เจาะเบื้องลึก ทำไมถึงต้อง #FreeBritney

เจาะเบื้องลึก ทำไมถึงต้อง #FreeBritney

ทำไมอยู่ดี ๆ คนจำนวนมาก รวมถึงศิลปินในวงการ ถึงลุกขึ้นมาเรียกร้องให้ปลดปล่อย “บริทนีย์ สเปียร์ส” นักร้องดังที่ได้ชื่อว่าเป็น “เจ้าหญิงเพลงป๊อป” ในยุค 90 เป็นอิสระ ตามอ่านที่มาที่ไปของเรื่องนี้กัน

ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ แฮชแท็ก #FreeBritney หรือ ‘ปลดปล่อยบริทนีย์เป็นอิสระ’ ได้ติดเทรนด์ฮิตทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย แล้วแฮชแท็กนี้หมายถึงใคร เกิดขึ้นด้วยวัตถุประสงค์อะไร เราจะมาไขความกระจ่างกัน

  • #FreeBritney เป็นแฮชแท็กที่มีขึ้นเพื่อเรียกร้องให้ ‘บริทนีย์ สเปียร์ส’ นักร้องหญิงคนดังเจ้าของสมญา ‘เจ้าหญิงแห่งวงการเพลงป็อป’ ยุค 90 จากเพลงฮิตอย่าง Oops!…I Did It Again, Baby One More Time ฯลฯ ได้รับอิสระจากการควบคุมดูแลของ ‘เจมี่ สเปียร์ส’ ผู้เป็นพ่อแท้ ๆ ของเธอ

  • บริทนีย์ สเปียร์ ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 39 ปีแล้ว เป็นนักร้องที่ทำรายได้มหาศาล มีทรัพย์นับเป็นพันๆล้าน แต่เจ้าตัวกลับบอกว่าเธอแทบไม่ได้ใช้เงินที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง หรือแม้แต่กระทั่งมีสิทธิ์ใช้ชีวิตในแบบที่เธอเองต้องการ เพราะทุกอย่างอยู่ภายใต้การบงการของพ่อหมด

  • ต้นเหตุของเรื่องเริ่มขึ้นเมื่อ ‘บริทนีย์’ ที่กำลังโด่งดังมากเกิดอาการสติแตก (mental breakdown) เช่น อยู่ดีๆ ก็ลุกขึ้นมาโกนหัว คว้าร่มฟาดใส่รถของปาปาราสซี่ไม่ยั้ง จนต้องเข้ารับการบำบัดรักษาสภาพจิต แล้วหลังจากนั้น ศาลก็ได้ตัดสินให้เธออยู่ภายใต้ conservatorship ของผู้เป็นพ่อมาตั้งแต่ปี 2551 โดย conservatorship นี้หมายถึง การที่ศาลแต่งตั้งบุคคลหนึ่งเข้ามาทำหน้าที่จัดการดูแลสินทรัพย์ของบุคคลที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้เนื่องจากมีปัญหาทางการหรือทางจิต

  • นับแต่นั้นเป็นต้นมา ‘เจมี่ สเปียร์ส’ ก็ได้รับอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมายในการควบคุมดูแล และตัดสินใจแทบจะทุกเรื่องที่เกี่ยวของกับบริทนีย์ ไม่ว่าจะเป็นการเงิน สุขภาพ การทำสัญญาทางธุรกิจ หรือแม้กระทั่งชีวิตส่วนตัว

  • ถึงแม้จะมีปัญหาสุขภาพ แต่บริทนีย์ก็ยังคงออกผลงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะมากกว่าศิลปินที่มีสภาพร่างกายและจิตใจปกติดีด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยอัลบั้มหลายชุด เดินสายทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลก ทำโชว์ที่ลาสเวกัสอยู่หลายปี เป็นกรรมการรายการ X-Factorทั้งยังทำธุรกิจน้ำหอม และชุดชั้นในขายในชื่อของตัวเอง

162470998019

บริทนีย์ไปออกงาน MTV Video Music Awards (VMA) เมื่อปี 2015  credit : MARK RALSTON / AFP

  • หลังจากที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้เป็นพ่อมานานกว่า 10 ปี บริทนีย์ก็เริ่มส่งสัญญาณบางอย่างออกมาให้เห็นจนแฟน ๆ ของเธอเริ่มกังขาว่า conservatorship นี้เป็นผลดีกับนักร้องคนดังจริงหรือไม่ และถึงเวลาที่สมควรจะยกเลิกได้แล้วไหม ตามมาด้วยการเคลื่อนไหวเรียกร้องขออิสรภาพให้กับเธอ

  • ขบวนการ ‘คืนอิสระให้กับบริทนีย์’ หรือ FreeBritney Movement ที่แฟนๆ ของเธอร่วมกันทำ มีตั้งแต่การเปิดเว็บไซต์ FreeBritney.net ขึ้นมาในปี 2552 ตามด้วยการติดแฮชแท็ก #FreeBritney ในปี 2562 เพื่อเผยแพร่เรื่องนี้ทางโซเชียลมีเดีย แต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจในวงกว้างเท่าที่ควร

  • จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา บริทนีย์ได้ขึ้นให้ปากคำต่อศาล (แบบ virtual) เป็นครั้งแรก ซึ่งเธอได้ใช้เวลา 23 นาทีเล่าให้ฟังอย่างหมดเปลือกว่า ภายใต้การ conservatorship เธอถูกบังคับขู่เข็ญจากคนเป็นพ่ออย่างไรบ้างด้วยถ้อยคำที่สะเทือนใจจนคนทั่วโลก รวมถึงศิลปินในวงการพากันลุกขึ้นมาติดแฮชแท็ก #FreeBritney กันจนติดเทรนด์

162470972998

เหล่าแฟนๆ มาให้กำลังใจบริทนีย์หน้าศาล credit : Frederic J. BROWN / AFP

ฉันแค่ต้องการชีวิตคืน (I Just Want My Life Back)

  • ระหว่างขึ้นให้ปากคำต่อศาล Superior Court ในลอสแองเจลีส บริทนีย์ยอมรับว่าเธอโกหกคนทั้งโลกว่าตัวเองสบายดีมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพราะกลัวว่าถึงบอกไปคนนอก และศาลก็คงไม่เชื่อ และไม่จริงจังกับคำพูดของเธออยู่ดี

  • “ฉันไม่มีความสุขเลย ฉันนอนไม่หลับ ฉันโกรธมาก ฉันซึมเศร้า ฉันร้องไห้ทุกวัน พ่อของฉันและทุกคนที่เกี่ยวข้องกับ conservatorship รวมถึงทีมจัดการของฉัน...พวกเขาสมควรเข้าคุก มันไม่โอเคเลยที่มาบังคับให้ฉันทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ”

  • บริทนีย์บอกว่าเธออยากมีสิทธิ์ตัดสินใจในเรื่องพื้นฐานของชีวิตบ้าง แม้แต่การออกไปนั่งรถเล่นกับ Sam Asghari ที่เธอคบเป็นแฟนมานาน หรือการมีลูกเพิ่มอีกซักคน พวกเขาก็ไม่อนุญาตให้เธอทำ โดยพวกเขาถึงขนาดห้ามบริทนีย์ถอดห่วงอนามัยออกเพื่อป้องกันการมีลูก

  • นักร้องคนดังบอกด้วยว่าเธอถูกทีมบริหารจัดการ ‘บังคับ’ ให้ทำโชว์ที่ Las Vegas residency ทั้งที่เธอไม่อยากทำ แถมหมอที่บำบัดเธอยังโกหกด้วยว่าเธอไม่ยอมให้ความร่วมมือและไม่ยอมกินยา

  • บริทนีย์อ้างด้วยว่าเธอถูกบังคับให้รับยาลิเธียม (Lithium) ซึ่งใช้รักษาอาการไบโพลาร์ ทั้งที่เธอไม่ต้องการ ซึ่งยาตัวนี้ทำให้เธอเมา และสื่อสารไม่ค่อยรู้เรื่อง

  • บริทนีย์ร้องขอต่อศาลให้สั่งยกเลิก conservatorship โดยที่เธอไม่ต้องเข้ารับการประเมินใดๆ เพราะการที่เธอสามารถทำงานได้เป็นปกติก็แสดงให้เห็นว่าเธอไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของใครอีกแล้ว “ฉันเชื่อสนิทใจว่า conservatorship ทำร้ายตัวฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกว่าไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่

    162470983442

ภาพจำลองการพิจารณาคดีในศาล credit : Mona EDWARDS / AFP

  • ระหว่างที่ให้ปากคำ นักร้องคนดังถึงกับบอกต่อศาลว่าเธออยากให้ตัวเองสามารถพูดโทรศัพท์แบบนี้ไป “ตลอดกาล” เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องกลับไปใช้ชีวิตในแบบที่ต้องถูกรายล้อมไปด้วยคนที่เอาแต่บอกว่า “ไม่” กับเธอ

  • ปัจจุบัน ‘เจมส์ สเปียร์ส’ วัย 68 ดูแลสินทรัพย์ของลูกสาวที่มีมูลค่าเกือบ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1,900 ล้านบาท) ร่วมกับบริษัทจัดการสินทรัพย์มืออาชีพ Bessemer Trust ที่บริทนีย์ร้องขอไป

  • ทางด้านทีมกฎหมายของ เจมส์ สเปียร์ส ยืนยันว่าเขาทำทุกอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ทนายที่ศาลแต่งตั้งให้กับบริทนีย์บอกว่านักร้องคนดังกลัวพ่อตัวเอง และจะไม่กลับขึ้นเวทีเป็นอันขาดตราบใดที่ผู้เป็นพ่อยังควบคุมอาชีพการงานของเธออยู่

  • หลังจากที่บริทนีย์ขึ้นให้การต่อศาลก็มีเพื่อนร่วมวงการออกมาแสดงความเห็นใจเธอเป็นจำนวนมาก เช่น จัสติน ทิมเบอร์เลค ที่เคยเป็นแฟนเก่าของเธอในยุค90, มารายห์ แครีย์, ฮัลซีย์, แบรนดี้, ไมลีย์ ไซรัส, ปารีส ฮิลตัน ฯลฯ