ตำนาน 'นางสงกรานต์' ชวนรู้จัก 'โคราคะเทวี' คือใคร?

ตำนาน 'นางสงกรานต์' ชวนรู้จัก 'โคราคะเทวี' คือใคร?

ชวนรู้จักตำนาน “นางสงกรานต์” ทั้ง 7 องค์ที่เป็นความเชื่อคู่กับประเพณี "สงกรานต์" ของไทยมาทุกยุคทุกสมัย พร้อมเผยคำทำนายของนางโคราคะเทวี “นางสงกรานต์” ประจำปี 2563

แม้ว่าปีนี้คนไทยจะไม่ได้เล่นสาดน้ำในวัน “สงกรานต์” เหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด “โควิด-19” ยังไม่คลี่คลาย แต่ทางกระทรวงวัฒนธรรมออกประกาศว่ายังคงทำกิจกรรมตามประเพณี “สงกรานต์” ที่บ้านได้ เช่น สรงน้ำพระที่บ้าน, ขอพรผู้ใหญ่ระยะห่าง 1-2 เมตร, หมั่นล้างมือบ่อยๆ เป็นต้น นอกจากนี้อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจทุกปีก็คือ “นางสงกรานต์” ซึ่งในแต่ละปีจะสลับสับเปลี่ยนกันไปตามวันในหนึ่งสัปดาห์ แล้วแต่ว่าปีนั้นๆ วันมหาสงกรานต์จะตรงกันวันไหน

สำหรับปี 2563 วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันจันทร์ ดังนั้น “นางสงกรานต์” ของปีนี้จึงชื่อว่า “โคราคะเทวี” ส่วนจะมีที่มาและตำนานอื่นๆ เกี่ยวกับ "นางสงกรานต์" องค์นี้อย่างไรบ้าง ตามมาดูกันต่อทางนี้..

1. นางสงกรานต์ มีตัวตนจริงหรือไม่?

“นางสงกรานต์” ไม่ได้มีตัวตนจริง แต่เป็นเพียงคติความเชื่อที่ปรากฏอยู่ใน “ตำนานสงกรานต์” ซึ่งเป็นอุบายของคนโบราณให้สามารถจดจำวันปีใหม่ไทยหรือวันมหาสงกรานต์ได้ง่าย โดยสมมติให้นางสงกรานต์ทั้งเจ็ดคนเทียบกับวันแต่ละวันในหนึ่งสัปดาห์นั่นเอง

2. "โคราคะเทวี" และคำทำนายสุดโหดของปีนี้

วันมหาสงกรานต์ ในปี 2563 ตรงกับวันจันทร์ ดังนั้นจึงตรงกับนางสงกรานต์ที่มีชื่อว่า “โคราคะเทวี” ตามตำนานเล่าว่านางเป็นธิดาองค์ที่ 2 ของท้าวกบิลพรหม โดยมีลักษณะต่างๆ ตามคติความเชื่อคือ ทรงพาหุรัด ทัดดอกปีบ ทรงอาภรณ์แก้วมุกดา ภักษาหารเตลัง (น้ำมัน) พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จมาบนหลังพยัคฆ์ หรือ เสือ

ส่วน "คำนาย" เกี่ยวกับนางสงกรานต์ประจำวันจันทร์ถูกทำนายเอาไว้ว่า ปีนี้งูจักเกิดมีมาก คนทั้งหลายจักเกิดเป็นพยาธิมากนัก ฝนหัวปีดี หางปีไม่ดี ข้าวกล้าลางที่ดี ลางที่ก็ไม่ดี คนเกิดวันอังคารมีเคราะห์ คนเกิดวันพุธมีโชค

- เกณฑ์พิรุณศาสตร์ปีนี้ ศุกร์ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 600 ห่า ตกในเขาจักรวาล 240 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 180 ห่า ตกในมหาสมุทร 120 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 60 ห่า

- เกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีมิถุน ชื่อวาโย (ธาตุลม) น้ำพอประมาณ พายุจัด

- เกณฑ์นาคราชให้น้ำ ปีนี้ นาคราชให้น้ำ 1 ตัว ทำนายว่า ฝนทราม

- เกณฑ์ธัญญาหารชื่อ ปาปะ ข้าวกล้าในไร่นา จะได้ 1 ส่วน เสีย 10 ส่วน คนทั้งหลายจะตกทุกข์ได้ยากลำบากแค้น เพราะกันดารอาหารบ้าง จะฉิบหายเป็นอันมากแล ฯ

158633235831

3. “นางสงกรานต์” กับความเชื่อเกี่ยวกับพรหมโลก

มีจารึกที่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม บอกเล่าเกี่ยวกับตำนานของ “นางสงกรานต์” ทั้ง 7 คนเอาไว้ว่า นางสงกรานต์มีความเกี่ยวข้องกับ “ท้าวกบิลพรหม” หรือ “ท้าวมหาพรหม” เทพผู้สถิตอยู่บนพรหมโลกชั้นที่ 3 มหาพรหมภูมิมีหน้าที่สอดส่องดูแลมวลมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย และพระองค์ทรงมีพระธิดา 7 องค์

ครั้งหนึ่ง “ท้าวกบิลพรหม” เกิดอยากทดสอบปัญญาของมนุษย์หนุ่มผู้หนึ่งนามว่า “ธรรมบาลกุมาร” (ผู้เป็นบุตรของเศรษฐี ที่พระอินทร์ประทานให้ลงมาจุติ) จึงเสด็จลงมาจากสวรรค์เพื่อมาถามปัญหากับธรรมบาลกุมาร 3 ข้อ โดยมีเงื่อนไขว่า หากธรรมบาลกุมารตอบได้ ท้าวกบิลพรหมก็จะตัดเศียรของตนเพื่อบูชาแก่กุมาร แต่ถ้าตอบไม่ได้ ท้าวกบิลพรหมจะตัดศีรษะธรรมบาลกุมารเสีย

โดยคำถามที่ท้าวกบิลพรหมถามธรรมบาลกุมาร ก็คือ “ตอนเช้าศรีอยู่ที่ไหน ตอนเที่ยงศรีอยู่ที่ไหน และตอนค่ำศรีอยู่ที่ไหน” ด้านธรรมบาลกุมารขอเวลา 7 วันเพื่อไปหาคำตอบมาให้ท้าวกบิลพรหม ธรรมบาลกุมารคิดหาคำตอบอยู่นานแต่ก็คิดไม่ออก

จนล่วงเข้าวันที่ 6 ธรรมบาลกุมารบังเอิญได้ยินนกอินทรีสองผัวเมียคุยกันเกี่ยวกับเรื่องคำถามที่ท้าวกบิลพรหมถามตนเอง และวางแผนที่จะกินศพตนเองเพราะเชื่อว่าตนไม่สามารถตอบคำถามได้ และต้องถูกท้าวกบิลพรหมฆ่าตายแน่นอน ซึ่งนกอินทรีเผลอเฉลยคำตอบออกมา ธรรมบาลกุมารพอได้ฟังก็จดจำคำตอบนั้นไว้  วันถัดมาซึ่งครบกำหนด 7 วันตามสัญญา ธรรมบาลกุมารจึงนำคำตอบที่ได้ยินจากนกไปตอบกับท้าวกบิลพรหม ท้าวกบิลพรหมตกใจที่ธรรมกุมารสามารถตอบได้ถูกต้อง แต่ก็ต้องทำตามคำพูดของตนเองท่ีเคยลั่นสัจจะวาจาไว้

4. เหตุอาเพศจากเศียรท้าวกบิลพรหม

หลังจากที่ “ท้าวกบิลพรหม” รู้ตัวว่าจะต้องตายโดยการตัดเศียรของตนเพื่อบูชาธรรมบาลกุมาร จึงตรัสเรียกธิดาทั้ง 7 องค์ อันเป็นบาทบาจาริกาพระอินทร์มาประชุมพร้อมกัน แล้วบอกว่าพ่อจะตัดเศียรตัวเองเพื่อบูชาธรรมบาลกุมาร แต่เศียรของพ่อนี้หากตั้งไว้บนแผ่นดิน ไฟก็จะไหม้โลก หากโยนขึ้นไปบนอากาศ ฝนก็จะแล้ง หากนำไปทิ้งในมหาสมุทร น้ำก็จะแห้ง

ดังนั้นจึงให้ธิดาทั้งเจ็ดหาพานมารองรับเศียรของตน ไม่ให้ตกลงบนพื้นโลก หรือพื้นน้ำ หรือบนอากาศ แล้วจึงตัดเศียรตนให้นางทุงษะ ผู้เป็นธิดาองค์โตนำวางบนพาน จากนั้นนางทุงษะก็อัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหมเวียนขวารอบเขาพระสุเมรุ 60 นาที แล้วเก็บรักษาไว้ในถ้ำคันธุลี ในเขาไกรลาศ

จากนั้นมาทุกๆ 1 ปี ธิดาของท้าวกบิลพรหมทั้ง 7 ก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาทำหน้าที่อัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหมแห่ไปรอบเขาพระสุเมรุ เป็นเวลา 60 นาที แล้วประดิษฐานตามเดิม ในแต่ละปีนางสงกรานต์แต่ละนางจะทำหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันตามวันมหาสงกรานต์นั่นเอง

158633235749

5. นางสงกรานต์ทั้ง 7 มีใครบ้าง?

สำหรับนางสงกรานต์ที่จะต้องผลัดเปลี่ยนกันมาถือพานเศียรของท้าวกบิลพรหม ตามคติความเชื่อในวันมหาสงกรานต์ แต่ละนางจะมีนาม อาหาร อาวุธ สัตว์ที่เป็นพาหนะแตกต่างกันไป ดังนี้

- วันอาทิตย์ นางสงกรานต์นาม “ทุงษะเทวี” ทรงพาหุรัดทัดดอกทับทิม อาภรณ์แก้วปัทมราช ภักษาหารอุทุมพร (ผลมะเดื่อ) พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จมาบนหลังครุฑ แต่ทางล้านนาจะมีความเชื่อว่าวันอาทิตย์ ชื่อ นางแพงศรี

- วันจันทร์ นางสงกรานต์นาม “โคราคะเทวี” ทรงพาหุรัดทัดดอกปีบ อาภรณ์แก้วมุกดา ภักษาหารเตลัง (น้ำมัน) พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จมาบนหลังพยัคฆ์ (เสือ) แต่ทางล้านนาจะมีความเชื่อว่าวันจันทร์ ชื่อ นางมโนรา

- วันอังคาร นางสงกรานต์นาม “รากษสเทวี” ทรงพาหุรัดทัดดอกบัวหลวง อาภรณ์แก้วโมรา ภักษาหารโลหิต พระหัตถ์ขวาทรงตรีศูล พระหัตถ์ซ้ายทรงธนู เสด็จมาบนหลังวราหะ (หมู) แต่ทางล้านนาจะมีความเชื่อว่าวันอังคาร ชื่อ นางรากษสเทวี 

- วันพุธ นางสงกรานต์นาม “มณฑาเทวี” ทรงพาหุรัดทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้วไพฑูรย์ ภักษาหารนมเนย พระหัตถ์ขวาทรงเข็ม พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จมาบนหลังคัทรภะ (ลา) แต่ทางล้านนาจะมีความเชื่อว่าวันพุธ ชื่อ นางมันทะ

- วันพฤหัสบดี นางสงกรานต์นาม “กิริณีเทวี” ทรงพาหุรัดทัดดอกมณฑา อาภรณ์แก้วมรกต ภักษาหารถั่วงา พระหัตถ์ขวาทรงขอช้าง พระหัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จมาบนหลังคชสาร (ช้าง) แต่ทางล้านนาจะมีความเชื่อว่าวันพฤหัส ชื่อ นางัญญาเทพ 

- วันศุกร์ นางสงกรานต์นาม “กิมิทาเทวี” ทรงพาหุรัดทัดดอกจงกลนี อาภรณ์แก้วบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จมาบนหลังมหิงสา (ควาย) แต่ทางล้านนาจะมีความเชื่อว่าวันศุกร์ ชื่อ นางริญโท

- วันเสาร์ นางสงกรานต์นาม “มโหธรเทวี” ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว อาภรณ์แก้วนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทรายพระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล เสด็จมาบนหลังมยุรา (นกยูง) แต่ทางล้านนาจะมีความเชื่อว่าวันเสาร์ ชื่อ นางสามาเทวี

---------------------

ที่มา:

http://www.horonumber.com/news-3714

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%

http://www.prapayneethai.com/%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%