ปรับชีวิตให้ดีด้วย 'เทคโนโลยี' ใกล้มือ

ปรับชีวิตให้ดีด้วย 'เทคโนโลยี' ใกล้มือ

รู้จัก 4 เครื่องมือ Life Hacks ที่จะทำให้ชีวิตง่ายและสะดวกขึ้น ด้วยเทคโนโลยีหรือแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่อยู่ใกล้ตัว

คิดว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Life Hacks กันมาบ้างแล้ว จากวันนี้ไปการใช้ชีวิตของเราจะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ หลายคนที่ยังไม่เข้าใจอาจจะกลัวๆ อยู่บ้างเพราะคำว่าแฮกๆ อะไรนี่ฟังดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ แต่คำว่า Life Hacking จริงๆ เป็นการแฮกชีวิตเราเอง เป็นการทำชีวิตของเราง่ายและสะดวกขึ้น ด้วยเทคโนโลยีหรือแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่อยู่ใกล้ตัว

1.เวลา เรามักไม่ได้วางแผนเรื่องของการใช้เวลาในแต่ละวันมากนัก อยากแนะนำให้ลองใช้แอพพลิเคชั่นพวก calendar เราสามารถลงตารางกิจกรรมหรือวางแผนกิจกรรมต่างๆ ไว้ใน calendar ง่ายๆ ในมือถือ นอกจากนั้นยังสามารถแชร์ให้คนอื่นได้เห็นตารางนี้ด้วยก็ได้

การที่เราวางแผนต่างๆ ไว้ได้ล่วงหน้า จะช่วยให้การทำงานของเราต้องแทบไม่เกิดการผิดพลาดเลย หากคุณแฮกเวลาได้จะทำให้ทุกอย่างในชีวิตดีมากขึ้น เช่น คุณสามารถจัดสรรเวลาในการประชุมพร้อมกันได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ง่ายๆ คือสามารถทำหลายอย่างได้พร้อมกัน

สิ่งที่ต้องทำคือ บริหารจัดการเวลาในการทำงานและกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวันให้เหมาะสม หลักการในการบริหารจัดการเวลาที่สำคัญคือ ใช้เวลาให้น้อยสุด แต่เกิดประสิทธิภาพมากสุด

2.งานหรือกิจกรรม แอพพลิเคชั่น task เช่น To do ใน Google สามารถลงกิจกรรมไว้ใน calendar ได้ และจะแจ้งเตือนให้เราทราบก่อนกิจกรรมจะเกิดขึ้นตามที่เราตั้งเวลาไว้ และยังช่วยเตือนความจำในเรื่องต่างๆ ได้ เช่น หากยังไม่สะดวกในการจดบันทึก คุณสามารถใช้ AI ในโทรศัพท์มือถือที่คุณอาจไม่เคยลองใช้อย่าง Siri หรือ Google Assistant มาช่วยบันทึกด้วยคำสั่งเสียง

ในรถรุ่นใหม่ๆ ก็สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้เกือบทั้งหมด อยากให้คุณลองใช้ ทั้งสะดวกทั้งปลอดภัย นอกจากนี้ ในการลงบันทึกในแอพเหล่านี้ควรกำหนดเวลาแล้วเสร็จของการทำงานให้แน่นอนว่าต้องเสร็จเมื่อใด การกำหนดเวลาที่แน่นอนจะช่วยทำให้ได้งานที่เพิ่มมากขึ้นด้วย

3.งานที่ต้องใช้สมาธิและช่วงเวลาพัก ตัวอย่างการแบ่งเวลา เช่น งานที่ต้องใช้สมาธิควรใช้เวลาประมาณ 48 นาทีแล้วพักสัก 12 นาที สลับกันไปก็ได้ จะทำให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และควรทำทีละอย่าง ที่สำคัญควรปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ที่มาจากมือถือ ทั้งใน Apple หรือ Android จะมีโหมดหนึ่งที่เรียกว่า do not disturb เป็นโหมดระงับการแจ้งเตือนชั่วคราว หากต้องการโฟกัสที่งานจริงๆ ควรใช้โหมดนี้

อีกเครื่องมือหนึ่งที่น่าสนใจที่ทั้งใน Apple และ Android มี ใน Android จะชื่อ Digital Wellbeing ส่วน iOS ให้คุณเข้าไปที่ Setting และไปที่ Screen Time เครื่องมือนี้จะช่วยวิเคราะห์ว่าวันหนึ่งๆ คุณใช้เวลากับโทรศัพท์นานแค่ไหนและทำอะไรบ้าง เช่น เปิดหน้าจอ แชท ใช้โซเชียลมีเดีย นานแค่ไหน ฟีเจอร์พวกนี้จะทำให้รู้ว่าเราเสียใช้เวลาไปกับอะไรบ้าง

ความดีเด่นของมันก็คือ มันตั้งค่าเพื่อควบคุมเวลาการใช้งานได้อีกด้วย ไม่ใช่แค่การควบคุมตัวเราเองแต่ยังสามารถควบคุมเวลาของเด็กๆ ได้อีกด้วย เวลาคือเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการควบคุมเด็กๆ นี่ก็ถือการแฮกวิธีการหนึ่งในเช่นกัน

4.สมดุลของงาน เราควรต้องรู้จักการแบ่งงานในแต่ละวัน งานแบบไหน มากหรือน้อย ยากหรือง่าย ต้องเสร็จเดี๋ยวนี้หรือยังไม่ต้องก็ได้ แอพพลิเคชั่นพวก Tools ที่เป็นเครื่องมือต่างๆ ที่เอามาใช้ได้

นอกจากนี้การแฮกชีวิตตัวเองในเรื่องอื่นๆ นอกจากที่เล่ามา เช่น การกิน บางคนกินแบบ Intermittent Fasting แบบคีโต หรือการกินที่ต้องควบคุมเวลา คุณสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่ช่วยควบคุมเวลาในเรื่องเหล่านี้โดยตรงมาใช้ได้เลย หรือเรื่องการนอน Apple Watch หรือ Smart Watch รุ่นใหม่ๆ สามารถตรวจสอบชั่วโมงในการนอนของเราว่าเป็นอย่างไร แถมรุ่นใหม่ๆ สามารถบอกปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายได้รับได้อีกต่างหาก จะทำให้เรารู้ว่าเรานอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่

นี่แหละครับ เทคโนโลยีใกล้มือคุณมาก มีอยู่หลากหลายที่สามารถแฮกช่วยชีวิตคุณได้เยอะ อยากให้ลองใช้ดู ใช้ไม่อยาก สามารถศึกษาวิธีใช้ได้ง่ายมาก ผมว่าลองค้นดูจะเจออีกหลายอย่างที่จะทำให้คุณตกใจว่าทำไมถึงไม่เอามาใช้ อยู่ใกล้มือมากขนาดนี้