’ ให้น้องสุขภาพดี

4 วิธีดูแล ‘สุนัข’ ช่วงฤดู ‘ฝน’ ให้น้องสุขภาพดี

“ฝน” ตกถี่ยิบ สัตวแพทย์แนะ 4 วิธีดูแล “สุนัข” ให้ปลอดอาการเจ็บป่วย เตือนภัยเจ้าของระวัง 5 โรคร้ายมาเยือนน้องช่วงหน้าฝน

เข้าสู่กลาง ฤดูฝน ฝนตกต่อเนื่องหลายวัน บางวันตกหนักบางวันตกปรอยๆ บางวันตกๆ หยุดๆ สลับกันไป อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น อาจส่งผลให้ สุนัข เกิดอาการเจ็บป่วยได้

เจ้าของสุนัขจึงจำเป็นต้องคอยสังเกตและใส่ใจสัตว์เลี้ยงเป็นพิเศษ นอกจากเรื่อง เห็บ หมัด  ที่ทำให้ปวดหัวอยู่บ่อย ๆ แล้ว  ยังมีโรคภัยที่มากับหน้าฝนอีกด้วย วันนี้มีข้อมูลดีๆ จาก โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน (Talingchan Pet) มาเตือนภัยเจ้าของสุนัข เกี่ยวกับโรคร้ายที่มักมากับความเปียกชื้นในฤดูฝน และควระมัดระวัง ดังนี้

1. โรคที่เกี่ยวกับผิวหนัง

สภาพอาการที่อับชื้นเป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้สุนัขเกิดโรคผิวหนังได้ง่าย โดยทั่วไปโรคผิวหนังที่พบในบ้านเราส่วนมากจะมาจากหลายสาเหตุรวมกัน เช่น เป็นเชื้อรา ติดเชื้อแบคทีเรีย หรือ ขี้เรื้อนรูขุมขน ดังนั้นเจ้าของควรจะหมั่นดูแลเรื่องผิวหนังและขนของน้องหมาให้ดี ต้องเช็ดให้แห้ง อย่าปล่อยให้เปียกหรือชื้น หากพบว่าสุนัขมีตุ่มคัน มีอาการเกาหรือสะบัดหูบ่อย ๆ มากผิดปกติ ควรจะรีบพาไปหาสัตวแพทย์

4 วิธีดูแล ‘สุนัข’ ช่วงฤดู ‘ฝน’ ให้น้องสุขภาพดี

สัตว์เลี้ยงตัวไหนขี้หนาวอาจจะต้องหาเสื้อให้ใส่ช่วงที่ฝนตกแล้วอากาศเย็น

2. โรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจที่น่ากลัวก็คือ โรคปอดบวม จะเริ่มแสดงอาการ เช่น ซึม เบื่ออาหาร จมูกแห้ง ไอ มีไข้สูง น้ำมูก น้ำตาไหล หายใจลำบาก เป็นต้น โรคนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อทั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสซึ่งสามารถทำให้สัตว์ป่วยและตายได้  ดังนั้นสัตว์เลี้ยงตัวไหนขี้หนาวอาจจะต้องหาเสื้อให้เขาใส่ในช่วงกลางคืนหรือช่วงที่ฝนตกแล้วอากาศเย็น และถ้าสังเกตว่าเขามีอาการไอหรือมีน้ำมูกไหลควรจะพาไปหาหมอทันที
 

3.ไข้เห็บ-หมัด 
เป็นโรคอันดับต้นๆ ในสัตว์เลี้ยงก็ว่าได้ ถ้าเทียบกับการเจ็บป่วยด้วยโรคอื่น ๆ “เห็บ” เป็นทั้งพาหะนำโรค คือ พยาธิในเม็ดเลือด หรือไข้เห็บ และยังทำให้สัตว์อ่อนแอ โลหิตจาง เนื่องจากเห็บจะดูดเลือดและส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของสัตว์ลดต่ำลง ทำให้สุนัขติดเชื้อและเกิดโรคได้ง่าย 
ยิ่งภูมิอากาศในบ้านเราที่ร้อนชื้นเหมาะสำหรับการแพร่พันธุ์ของเห็บ ทำให้ช่วงหน้าฝนน้องหมาเกิดการเจ็บป่วยเนื่องจากเห็บเพิ่มมากขึ้น การกำจัดเห็บจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และในปัจจุบันมีหลายรูปแบบในการกำจัดเห็บหมัด ดังนั้นเจ้าของควรทำเข้าใจในการใช้ให้ถูกต้อง หรือ ปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนใช้ รวมไปถึงการทำความสะอาดกรง หรือ สถานที่บริเวณที่สัตว์เลี้ยงอยู่ด้วย เพื่อตัดวงจรชีวิตเจ้าเห็บหมัด

4 วิธีดูแล ‘สุนัข’ ช่วงฤดู ‘ฝน’ ให้น้องสุขภาพดี 4.พยาธิในเม็ดเลือด
โรคนี้จะเกิดจากเห็บที่มีเชื้อไปกัดสุนัขหรือสุนัขกินตัวเห็บเข้าร่างกาย จะมีอาการ  ซึม เบื่ออาหาร มีไข้ เลือดหลุดไหลยาก สีเหงือกและเยื่อเมือกซีดกว่าปกติ อาจมีภาวะตัวเหลือง เลือดกำเดาไหล ปัสสาวะมีเลือดปน บางรายอาจพบปัญหาตับหรือไตอักเสบร่วมด้วย และอาจพบการติดเชื้อพยาธิเม็ดเลือดเข้าสู่ระบบประสาท ทำให้สุนัขมีอาการทางประสาทจนอาจตาบอดเฉียบพลันได้ นอกจากนี้ในบางรายอาจพบภาวะภูมิคุ้มทำลายเม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดตัวเอง แต่โรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ถ้ามาพบสัตวแพทย์และรักษาอย่างทันท่วงที

5.โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
ไม่ว่าจะเป็น ท้องเสีย อาเจียน อาหารเป็นพิษ หรือโรคที่ร้ายแรง เช่น โรคลำไส้อักเสบ ซึ่งพบได้ในสุนัขทุกช่วงอายุ สาเหตุที่เกิดขึ้นได้หลัก ๆ มาจากการกินอาหารที่มีการปนเปื้อนของเชื้อโรคเข้าไป หรือการตั้งอาหารทิ้งไว้นานในสภาพอากาศที่ชื้นทำให้มีพวกเชื้อแบคทีเรียลงไปเจริญเติบโต ยิ่งช่วงหน้าฝนที่มีความชื้นเชื้อโรคก็จะเจริญเติบโตได้ดี
 

4 วิธีดูแล ‘สุนัข’ ช่วงฤดู ‘ฝน’ ให้น้องสุขภาพดี

ไม่ควรให้สุนัขตากฝน

สำหรับการดูแลสุนัขในช่วงฤดูฝน มี 4 วิธี ดังนี้
1.    ฉีดวัคซีนป้องกันโรค  ฤดูฝนเป็นช่วงที่มีการเพาะตัวของเชื้อโรคเยอะ เจ้าของควรพาน้องหมาไปฉีดวัคซีน
2.    อาหารต้องสะอาดอยู่เสมอ ฤดูฝนจะทำให้อาหารเสียและเกิดเชื้อราได้ง่าย อาหารเม็ดควรสดใหม่ ไม่ขึ้นรา หากเป็นอาหารที่ปรุงก็ควรสุก ไม่ค้างคืน
3.    ไม่ควรให้สุนัขตากฝน  ควรให้อยู่ที่อุ่น ๆ และแห้ง หาเสื้อผ้าให้ใส่ หากป่วยหนักไม่ควรให้ยากินเอง แต่ควรพบสัตวแพทย์
4.    ป้องกันโรคที่มากับความชื้น ควรทำความสะอาดผิวหนังไม่ให้เปียกชื้น เพราะจะทำให้สุนัขเกิดโรค อย่าง โรคผิวหนัง หาเป็นหนักก็จะกลายเป็น “สุนัขขี้เรื้อน”
โรคเหล่านี้หากสัตว์เลี้ยงมีอาการที่ผิดปกติ เจ้าของควรพามาพบสัตวแพทย์ทันทีไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพื่อการรักษาดูแลที่ถูกวิธี สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ การบริการต่าง ๆ ได้ที่ เว็บไซต์โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน หรือทาง Line :  @Talingchanpet

* * * * * * * * *

เรื่องที่คุณอาจสนใจ