รู้จัก ‘น้อยหน่าออสเตรเลีย’ ผลไม้สารอาหารสูงของโลกปี 2020

เรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่เสมอ โดยเฉพาะในอีก 30 ปีข้างหน้า โลกเราอาจเกิด 'ภาวะขาดแคลนอาหาร' อ้างอิงจากข้อมูลของ สหประชาชาติ (UN) ที่คาดการณ์ไว้ว่าโลกต้องเพิ่มปริมาณการผลิตอาหารขึ้นเป็นสองเท่าเพื่อป้อนให้กับประชากรโลกในปี 2050 ดังนั้นการค้นหาอาหารที่มีโภชนาการสูงสุด เพื่อลดปริมาณการรับประทานน้อยลงแต่ยังคงได้รับประโยชน์จากอาหารนั้นได้มากที่สุด จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ

มีการศึกษาหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว นั่นคืองานวิจัยเรื่อง Uncovering the Nutritional Landscape of Food ซึ่งถูกตีพิมพ์ในวารสาร PLoS ONE เป็นการจัดอันดับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุด 1,000 ชนิด โดยหนึ่งในนั้นคือ Cherimoya หรือ น้อยหน่าออสเตรเลีย ผลไม้ม้ามืดที่น้อยคนจะรู้จัก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชวนมาหาคำตอบไปด้วยกันว่า ทำไมน้อยหน่าออสเตรเลียจึงถูกจัดอันดับให้เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดในโลกเป็นอันดับ 2 รองจากอันดับ 1 อย่าง อัลมอนด์

• Cherimoya คืออะไร

Cherimoya (เชอ-รี่-โม-ย่า) หรือภาษาไทยเรียกว่า น้อยหน่าออสเตรเลีย เป็นผลไม้ในวงศ์น้อยหน่า มีถิ่นกำเนิดในเอกวาดอร์และเปรู แต่มีการปลูกเพื่อการค้าอย่างแพร่หลายในประเทศชิลี โบลิเวีย สเปน สหรัฐ และนิวซีแลนด์

โดยผลของ Cherimoya จะสีตั้งแต่เขียวเข้มจนถึงเขียวอมเหลือง เมื่อผลแก่ผิวเปลือกจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และสามารถเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงพฤษภาคมของทุกปี สำหรับรสชาติของผล Cherimoya คล้ายกับ "น้อยหน่า" และ "น้อยโหน่ง" ในบ้านเราคือมีรสหวาน เนื้อนุ่ม โดยน้อยหน่า น้อยโหน่ง และน้อยหน่าออสเตรเลีย เป็นพืชที่อยู่ในสกุลเดียวกัน คือ Annona แต่มีสายพันธุ์แยกย่อยออกไป

- น้อยหน่า หรือ Sugar apple มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Annona squamosa

- น้อยโหน่ง หรือ Custard apple มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Annona reticulata

- น้อยหน่าออสเตรเลีย หรือ Cherimoya มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Annona cherimola 

• สารอาหารใน Cherimoya ที่เอาชนะผลไม้อื่นๆ

สำหรับ Cherimoya ถูกจัดอันดับเป็นอาหารที่มีคุณค่าโภชนาการสูงสุดอันดับ 2 ของโลก ที่มีคะแนนทางโภชนาการ 96 เต็ม 100 คะแนน จากศึกษาของนักโภชนาการ เรื่อง Uncovering the Nutritional Landscape of Food” ตีพิมพ์ในวารสาร PLoS ONE โดยสรรพคุณเด่นๆ ของผลไม้ชนิดนี้ ได้แก่ 

• อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

Cherimoya อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ได้แก่ กรดไคเรโนอิก ฟลาโวนอยด์ แคโรทีนอยด์ และวิตามินซี ที่จะช่วยยับยั้งสารที่ก่อให้เกิดความเครียด ความเจ็บป่วยเรื้อรัง รวมถึงป้องกันโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ

จากการทดลองพบว่าผลไม้ชนิดนี้มีสารอาหารอยู่ทั้งในเปลือกและเนื้อของผล แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่แนะนำให้รับประทานเปลือก เพราะสารต้านอนุมูลอิสระแคโรทีนอยด์ที่พบบนเปลือกของ Cherimoya อาจมีฤทธิ์แรงเป็นพิเศษ จนอาจจะเป็นพิษต่อร่างกายได้

• มีวิตามินบี 6 สูง

Cherimoya เป็นแหล่งวิตามินบี 6 ชั้นเยี่ยม โดยพบวิตามินบี 6 มากกว่าปริมาณที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน ถึง 30% เปรียบเทียบง่ายๆ คือเราสามารถรับประทาน Cherimoya เพียงแค่ 1 ผล ประมาณ (160 กรัม) ก็ทำให้ร่างกายได้รับวิตามินบี 6 ได้เพียงพอในหนึ่งวัน ซึ่งวิตามินบี 6 ได้แก่ เซโรโทนิน และโดพามีน มีส่วนสำคัญในการสร้างระบบประสาท ช่วยควบคุมอารมณ์ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้าโดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยจากการทดลองพบว่าผู้ที่มีระดับวิตามินบี 6 ในเลือดที่ต่ำนั้น มีการเชื่อมโยงต่อภาวะซึมเศร้าได้อย่างมีนัยสำคัญ

• มีลูทีน ป้องกันตาเสื่อมและต้อกระจก

Cherimoya อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแคโรทีนอยด์ซึ่งเป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระหลักในการช่วยรักษาดวงตา โดยมีการวิจัยพบว่า ลูทีน ยังสามารถลดความเสี่ยงต้อกระจกได้มากถึง 27%

• ป้องกันความดันโลหิตสูง

Cherimoya มีสารโพแทสเซียมที่สูงกว่าที่ร่างกายต้องการต่อวัน มากถึง 10% และสารแมกนีเซียมสูงมากถึง 6% โดยทั้งโพแทสเซียมและแมกนีเซียม เป็นสารที่ช่วยควบคุมความดันโลหิตในร่างกาย ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ที่อาจส่งผลถึงความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

• ป้องกันโรคทางเดินอาหารอักเสบ

Cherimoya มีเส้นใยอาหารเกือบ 5 กรัม ซึ่งมากกว่าที่ร่างกายต้องการต่อวันมากถึง 17% โดยเส้นใยที่พบในผลของ Cherimoya เป็นเส้นใยที่สามารถเลี้ยงแบคทีเรียดีในลำไส้มนุษย์ได้ ดังนั้นจึงสามารถช่วยเรื่องระบบขับถ่าย รวมถึงยังสามารถป้องกันโรคทางเดินอาหารอักเสบได้เช่นกัน

• น้อยหน่าออสเตรเลีย ทำเมนูอะไรได้บ้าง?

รสชาติของ Cherimoya มีเนื้อสัมผัสคล้ายครีมคัสตาร์ด ดังนั้นเมื่อผลสุกแล้วสามารถปอกเปลือกแล้วรับประทานสดๆ ได้เลย แต่เพื่ออรรถรสในการรับประทานให้อร่อยยิ่งขึ้น และสร้างความหลากหลายในรสชาติอาหาร จึงมีการรับประทานผล Cherimoya ในอีกหลายๆ รูปแบบ คือ

- สมูทตี้หรือน้ำปั่น นำเนื้อ Cherimoya ปั่นรวมกับผลไม้อื่นๆ เช่น กล้วย สับปะรด เบอร์รี่ ก็จะได้เครื่องดื่มสดชื่นเมนูใหม่

- นำมาทำสลัด โดยแกะเอาเนื้อน้อยหน่าออสเตรเลียมาฉีกหรือหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วใส่รวมในชามสลัด

- นำมาทำขนม ของหวาน โดยขนมยอดนิยม คือ ทาร์ตน้อยหน่าออสเตรเลีย

- นำมาค็อกเทล ก็ได้เช่นเดียวกัน โดยการคั้นเอาน้ำน้อยหน่าออสเตรเลียมาใช้แทนน้ำกะทิ หรือแทนเหล้ารัม

Cherimoya ได้รับความนิยมแค่ในบางประเทศเท่านั้น สำหรับประเทศไทยตามห้างสรรพสินค้าบางแห่งก็มีวางขายบ้างประปราย แต่ในอนาคตถ้าวันหนึ่ง Cherimoya ติดเทรนด์ฮิตของคนรักสุขภาพขึ้นมา เราก็อาจจะได้เห็นและได้ชิมเมนูที่ทำจาก Cherimoya กันมากขึ้นไปอีกแน่นอน

--------------------

อ้างอิง:  healthline.com , bbc.com , britannica.com