เมื่อเวลาทับซ้อน...หมุนวนมาชนกัน

ใครที่โหลดหนังไวรัส หรือซีรีส์ติดเชื้อโรค มาชมกันจนเอียนแล้ว ตอนนี้ค่าย Amazon Prime Video ออกซีรีส์เรื่องใหม่ Tales from the Loop ซีซั่น 1 มี 8 ตอนจบ ให้คนชอบหนังแนวไซ-ไฟ การเดินทางผ่านเวลา มาชมกันเพลิน ๆ
คนอยู่บ้านทำงานนาน ๆ ที่เริ่มจะเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ (แต่ก็ดีกว่าออกไปติดไวรัส) มีเวลาว่างก็ได้แต่เป็นชาวสตรีมมิ่งกันไป ซึ่งแน่นอนว่า...ตอนนี้มีหนังใหม่ ๆ จ่อคิวให้โหลดให้ชมกันไม่น้อย และรวมถึงมองหาหนังเก่า ๆ ที่เคยชอบเคยชม ซีรีส์เรื่องดังที่อาจดูไม่จบ หามาชมกันอีกรอบ
ซีรีส์เรื่องใหม่ Tales from the Loop ซีซั่น 1 มี 8 ตอนจบ ให้คนชอบหนังแนวไซ-ไฟ การเดินทางผ่านเวลา มาให้ชมเพลิน ๆ หนังเล่าเรื่องอย่างช้าเนิบ ใครคิดถึงซีรีส์เรื่องดัง Fringe ที่มีโลกคู่ขนาน ตัวละครเดินทางผ่านมิติไปสู่อีกโลกหนึ่ง มีบู๊แอ็คชั่น มีดราม่า เรื่องนี้ไม่เป็นเช่นนั้น หรือหนังประเภทย้อนเวลาไปอดีตบ้าง สู่อนาคตบ้าง เรื่องนี้ก็ไม่ได้เดินทางปรู๊ดปร๊าดขนาดนั้น หนังเดินกล้องไปช้า ๆ ไม่ได้ให้ใครไปไหน แต่เดินทางวน ๆ กันไปเหมือนชื่อเรื่อง
Tales from the Loop (ภาพ: Amazon Prime Video)
ซีรีส์เรื่องนี้มีผู้กำกับหลายคน คนหนึ่งกำกับกันไปตอนสองตอน และตอนสุดท้ายกำกับโดย โจดี้ ฟอสเตอร์ (Jodie Foster) ในฐานะเป็นดาราดังพอมาเป็นผู้กำกับก็ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้น่าสนใจขึ้น หนังแนวนี้ถ้าพล็อตเรื่องดี เดินเรื่องสนุก หนังก็ไปได้ อย่าง Fringe มี 5 ซีซั่น (2008-2013) ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง เป็นหนังไซ-ไฟเกี่ยวกับการเดินทางผ่านมิติไปสู่โลกคู่ขนานแม้รู้ว่าไม่มีจริง (หรืออาจมีจริงก็ได้) แต่หนังดูสนุก ตื่นเต้น มีเหตุการณ์ให้ลุ้นระทึก แต่ the Loop นั้นเดินเรื่องไปเรื่อย ๆ บรรยากาศในเมืองเล็ก ๆ ในโอไฮโอ ที่ศูนย์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ ก่อตั้งขึ้นโดย Russ Mercer รับบทโดย Jonathan Pryce ซึ่งเรียกย่อ ๆ ว่า the Loop
ชื่อเรื่องทำให้การเดินเรื่องวน ๆ ไปเป็นวงกลม เหมือนเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นแล้วเกิดขึ้นอีก หรือทับซ้อนกัน อดีตทับซ้อนกับปัจจุบันเหมือนวงจรชีวิตเราหมุนไปเจอกับเหตุการณ์ในอดีต พูดแล้วงง...ซึ่งถ้านักฟิสิกซ์ดูอาจคิดว่ามันมีความเป็นไปได้ตามหลักทฤษฎีสัมพันธภาพของไอสไตน์ เช่น ไอสไตน์บอกว่า ถ้าเราสามารถเดินทางได้เร็วกว่าแสง หรือเร่งความเร็วมากเท่าการเดินทางของแสง เราอาจเดินทางไปสู่อนาคตได้ แต่ต้องใช้พลังงานมหาศาล นักสร้างหนังจึงนำแนวคิดนี้ไปพัฒนาเป็นภาพยนตร์ นักเขียนก็จินตนาการไปว่าเมื่อเดินทางผ่านกาลเวลาได้ เราจะไปที่ไหนก็ได้ เช่นนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ H.G.Wells เขียนเรื่อง The Time Machine เพราะจินตนาการว่าสามารถเดินทางผ่านเวลาไปหาพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว และก็มีหนังสร้างตามมาอีกหลายเรื่อง อย่างซีรีส์เรื่อง Time After Time ก็มีทั้ง H.G.Wells เข้าไปในเครื่องย้อนเวลามาสู่อนาคต มีฆาตกร Jack the Ripper มาเจอกันจนเกิดเหตุวุ่นวาย
หนังย้อนเวลาดูสนุกเสมอ หาก the Loop ไม่เร้าใจแต่ดูแล้วมีลุ้นในใจอย่างลึก ๆ เงียบ ๆ เมื่อชาวบ้านในละแวกศูนย์วิทยาศาสตร์เจอเหตุการณ์ประหลาด ๆ ซึ่งดูไปก็ไม่ต้องการคำอธิบายให้มากความ มันคือการทับซ้อนของเวลา การพลิกผันเชิงฟิสิกส์ของนักเขียน ซีรีส์เรื่องนี้สร้างจากอาร์ตบุ๊คของนักออกแบบชาวสวีดิช Simon Stalenhag เป็นดิจิทัลบุ๊คแนวอนาคต แต่ตัวเขาเองสนใจทั้งเรื่องดิจิทัลและสิ่งแวดล้อม เรื่องราวน่าสนใจพอที่ค่ายหนังเอาไปสร้างเป็นซีรีส์ ใครสนใจอยากหาหนังสืออ่านราคาเล่มละ 29.38 เหรียญ ยังมีอาร์ตบุ๊คอีกสองเรื่อง น่าจะดำเนินเรื่องต่อจาก the Loop คือ Things from the Flood หนังสือปกแข็งราคา 35.58 และ The Electric State แนวหุ่นยนต์แห่งโลกอนาคต
หนังวน ๆ ดูให้งง ๆ มีดาราดัง Rebecca Hall รับบทแม่นักวิทยาศาสตร์ เป็นลูกสะใภ้ของผู้ก่อตั้ง the Loop และดาวเด่นคือดาราเด็ก โคล (Cole) ลูกชายคนเล็ก รับบทโดย Duncan Joiner ในตอนสุดท้ายโคลเข้าไปในป่าหาพี่ชายที่กลายเป็นหุ่นยนต์ เข้าไปหาพี่ชายอยู่วันครึ่งแต่กลับออกมาหาแม่ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ แม่ก็แก่แล้ว เวลามันเล่นตลกแล้วก็หมุนวนกลับมา เหมือนตอนแรกที่เด็กหญิงลอเรตต้า ออกตามหาแม่ที่ทำงานอยู่ที่ the Loop แม่ไปทำงานแล้วทำไมไม่กลับบ้าน ลอเรตต้ามาเจอกับโคล มาที่บ้านโคล แล้วพบว่าแม่ของโคลก็คือตัวเธอเอง
หนังจบซีซั่นแรกไปแล้ว แฟน ๆ บอกว่ารอดูซีซั่น 2 อีกก็ได้นะ ดูไปช้า ๆ ไม่ต้องตั้งคำถามมาก หนังอาจดูวกวน (เป็นวงกลม) กาลเวลาทับซ้อนกันไปมา เราคิดว่ามันเป็นไปได้ ไม่ใช่เรื่องจริง แต่มันก็อาจเกิดขึ้นได้ถ้ามนุษย์มีความรู้มากพอ
เมื่อปี 1994 เกิดเหตุดาวพฤหัสบดีถูกอุกกาบาตพุ่งชน ตอนนั้นชาวโลกตั้งกล้องโทรทรรศน์ชมดาวพฤหัสกันเพลิน มองเห็นจริง ๆ เป็นจุดเล็ก ๆ สีดำวิ่งเข้ามาชนดาวพฤหัสที่มีแถบสี (สีขาวดำเมื่อมองจากกล้อง) นักดาราศาสตร์คนหนึ่งพูดขึ้นว่า เราส่องกล้องมองเห็นดาวถูกชน แต่ถ้าคนบนดาวส่องกล้องมองเราอาจเห็นเรากำลังขี่ช้าง หรือเห็นไทยกับพม่ารบกันในสมัยอยุธยา
เวลาเป็นสิ่งเดียวที่ไม่มีวันตาย เป็นนิรันดร์ และมักเล่นตลกกับมนุษย์...




