‘จิบน้ำชายามบ่าย’ ชิลบนยอดไม้ ชมทะเลอันอามันที่โรงแรม ‘อมารี ภูเก็ต’

เรียกได้ว่าเป็นจุดเช็คอินสุดชิลแห่งใหม่ที่ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้บริเวณชายฝั่งทะเลอันเงียบสงบของรีสอร์ท พร้อมกับชุด "อาฟเตอร์นูน ที"  (Afternoon Tea)เสิร์ฟความอร่อยด้วยเมนูของว่าง และขนมหวานหลากหลายชนิด  หมูหวานมีโอกาสขึ้นไปนั่งรับลมเย็นสบายบนต้นไม้ ที่ทำไว้อย่างแข็งแรงไม่ต้องกลัวร่วง นั่งฟังเสียงคลื่นลม  อิ่มเอมกับทิวทัศน์ท้องทะเลอันดามันในมุมมองที่แปลกตา ใครสนใจต้องจองล่วงหน้า 24 ชั่วโมงเพราะที่มีจำกัดเพียง  1 โต๊ะเท่านั้น ราคาสำหรับ 2 ท่าน 680 ++บาท  หากไปกัน 3 ท่าน ราคา 820 ++ บาท  ชิลได้ 90 นาที เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. (สอบถามที่ 076 340106 ต่อ 85 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 20.00 น. ถือว่าเป็นจุด “เช็คอิน-กิน-เที่ยว” ที่หมูหวานประทับใจ

 

หากมาพักที่นี่นอกจากอาหารเช้าเสิร์ฟแบบเต็มอิ่มแล้ว ยังมีอาหารมื้อเที่ยงที่น่าสนใจ เดิมนักท่องเที่ยวต่างชาติจองเต็มพื้นที่คนไทยอย่างเราเบียดไม่สำเร็จเพราะตัวเล็กกว่า (ฮา) เนื่องจาก “อ่าวป่าตอง” แห่งนี้เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับชาวต่างชาติ ครานี้ “โควิด-19” ทำพิษ หลายโรงแรมก็เลยมีโอกาสเอาใจนักท่องเที่ยวชาวไทย สิ่งที่ดึงดูดคนไทยได้นอกจากสถานที่ “เช็คอิน-กิน-เที่ยว”สวยๆแล้ว อาหารต้องอร่อยถูกปากคนไทยด้วยนะจ๊ะ ดังนั้น ทางโรงแรม “อมารี ภูเก็ต”รีบจัดสำรับ “อาหารพื้นบ้าน” จังหวัดภูเก็ต สำหรับคนไทยไว้ที่ ห้องอาหารริมทะเล เรียกได้ว่านั่งฟังเสียงคลื่นซักสาดคลอเคล้าระหว่างมื้ออาหารช่างแสนมีความสุขจริง ใครต้องการโต๊ะริมทะเลสุดๆแบบหมูหวาน ต้องรีบจองนะคะ   

 

เชฟประจำ “ห้องอาหารริมทะเล” ปรุงอาหารพื้นเมืองภูเก็ต 12 เมนูให้เลือกชิม อาทิเช่น เบือทอดใส่กุ้ง, ฮูแช่(อาหารพื้นถิ่นคล้ายๆสลัดแขกเวลารับประทานต้องคลุกเคล้าน้ำยำให้เข้ากับเครื่องทั้งหมดก่อน), ปอเปี๊ยะสดภูเก็ต,หมี่หุ้นแกงปู,หมูฮ้อง,ปลาทรายทอดขมิ้น,ผักเหมียงผัดไข่,ต้มกะทิผักเหมียง,แกงส้มปลายอดมะพร้าว,กุ้งผัดสะตอ,ต้มส้มภูเก็ต และ แกงกะทิกุ้งใส่สับปะรด เลือก 3 เมนู ในราคาสุทธิ 590 บาท มื้อเที่ยงที่นี่เขาเปิดบริการยาวไปตั้งแต่เวลา 11.30 -19.00 น. สอบถามได้ที่ โทร. 076-340-106 ต่อ 8027 

หมูฮ้องเมนูพื้นบ้านแสนอร่อย 

"กุ้งผัสสะตอ" เป็นอีกเนูที่ไปทางใต้แล้วไม่ควรพลาด 

"แกงส้มปลายอดมะพร้าว" ปรุงโดยเชฟที่เป็นคนท้องถิ่น 

"ฮูแช่" อาหารพื้นถิ่นคล้ายๆสลัดแขกเวลารับประทานต้องคลุกเคล้าน้ำยำให้เข้ากับเครื่องทั้งหมดก่อน

บรรยากาศของห้องอาหารอิตาเลียน "ลา กริตต้า"

เมนูเรียกน้ำย่อย “คัปเปซานเต้” (Cappesante) หอยเชลลฮ์อกไกโดย่าง คู่กับซอสปาริก้า มายองเนส ไข่ปลาแซลมอน โรยบอททาร์ก้าป่น และใบมิ้นท์

ส่วน “อาหารมื้อค่ำ” ที่ห้องอาหาร “ลา กริตต้า” (La Gritta Italian Restaurant) นั้น หมูหวานแสนสำราญกับฝีมือ “เชฟแพททีเซีย แบททูอู” เธอปรุง “อาหารอิตาเลียน” แบบต้นตำรับ ให้ชิม 6 คอร์สด้วยกัน เริ่มจาก “คัปเปซานเต้” (Cappesante) หอยเชลลฮ์อกไกโดย่าง คู่กับซอสปาริก้า มายองเนส ไข่ปลาแซลมอน โรยบอททาร์ก้าป่น และใบมิ้นท์ส “เวลลูตาต้า ดิ ฟุงกี้ ปอร์ชีนี่” (Vellutata di Funghi Porcini) ซุปครีมเห็ด พร้อมด้วยดอกกะหล่ำอบและน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล  “ปัปปาเดลเล่ อิน ซัลซา ดิ ซัลซิสซา เอ คอสติเน ดิ ไมอาเล่ ” (Pappadelle in Salsa di Salsiccia e Costine di Maiale) เป็นเส้นพาสต้า ปัปปาเดลเล่เส้นสด เสิร์ฟคู่กับซี่โครงหมู ไส้กรอกสไตล์อิตาเลียน สมุนไพร และซอสมะเขือเทศ “ซอร์เบทโต้ อัลลิโมเน่” (Sorbetto al Limone) เลมอนซอร์เบต์ ล้างปากก่อนเริ่มเมนู “บราซาโต้ ดิ มันโซ่ เอ พูเร่ ดิ ปาตาเต้” (Brazato di Manzo e Pure di Patate) เนื้อแก้มวัววากิวตุ๋น เสิร์ฟคู่กับมันบด หรือจะเลือก “สปิโกล่า อัลลารานช่า” (Spigola all’arancia) สเต็กปลากะพง เสิร์ฟกับซอสส้ม และคอนญัก หน่อไม้ฝรั่งย่าง กับฟักทองบด จบสวยๆด้วยขนมหวานสไตล์อิตาเลียน คันโนลี่ (Cannoli) ขนมอบกรอบสอดไส้ชีสรีคอตต้า ช็อกโกแลตชิพ และน้ำตาลไอซิ่ง  เรียกได้ว่าแสนอิ่มเอมกับบรรยากาศและรสชาติของอาหาร

ซุปครีมเห็ด พร้อมด้วยดอกกะหล่ำอบและน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล  "เวลลูตาต้า ดิ ฟุงกี้ ปอร์ชีนี่"

เส้นพาสต้า ปัปปาเดลเล่เส้นสด เสิร์ฟคู่กับซี่โครงหมู ไส้กรอกสไตล์อิตาเลียน สมุนไพร และซอสมะเขือเทศ

"สเต็กปลากะพง" เสิร์ฟกับซอสส้ม และคอนญัก หน่อไม้ฝรั่งย่าง กับฟักทองบด

"เนื้อแก้มวัววากิวตุ๋น" เสิร์ฟคู่กับมันบด

พิซซ่าแสนอร่อยก็มีให้บริการด้วยนะคะ

คันโนลี่ (Cannoli) ขนมอบกรอบสอดไส้ชีสรีคอตต้า ช็อกโกแลตชิพ และน้ำตาลไอซิ่ง  

บรรยากาศห้องอาหารอิตาเลียน มีโซนด้านนอกรับลมทะเลฟังเสียงคลื่น และมีโซนห้องแอร์ให้เลือกด้วยนะคะ 

ต้องการโต๊ะอาหารติดทะเล ต้องรีบจองล่วงหน้านะคะ

บรรยากาศห้องพักแสนสบายมองเห็นวิวทะเล 

ระเบียงห้องพักแสนกว้างใหญ่ 

ต้องการ “เช็คอิน-กิน-เที่ยว” ที่ภูเก็ตเชิญได้ที่โรงแรม “อมารี ภูเก็ต” ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของหาดป่าตอง เพียงแค่ข้ามคลองปากบางตรงข้ามหมู่บ้านชาวประมง ก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศเงียบสงบ ท่ามกลางพันธุ์ไม้เขียวขจี มีชายหาดทอดยาว ห้องพัก 197 ห้อง ทั้งแบบซูพีเรียร์ ดีลักษ์ และสวีท แต่ละห้องมองเห็นวิวทะเล พร้อมระเบียงส่วนตัวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ รับกลิ่นอายท้องทะเลกันอย่างเต็มที่ นั่งฟังเสียงคลื่นกระทบชายฝั่งแบบหมูหวาน มองเห็นทิวทัศน์ 3 หาด ก็คือ หาดป่าตอง หาดกะหลิม และหาดไตรตรัง เพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวชาวไทย นอกจากปรับปรุงเรื่องอาหารให้อร่อย มีอาหารพื้นถิ่นบริการแล้ว ยังมีจุดเช็คอินถ่ายรูปสวยๆใหม่ๆอีกไม่ต่ำกว่า 10 จุด แถมยังเข้าร่วมโครงการ "้เราเที่ยวด้วยกัน" ของทางรัฐบาลอีกด้วย เข้าไปเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ destination.amari.com/en/Phuket

ห้องอาหารริมทะเลอยู่ใกล้กับสระว่ายน้ำและชายหาด 

บริเวณล็อบบี้โรงแรม 

ชายหาดของโรงแรมที่ทอดยาว มีสะพานยื่นลงไปในทะเล ให้เช็คอิน ถ่ายภาพสวยๆ และกิจกรรมตกปลา