Woodland เมืองไม้ งานแกะสลักชั้นเลิศ

Woodland เมืองไม้  งานแกะสลักชั้นเลิศ

่ลองแวะไป Woodland เมืองไม้ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม แล้วจะรู้ว่า งานแกะสลักไม้ในเมืองไทยไม่ธรรมดา

...................

มีหลายคนบอกว่าWoodland เมืองไม้ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นพิพิธภัณฑ์งานไม้แกะสลักที่ดีมาก

ถ้าไม่ไปชมสักครั้ง ก็ไม่รู้ว่า เหมือนคำเล่าลือหรือไม่...

เมื่อมายืนอยู่ที่ Woodland เมืองไม้ ริมแม่น้ำท่าจีน

สิ่งแรกที่สัมผัส คือ ความร่มรื่น และเรื่องราวของไม้ ตั้งแต่ไม้แกะสลักชิ้นใหญ่ ชิ้นกลาง และเล็ก รากไม้ใหญ่ ไม้กลายเป็นหิน บ้านคนรักษ์ไม้ รวมถึงศิลปะการจัดวางพิพิธภัณฑ์แต่ละส่วนที่มีชีวิตชีวา

งานไม้หลายชิ้นอายุไม่ต่ำกว่าร้อยปี บางชิ้นมาไกลจากพม่า เขมร บางชิ้นมีอยู่ชิ้นเดียวในประเทศไทย น่าเสียดายที่พิพิธภัณฑ์ดีๆ แบบนี้ คนไทยไม่ค่อยมาเยือน เพราะเห็นว่า ค่าเข้าชมราคาสูง (250 บาท)

ถ้าจะเปรียบเทียบระหว่าง Woodland เมืองไม้ กับพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศ ที่นี่ไม่เป็นรองใคร

 

-1-

งานไม้กว่าหมื่นชิ้นที่ ณรงค์ ทิวไผ่งาม เจ้าของ Woodland เมืองไม้ ซึ่งเคยเป็นครูสอนหนังสือมานานกว่า 20 ปี และเจ้าของโรงเรียนทิวไผ่งาม ตระเวนหามาทั้งชีวิต รวมถึงให้ศิลปิน Dante Valldellon ที่เคยมีผลงานแกะสลักงานในโบสถ์ Saint Peter ในกรุงวาติกัน และยุโรป มาสร้างผลงานชิ้นเอกเรื่องราวพระเยซู จำนวน 19 ชิ้น ในห้องคริสต์

“ดันเต้ ศิลปินคนนี้เป็นชาวฟิลิปปินส์ เชื้อสายสเปน เขานับถือคริสต์ เคยทำงานแกะสลักไม้ที่เยอรมันกว่าสามสิบปี ผมไปเจอที่เยอรมัน ก็เลยชวนมาทำงานแกะไม้ ในห้องคริสต์แห่งนี้ ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่ สิ่งที่ผมทำ พ่อค้าส่วนใหญ่ไม่ทำหรอก แต่ผมรักไม้และรักศิลปะ“

งานไม้เหล่านี้ จึงมีทั้งมูลค่าที่ประเมินค่ามิได้ และคุณค่าทางศิลปะและจิตใจ

นอกจากห้องโถงคริสต์ที่มีงานแกะสลักไม้ 19 ชิ้น ยังมีห้องรากไม้ ห้องชาวเมืองไม้ ห้องโลกใต้บาดาล ห้องฮินดู ห้องพุทธ ฯลฯ แต่ละห้องมีการจัดวางศิลปะงานไม้ต่างๆ ตามชื่อห้อง และไม่ใช่ห้องเล็กๆ มีงานไม้ไม่กี่ชิ้น ส่วนใหญ่เป็นงานไม้ที่หลากหลาย ประมาณว่า ต้องค่อยๆ ละเลียดชม

ขอเพียงเดินเข้ามา ณ ที่แห่งนี้ ก็จะพบว่า เมืองไทยมีพิพิธภัณฑ์งานแกะสลักไม้ดีๆ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงชั่วโมง

 

-2-

 “เคยมีพระภิกษุสงฆ์มาชม แล้วบอกว่า ทำไมมีงานแกะสลักไม้ของคริสต์มากกว่าพุทธ ผมก็บอกว่าอยากให้ต่างชาติมาเห็นว่า เมืองไทยก็มีงานแกะสลักไม้ดีๆ เพราะศิลปะแบบพุทธ ในวัดวาอาราม หาชมที่อื่นได้ " ณรงค์ อธิบาย ระหว่างยืนอยู่หน้าภาพ The last supper งานแกะสลักนูน ต่ำ ความสูง 2 เมตร กว้าง 3 เมตร

เขา ชี้ให้ดูวิธีการแกะสลักดวงตาในเนื้อไม้ของภาพนั้น แล้วบอกว่า ศิลปินไทยไม่ค่อยทำแบบนี้ เพราะยาก

“ในห้องนี้ผมได้ความคิดมาจากโบสถ์เซนปีเตอร์ ที่กรุงโรม มหาชนหลั่งใหลไปชมผลงานไมเคิล แองเจโล แกะสลักพระแม่มารีย์ทรงอุ้มพระศพพระเยซู ทำด้วยหินอ่อนสีขาว ผมก็คิดว่า ประเทศไทยก็มีไม้สักดีๆ ผมจึงให้ศิลปินแกะ ใช้ไม้ซุงห้าต้น แกะเป็นรูปพระแม่มารีย์ทรงอุ้มพระศพพระเยซู ศิลปินคนนี้แกะละเอียดมากจนเห็นเส้นเอ็นที่ขา”

เมื่อถามถึง ระยะเวลาในการแกะสลักภาพทั้งหมด 19 ชิ้นในห้องคริสต์ เขาบอกว่า ดันเต้ใช้เวลาแกะสลักไม้อยู่ที่เมืองไม้ 15 ปี

แค่ได้ยินก็น่าทึ่งแล้ว ยิ่งได้สัมผัส ได้เห็น ก็ไม่อาจละสายตาไปจากภาพ

ส่วนห้องแสดงไม้แกะสลักห้องอื่นๆ  บางห้องมีเพลงบรรเลงเข้ากับบรรยากาศ อย่างห้องโลกใต้บาดาล นอกจากงานแกะสลักสัตว์น้ำนานาชนิด ยังมีภาพประกอบให้รู้สึกว่า ปลา(ไม้แกะสลัก)กำลังแหวกว่ายอยู่ในน้ำ

“ถ้าเห็นงานไม้ที่ไหน ผมก็ต้องซื้อ อย่างไปชายแดนเขมร ผมซื้อตุ๊กตาเขมรมาสามร้อยกว่าตัว แต่ละตัวเป็นนางในวรรณคดี ศิลปินเขมรแกะไม้เนื้อแข็งจากไม้ทั้งต้น และแกะในป่าตรงนั้นเลย ไม้เนื้อแข็งจะแกะยากกว่าไม้สัก แต่ละตัวที่ซื้อมาสูงสองเมตรใช้คนแบก 8 คน”

หากใครไม่เคยเห็นรากไม้สวยๆ ใหญ่ๆ ก็จะได้เห็นความมหัศจรรย์ที่วู้ดแลนด์ เมืองไม้ รากไม้บางชนิดจมอยู่ในดินและทรายหลายสิบหลายร้อยปี เจ้าของ Woodland เมืองไม้บอกว่า ต้องเอาเหล็กแท่งยาวๆ ขุดขึ้นมา อย่างรากต้นกันเกราอายุเป็นร้อยๆ ปี

-3-

งานไม้แต่ละชิ้น จึงมีที่มาที่ไป บางชิ้นศิลปินไทยแกะขึ้นมาด้วยอารมณ์ขันแบบไทยๆ คือตลกโปกฮา อย่างงานไม้ที่หนุมานอาสาพระรามไปเอายาที่เขาพระสุเมรุ และต้องไปให้ทันอาทิตย์ตกดิน ศิลปินแกะสลักหนุมานโดยใช้หางพันรอบภูเขา และบนยอดเขามีหญิงสาวรอคอยอยู่ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้หนุมานปีนขึ้นไปให้ถึงยอดเขา

คนรักไม้เช่น ณรงค์ ย้อนถึงสมัยหนุ่มๆ ตอนเป็นครูสอนภาษาอังกฤษทางภาคเหนือว่า ว่างๆ ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปดูช่างไม้แกะสลักงานแบบต่างๆ 

“เคยเห็นซุงทั้งต้นนำมาแกะสลักช้างสูงเท่าช้างจริงๆ พวกฝรั่งและญี่ปุ่นคงซื้อไปหมด ตอนนี้หายไปจากเมืองไทยแล้ว”

ว่ากันว่า เจ้าของ Woodland เมืองไม้ ไม่ได้แค่รักงานไม้ แต่มีความรู้เรื่องไม้ รู้คุณค่าและมูลค่าของงานไม้เป็นอย่างดี

“เวลาพ่อปลูกบ้าน ผมก็สังเกตว่า พ่อไม่ตอกเสาเข็มเลย พ่อผมเป็นกำนัน จึงให้ลูกบ้านมาช่วยกันขุดหลุมเมตรหนึ่ง แล้วพ่อก็ตัดไม้แผ่นหนึ่งรองก้นหลุม เอาเสาต้นหนึ่งตั้งเลย ผมเห็นตั้งแต่เด็ก บ้านไม้สองชั้นหลังนั้น ก็ยังอยู่ ถ้าปลูกบ้านปูนรื้อไปหลังหนึ่ง ขายไม่ได้เลย ถ้าเป็นบ้านไม้ ขายไม้ได้เป็นแสนเป็นล้าน”

 นอกจากเรียนรู้จากพ่อที่เป็นกำนัน เขายังเรียนรู้ด้วยตัวเอง อาศัยว่า มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษ เคยเรียนที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล

“ผมชอบงานไม้ตั้งแต่อายุ 14 น่าเสียดายว่า งานศิลปะในเมืองไทยไม่ค่อยมีการสนับสนุน อย่างผมไปปารีส ฝรั่งเศส ทุกหนึ่งตารางกิโลเมตรจะมีพิพิธภัณฑ์ของเอกชนและรัฐบาล แต่บ้านเรามีแต่ศูนย์การค้า สถานเริงรมย์”

 เพราะรักงานไม้ จึงต้องรู้จักคำว่า รอ งานบางชิ้นกว่าจะได้มา ณรงค์ต้องไปนั่งเฝ้า จนคนแกะสลักไม้ใจอ่อนยอมขายให้เขา เพราะเห็นว่า รักงานไม้จริงๆ ส่วนในเรื่องการจัดวางศิลปะพิพิธภัณฑ์งานไม้ เขาปล่อยให้ลูกชายที่เรียนจบปริญญาเอกด้านกฎหมายจากต่างประเทศ เป็นผู้วางแนวทาง

“พิพิธภัณฑ์ที่นี่ เปิดมาไม่นาน ขาดทุน เดือนหนึ่งเป็นล้าน ถ้าไม่ได้ทำด้วยใจรัก ผมไปเป็นทาร์ซานในป่าแล้ว ตอนนี้ผมอายุ 78 ยังมีภาระต้องหาเงินมาบริหารจัดการ เพราะผมรักงานไม้ทุกชิ้น และรักต้นไม้ทุกต้น”

ลองมาชมงานแกะสลักไม้ที่นี่ แล้วคุณก็จะหลงรัก Woodland เมืองไม้ และบอกว่า ค่าเข้าชม 250 บาทไม่แพงเลย

.........................

ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.Woodlandmuangmai.com