ชีวิตเฉียดตาย คุณย่านักดนตรี

เพราะเฉียดตาย ชีวิตก็เลยต้องเปลี่ยนแปลง
................................
“ก่อนจะตาย เราต้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”
มาลินดา เฮอร์แมน วัย 68 ปี ผู้ชื่นชอบการดีดกีตาร์และร้องเพลงสากลยุค 70 ซึ่งโด่งดังจากโลกออนไลน์ เล่าบนเวที The Last Talk เสียงสุดท้ายจากผู้ใกล้ชิดความตาย ของเครือข่ายพุทธิกาและหลายหน่วยงาน
นอกจากความสดใสร่าเริงตามวัย ความสามารถในการดีดกีตาร์และร้องเพลงของมาลินดาหรือย่าลิน ก็เป็นเรื่องที่หลายคนทึ่ง เพราะไม่ค่อยได้เห็นคนสูงวัยเช่นเธอออกมาดีดกีตาร์ร้องเพลง และยังมีแง่มุมชีวิตที่น่าสนใจ
“ไม่ว่าย่าลินจะตายตอนนี้ หรือ ตอนไหน ขอร้องเพลงให้เต็มที่ก่อน” มาลินดา เล่า จากนั้นดีดกีตาร์คลอเบาๆ แล้วเริ่มฮัมเพลง ซึ่งกว่าจะขึ้นเวทีแบบนี้ได้ หมาแมวที่บ้านต้องฟังเธอเล่นดนตรีมาหลายร้อยรอบ
แม้โจทย์งานนี้ให้ขึ้นมาพูดคือเรื่องความตาย ย่าลินบอกว่า ต้องร้องเพลงให้ลูกๆ หลานๆ ฟังด้วย ไม่อย่างนั้นบรรยากาศจะไม่ครื้นเครง
ย่าลินมาพร้อมกีตาร์ตัวหนึ่ง ยิ้มน้อยๆ และสีหน้าเต็มเปี่ยมด้วยความสุข ทำให้คนฟังมีความสุขไปด้วย
“ปกติขึ้นเวทีอื่นจะมีพิธีกรคอยถาม แต่นี่ให้เราพูดคนเดียว เขินเหมือนกัน และพูดเรื่องความตายด้วย” ย่าลิน เล่าแล้วบอกว่า ความตายที่ใกล้ตัวย่าลินมากที่สุดคือ ตอนสามีน็อคไปเฉยๆ รวดเร็วมากและตอนน้องชายเป็นมะเร็ง
ส่วนวินาทีเฉียดตาย เธอเล่าว่า ตอนรถคว่ำตกลงไปในคลอง
“มีคนเห็นว่า เราลอยขึ้นไป แล้วม้วนตัวลงคลอง รถทับอีกที ศีรษะปักลงไปในเลน”
ความรู้สึกตอนนั้น เธออึดอัดมาก และคิดว่า นี่กำลังจะตายหรือ ช่วงจังหวะนั้น เธอคิดถึงลูกทั้งสองที่จะต้องเลี้ยงดู
“แต่ย่าลินก็ไม่ตาย และตอนที่เราใกล้จะตาย สิ่งแรกที่เรานึกถึงคือ คนที่เรารัก ถ้าย่าลินอยู่ได้อีก10 ปี ตอนนั้นก็จะอายุเกือบ 80 ปี ชีวิตที่เหลือคือ กำไรชีวิตแล้วล่ะ”
จากเหตุการณ์เฉียดตายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ย่าลินเลยต้องปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิต เธอบอกว่าไม่กลัวตายแล้ว ชีวิตที่เหลือจะร้องเพลงต่อไปเรื่อยๆ
“ก่อนที่จะรถคว่ำ เราก็มีความสุขกับคนนั้นคนนี้ไปเรื่อยๆ ไม่คิดอะไร จนกระทั่งเจออุบัติเหตุ ชีวิตเริ่มเปลี่ยน ใบหน้าเป็นอัมพฤกษ์ ขยับไม่ได้ หมอบอกว่าให้ฝึกกล้ามเนื้อ พูดเยอะๆ ลูกก็บอกว่าพูดเยอะทำไม ร้องเพลงได้ ก็ร้องไปสิ”
เมื่อนึกถึงการร้องเพลงที่ตัวเองชื่นชอบ ย่าลินเริ่มหัดร้องเพลงไปเรื่อยๆ และช่วงนั้นชีวิตก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมาก
กระทั่งลูกชายย่าลินมาบอกว่า “แม่ครับ เดี๋ยวซื้อกีตาร์ให้ตัวหนึ่ง เล่นเอง แล้วร้องเอง ไปเลยครับ”
ย่าลินก็เลยถามลูกว่า “ตกลง...แกจะทิ้งฉันหรือ(หัวเราะ)”
ลูกชาย ก็ตอบว่า “ผมไม่มีเวลา แม่จะได้เล่นกีตาร์ ฝึกกล้ามเนื้อ”
หลังจากได้กีตาร์ตัวนั้นมา ย่าลินก็หยิบมาหัดเล่นให้หมาแมวฟังไปเรื่อยๆ
กระทั่งผ่านมาหลายเดือน ลูกชายได้ยิน แม่เล่นกีตาร์และร้องเพลงได้ดีขึ้น จึงไปซื้อสมาร์ทโฟนมาให้เครื่องหนึ่ง
“เราก็บอกว่า ใช้ไม่เป็น ไม่อยากเล่นมือถือ แต่เมื่อหัด ค่อยๆ พิมพ์ข้อความได้ ก็ตั้งกล้อง บันทึกการเล่น ตอนนั้นใส่เสื้อกระเช้าสีแดง อัดคลิปเอง แล้วโพสต์” ย่าลิน เล่า
วันที่เธอเริ่มโพสต์การเล่นกีตาร์ของตัวเองแบบสนุกๆ โดยไม่ได้หวังผลอะไร ปรากฎว่า คนเข้ามาชมมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงหลักล้าน และนั่นเป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้งในชีวิตย่าลิน
ย่าลินบอกว่า เริ่มมีคนเชิญไปออกรายการ และร้องเพลงตามที่ต่างๆ ทำให้รู้สึกสนุกและมีความสุข
“ก่อนจะหัดเล่นกีตาร์จนนิ้วด้าน ต้องหน้าด้านก่อน ก็จะทำให้เรามีความสุข” ย่าลิน และบอกว่า ตอนนี้เฟสบุ๊คของย่าลิน เต็มแล้ว รับใครเป็นเพื่อนไม่ได้แล้ว
“ถ้าย่าลินเล่นกีตาร์ได้ คนแก่คนอื่นๆ ก็ทำสิ่งที่ตัวเองรักได้ ลองหัดเล่นกีฬา ถักโครเชต์ ดูสิ ฯลฯ "







