เรื่อง“ผิดผี”กับชีวิตสาวม้ง(2)

เรื่อง“ผิดผี”กับชีวิตสาวม้ง(2)

เรื่่องราวัฒนธรรมชุมชนชาวม้งที่หลายคนไม่รู้

......................

ด้วยสภาพปัญหาของผู้หญิงม้งที่เป็นหม้าย ผัวตาย ผัวซ้อม ถูกทอดทิ้ง ท้องนอกสมรส แต่ไม่อาจกลับสู่ครอบครัวเดิมของตนได้ เพราะได้ผ่านพิธีตัดผี ตัดขาดจากผีตระกูลเดิมที่เคยดูแลพวกตนอยู่ ครั้นออกจากครอบครัวสามีไปเมื่อใด พวกเธอจะไร้บ้าน ไม่มีที่ไป ไร้สถานะทางสังคมในทันที 

“เครือข่ายสตรีม้งในประเทศไทย” จึงได้ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ.2547 โดยในปีพ.ศ.2555 เครือข่ายสตรีม้งก็ได้ดำเนินโครงการร่วมกับแผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ สมาคมเพศวิถีศึกษา โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)พยายามหาทางออกให้กับผู้หญิงม้ง ด้วยการเข้าไปศึกษา ปรึกษาคนเฒ่า หมอผี คนทรง คนทำพิธีกรรม ผู้นำทางวัฒนธรรมในชุมชนชาวม้ง เพื่อหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน 

จนได้รับคำแนะนำจากลุงบล่าทอ แซ่โซ้ง ผู้นำพิธีกรรมที่ชาวม้งนับถือกันมาก บอกเล่าถึงวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนม้งเคยมีพิธีกรรมโบราณที่คนม้งแทบจะหลงลืมกันไปแล้วคือ “พิธีผู่” ซึ่งเป็นพิธีรับแม่ รับลูกสาวที่หย่าร้าง เป็นหม้าย ถูกทอดทิ้ง ท้องนอกสมรส ให้กลับบ้าน กลับมาเป็นสมาชิกของตระกูลแซ่เดิม คืนสู่ความคุ้มครองของผีในตระกูลพ่อแม่ตนได้ คนม้งหลายบ้านจึงได้เริ่มทำพิธีผู่ ในชุมชนชาวม้ง หลากหลายพื้นที่มานานหลายปีแล้ว

การรื้อฟื้นคืนชีวิตให้กับพิธีผู่ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2556 ที่บ้านแม่สาใหม่ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยมีครอบครัวนำร่องเข้าร่วม 3 ครอบครัว ทั้งครอบครัวม้งชาวคริสต์ พุทธ และนับถือผีบรรพบุรุษอย่างละ 1 ครอบครัว พวกเขาเอาไก่มาทำพิธีผู่ขับไล่สิ่งชั่วร้าย รับลูกสาวรับแม่กลับมาเป็นสมาชิกในบ้าน โดยได้เชิญผู้นำชาวม้งกับคนในชุมชนมาร่วมเป็นสักขีพยานจำนวนมาก 

ตลอดเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา ถึงจะมีการค้นพบ “พิธีผู่” และมีครอบครัวชาวม้งนำร่องทำพิธีผู่อันเป็นหนทางแก้ปัญหาให้ผู้หญิงม้งในโลกให้มีทางออก มีทางไป ด้วยการโอบอุ้มปกป้องจากครอบครัวเดิมของตน แต่ก็ยังมีคนม้งจำนวนมาก กังวลเคลือบแคลงไม่มั่นใจ กลัวการทำพิธีผู่จะ “ผิดผี” ขัดกับจารีตเดิมในวัฒนธรรมม้ง

การรับลูกสาวกลับบ้านจะทำความฉิบหายให้ครอบครัวของตนหรือไม่? การรับลูกสาวกลับบ้านจะนำปัญหาสารพัดเข้ามาในบ้านอีกด้วยหรือไม่ ดังเช่นปัญหาในการแบ่งมรดกให้ลูกชายที่ต้องสืบตระกูลต่อไป, ลูกสาวจะมาแย่งมรดกลูกชายหรือไม่, พิธีผู่จะทำให้ผู้หญิงม้งลุกขึ้นมาปฏิวัติชีวิต ไม่ยอมอดทน แห่กันหย่าร้างอย่างเป็นมหกรรมไปเลยหรือไม่ ,และสำหรับลูกสาวน้องสาวของตนที่มีลูกติดกลับมา หลานตาดำๆแป๋วๆนั้นจะเป็นเด็กในตระกูลแซ่ผีทางพ่อหรือทางแม่ ? ปัญหาเหล่านี้จะแก้ไขอย่างไร

 หลังจากเริ่มนำร่องทำพิธีผู่รับลูกสาวกลับบ้านของคนม้ง ปัญหาหลากหลายดังที่ปรากฏให้เห็นเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบชัดเจนเหล่านี้ ก็ได้ถูกนำขึ้นมาวางบนโต๊ะเพื่อหาคำตอบเคลียร์ๆชัดๆ ให้จะแจ้งไปเลยบนเวที “โครงการประกาศพิธีผู่นำร่องเพื่อรับลูกสาวกลับบ้าน” ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมม้ง,เครือข่ายสตรีม้งในประเทศไทย,แผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ สมาคมเพศวิถีศึกษา ซึ่งมีทั้งการเสวนา การลงนามรับรองสนับสนุนรับลูกสาวกลับบ้านด้วยความสมัครใจ โดยผู้นำชาวม้งในไทยทั้งหมด 15 แซ่ตระกูล และทุกคนที่ร่วมสนับสนุนในโครงการครั้งนี้ ณ โรงเรียนรวมไทยพัฒนา 2 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก ในวันที่ 23 กันยายน พ.ศ.2560 ที่ผ่านมา โดยมีคนม้งครอบครัวชาวม้งเข้าร่วมในโครงการนี้ 200 กว่าคน

ดิฉันได้เข้าไปร่วมสังเกตการณ์ ฟังการเสวนาเรื่องการรับลูกสาวม้งกลับบ้าน และได้พูดคุยกับพ่อเฒ่าแม่เฒ่าชาวม้งหลายคน ที่ได้ใช้พิธีผู่ปกป้องลูกสาวที่รักของตน ให้หลุดพ้นจากปัญหาไม่มีทางออกของชีวิตครอบครัวที่ล้มเหลว โหดร้าย สิ้นหวัง พังทลาย

ลุงฟื่อ แซ่ย่าง อายุ 66 ปี มาจากหมู่บ้านม้ง ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เล่าให้ดิฉันฟังว่า

“มีเรื่องกังวลอยู่มากว่าเมื่อมีพิธีผู่ จะเป็นเหตุทำให้ครอบครัวม้งแห่กันหย่าร้างรึเปล่า สำหรับผมแล้ว ผมบอกได้เลยว่า ไม่มีใครอยากหย่า ทุกคนอยากมีชีวิตที่ดี มีครอบครัวที่ดี ถ้าได้สามีดีใครจะอยากเลิกล่ะ กรณีของลูกสาวผม เธอต้องกลับมาเพราะอยู่กับผัวไม่ได้ ผัวไม่รัก ไม่ขยัน ผัวตี ทำร้ายร่างกายรุนแรงอยู่นานหลายปี หัวอกคนเป็นพ่อแม่ จะไม่รับลูกหรือ จะปล่อยให้ลูกทรมานอยู่กับปัญหานั้นหรือ เราทำพิธีผู่เพราะเป็นประสบการณ์ชีวิต มาจากความเข้าใจชีวิต ที่เห็นปัญหารุนแรงเกิดกับลูกของเรา อันนี้เป็นการแก้ปัญหา ไม่ใช่สร้างปัญหา 

ครอบครัวผมรับลูกสาวกลับมา 1 คน รับแม่กลับมา 1คน รับน้องสาวกลับมา 1คน ชีวิตทุกคนดีขึ้น ชีวิตทุกคนปกติดี ไม่มีความฉิบหายใดๆเกิดขึ้นกับครอบครัวผม ครอบครัวเราอยู่กันดี ได้ลูกสาวน้องสาวมาช่วยกันทำสวนส้ม สวนลิ้นจี่ มาช่วยกันทำนาปลูกข้าว เลี้ยงวัวควาย ลูกสาวผมตอนนี้มีครอบครัวใหม่ไปแล้ว มีชีวิตดีขึ้นไปแล้ว อันนี้เป็นประสบการณ์โดยตรงของผม ผมมาจากเชียงใหม่ อยากมาแบ่งปันมาเล่าเรื่องนี้ให้ได้ฟังกัน”

ลัดดา ยืนยงคีรีมาศ สาวม้งอายุ 40 ปี จาก จ.เชียงใหม่ ที่พ่อแม่ทำพิธีผู่รับเธอกลับบ้านมาหลายปี เล่าให้ดิฉันฟังว่า เธอมีลูก 3 คนแต่โดนผัวขี้เหล้าซ้อมหนัก เวลาผัวเมาจะล็อคคอเธอ จิกหัว เตะกระทืบ ตบตี ไม่มียั้งมือ ผัวทำกับเธอเช่นนี้มาตลอดหลายๆปี ผัวไม่ยอมให้เลิก แต่เธอทนไม่ไหว สุดกำลังจะอดทน เธอตัดสินใจเลิก ไม่เอาแล้วผัวคนนี้ ยังไงก็ต้องเลิก โชคดีที่พ่อแม่ทำพิธีผู่รับเธอกลับบ้าน เธอเหมือนได้ชีวิตมนุษย์กลับคืนมา ทุกวันนี้น้องลัดดามีความสุขมากที่ได้อยู่กับพ่อแม่ ได้ดูแลพ่อแม่ของเธอ

ในการเสวนาครั้งนี้คำถามต่างๆ ที่ซุกอยู่ใต้พรม ใต้ความกังวลใจในการทำพิธีผู่ ล้วนได้รับคำตอบแจ้งชัดจากผู้นำชาวม้ง ดังเช่น การทำพิธีผู่ไม่ได้สร้างปัญหาในเรื่องการแบ่งมรดก เพราะจารีตของชาวม้ง ลูกสาวไม่มีสิทธิ์เรียกร้องในเรื่องรับมรดกอยู่แล้ว แต่พ่อแม่จะให้มรดกกับลูกคนไหนเป็นสิทธิโดยชอบธรรมของพ่อแม่ เรื่องสมบัติเป็นเรื่องของพ่อแม่ ลูกๆต้องเคารพการตัดสินใจของพ่อแม่, การรับลูกสาวกลับบ้านมานั้น เรื่องของหลานๆ ที่พ่อหลานไม่เอาแล้วมาอยู่กับแม่ จะใช้แซ่ฝ่ายพ่อหรือฝ่ายแม่ 

มีข้อสรุปจากผู้อาวุโสชาวม้งทั้ง 18 แซ่ตระกูลในโลกว่า ให้เด็กใช้แซ่แม่ไปจนอายุ 20 ปี แล้วจึงค่อยให้ลูกเลือกเองว่าจะใช้แซ่ฝ่ายพ่อหรือฝ่ายแม่ ส่วนเรื่องความฉิบหายของครอบครัวที่รับลูกสาวกลับบ้านนั้น คำตอบดูจะเห็นชัดจากการที่รัชดา วชิรญาณ ประธานเครือข่ายสตรีม้งในประเทศไทย ได้กล่าวรื้อถอนข้อห้ามเดิม และอวยพรสิ่งดีๆให้กลับมาสู่ผู้หญิงและครอบครัวชาวม้ง ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้

 “ขอเป็นตัวแทนในการรับลูกสาวกลับบ้าน ชาวม้งเราเป็นคนควบคุมผี เราว่าอย่างไรผีว่าอย่างนั้น ถ้าเราบอกว่าดี ผีจะทำอะไรไม่ได้ ในฐานะอาหญิง (หมั่วเพ้า-Muamphauj) ที่จะแก้คำสาป วันนี้ขอเป็นตัวแทนรับลูกสาวกลับบ้าน ใครยังไม่อาจทำพิธีนี้ขอให้ดูจากเพื่อนบ้าน วันหนึ่งจะเข้าใจและทำพิธีนี้ได้ทุกคน

วันนี้ขออวยพรให้กับลูกสาวม้งทุกคน ใครตั้งใจให้ชีวิตเป็นแบบไหนขอให้ประสบความสำเร็จตามนั้น ขอให้สำเร็จในการทำมาหากิน ครอบครัวใดจะรับลูกสาวกลับบ้าน ขอให้สำเร็จมั่งมีเงินทอง

ในฐานะอาหญิง ขอต้อนรับลูกสาวกลับบ้าน ให้มีสิ่งดีในชีวิต ทุกคนที่รับลูกสาวกลับบ้านขอให้เจริญก้าวหน้า ประสบความสำเร็จทุกคน”

หลังจากอาหญิงรัชดา วชิรญาณ กล่าวถอนคำสาปให้สาวม้งอย่างเป็นทางการ ครอบครัวม้งสามารถทำพิธีผู่รับลูกสาวทุกข์ยากกลับคืนสู่ครอบครัวของพ่อแม่ได้แล้วโดยไม่มีข้อกังขา ผู้นำชาวม้งทั้งหมด 15 แซ่ตระกูลในประเทศไทย ก็ร่วมลงนามสนับสนุนรับลูกสาวม้งกลับบ้านด้วยความชื่นมื่น ทุกคนในหอประชุมแห่งนี้ต่างอุ่นใจ อิ่มใจ สุขใจยิ่งที่ผู้ใหญ่ชาวม้ง เครือข่ายสตรีชาวม้ง หมอผี คนทรง ผู้นำทางประเพณีวัฒนธรรม ได้ร่วมแรงร่วมใจฝ่าฟันหาทางออกของปัญหาให้กับลูกสาวที่ทุกข์ยากของพวกเขา ให้สามารถมีที่ยืนในสังคมม้งและสังคมไทยได้อย่างแข็งแรงอีกครั้ง หลังจากต้องเจอกับครอบครัวพังทลาย ที่ในอดีตจารีตประเพณีโบราณของคนม้งอันเคยสอดคล้องกับวิถีดั้งเดิม หากเมื่อโลกเปลี่ยนไป จารีตเก่าที่เคยเป็นเสาหลักทางวัฒนธรรมเหล่านั้น ได้กลับกลายสภาพมาถล่มทับพวกเธอ เป็นเสมือนเสาเข็มตอกตรึงให้ชีวิตหญิงม้งจมลึกในความมืด ไม่มีทางออกใดๆให้กับพวกเธอได้

แต่ก็ด้วยจารีตประเพณีนี้อีกเช่นกัน พิธีผู่ที่ถูกหลงลืมไปเกือบหมดสิ้นในวันวานของชาวม้ง ก็ได้มีผู้ใหญ่ชาวม้ง ค้นพบสติปัญญาของบรรพชนที่เคยให้ทางออกกับหญิงม้งเอาไว้ และนำพิธีกรรมโบราณนี้กลับมาใช้ในการแก้คำสาป มาปลดปล่อยลูกสาวชาวม้งที่บอบช้ำตรากตรำสาหัสกับปัญหาชีวิตให้กลับบ้านสู่อ้อมอกอุ่นของพ่อแม่พี่น้องที่จะเยียวยาปกป้องพวกเธอไว้ได้

ในสังคมชนเผ่าที่จารีตโบราณสำคัญสูงสุด เรื่องผิดผีจะไม่อาจแก้ไขได้ด้วยกฎหมาย หรือระเบียบวิธีใดๆของโลกสมัย แต่ความเข้าใจในปัญหาของโลกเปลี่ยนไป คือแรงผลักสำคัญยิ่งให้แต่ละชุมชน กลับไปค้นหาแสงสว่างและทางออกจากปัญหาซึ่งบรรพชนผู้มีปัญญาลึกซึ้งในทุกแห่งหน ได้เตรียมทุกสิ่งไว้ให้ลูกหลานพร้อมอยู่แล้ว ขึ้นกับว่าสมาชิกในชุมชนและผู้นำปัญญาของแต่ละชุมชนนั้น จะสามารถร่วมมือร่วมใจค้นหาทางออกที่แทบจะถูกหลงลืมไปหมดสิ้นนั้นได้หรือไม่ 

ปรากฏการณ์ของพิธีผู่ในครั้งนี้ บอกเล่าให้ดิฉันรู้ว่า ทางออกของปัญหาในแต่ละชุมชน ยังมีอยู่เสมอ และทางออกนั้นก็ยังคงรอ “เวลาอันเหมาะสม” อยู่เงียบๆในที่ใดที่หนึ่ง เพื่อกลับมาเป็นแสงสว่างให้กับคนทุกข์ คนลำบาก ได้พึ่งพาอาศัย ให้กลับมามีสันติสุขในชีวิตปัจจุบันของตน

หมอยาพื้นบ้านท่านหนึ่งเคยบอกดิฉันไว้นานหลายสิบปีแล้วว่า ปัญหาอยู่ที่ไหน ป่วยไข้ตรงไหน ยาจะอยู่ตรงนั้น เป็นดังนี้ทั่วทุกชุมชน ทั่วทุกพื้นที่ในโลก

ดังนั้น เมื่อปัญหาเกิดเพราะพิธีกรรมอันเกี่ยวเนื่องกับ “ผี” และจารีตแห่งการ “ผิดผี”

การแก้ไขปัญหาก็ต้องแก้ด้วยผีและพิธีกรรมเกี่ยวกับผี ไม่ใช่นำเงื่อนไขอื่นใดนอกเหนือจากนี้มาเป็นกุญแจถอดสลักเปิดประตูให้พบทางออกจากปัญหา

สติปัญญาของผู้ใหญ่ชาวม้งในการค้นพบพิธีผู่ นำเรื่องของ “พิธีกรรม” และ “ผี” มาช่วยไขกุญแจประตู เปิดรับให้ลูกสาวม้งกลับบ้าน หลังจากออกไปเผชิญทุกข์ร่อนเร่ตรากตรำยาวนาน...บอกเล่ายืนยัน ให้ดิฉันมั่นใจในความจริงที่หมอยาพื้นบ้านโบราณ ถ่ายทอดและสั่งสอนฝากมรดกแห่งสัจจะนี้ไว้...มายาวนานนัก