Lesla Party ชุมชนของหญิงรักหญิง

Lesla Party ชุมชนของหญิงรักหญิง

เมื่อราว 16 ปีก่อน กลุ่ม Lesla ก่อตัวขึ้นในสังคมออนไลน์ www.lesla.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์เครือข่ายสังคมแบบทั่วไปในสมัยนั้น ที่ต้องมีห้อง Chat

สมัยที่อินเทอร์เน็ตบ้านกำลังบูมใหม่ๆ มันเป็นแหล่งรวมตัวของกลุ่มหญิงรักหญิง ที่อยากมีเพื่อนซึ่งสนใจอะไรเหมือนๆ กัน ไว้พูดคุย ปรึกษา ปรับทุกข์ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่พร้อมจะเปิดเผยตัว มีเพียงชื่อล็อคอินที่แสดงความเป็นสมาชิกเท่านั้น

จากจำนวน 5-10 กระทู้ต่อวัน เรื่อยมาถึงหลักสิบ จนสมาชิกมีถึงหลักร้อย และมากขึ้นตามลำดับ จากนั้นใครคนหนึ่งก็เสนอไอเดียอยากทำลายกำแพงของความสัมพันธ์ที่ไม่เห็นหน้า ด้วยการดันเป็นโปรเจคที่ชื่อ Lesla Party ที่เชิญชวนให้สมาชิกที่สนิทสนมกันหน้าจอให้มาพบปะ สังสรรค์ เห็นหน้าค่าตากันจริงๆ

นับจากจุดเริ่มจนถึงปัจจุบัน มันทนา อดิสยเทพกุล โต้โผใหญ่ของกลุ่ม Lesla บอกว่า 16 ปีที่ผ่านมา มีสมาชิกหมุนเวียนเปลี่ยนไปมาก บางคนยังเป็นหญิงรักหญิงที่มีความสุขในรูปแบบของตัวเอง ขณะที่บางคนมีครอบครัวตามที่ตัวเองเลือก ซึ่งเป็นไปตามสิทธิเสรีภาพของแต่ละชีวิต เป็นการแสดงถึงความหลากหลายและความลื่นไหลทางเพศ อย่างไรก็ตาม กลุ่ม Lesla ก็พร้อมจะเป็นชุมชนสำหรับกลุ่มหญิงรักหญิงในทุกรูปแบบเช่นเดิม

“เรานัดรวมตัวเดือนละครั้ง ครั้งละไม่น้อยกว่า 500 คน ซึ่งตลอด16 ปีที่ผ่านมา มันแสดงให้เห็นว่า ในสังคมไทยมีกลุ่มหญิงรักหญิงจำนวนมาก เพียงแต่เขาไม่อยากแสดงออก ไม่อยากเป็นเป้าสายตาของใคร แต่พวกเขาอยากมีเพื่อนที่เป็นแบบเดียวกันและคุยกันได้อย่างเปิดเผย”

“การมีชุมชนไม่ใช่แค่เรื่องความสนุกสนานเท่านั้น แต่มันเป็นพื้นที่ส่วนตัว ที่จะได้แลกเปลี่ยนมุมมอง สร้างคอนเนคชั่นด้วยความรู้สึกปลอดภัย ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาคุกคามหรือมองด้วยอคติที่ไม่เข้าใจกันจริงๆ”

มันทนา บอกว่า การสร้างชุมชนเล็กๆ แม้มันจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรนัก แต่ในแง่หนึ่งก็ช่วยตรวจสอบซึ่งกันและกัน และลดการหลอกลวงได้ในระดับหนึ่ง และการเป็นชุมชนยังได้สร้างกิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ให้แก่สมาชิกบ้าง เช่น การเปิดรับสมัครงาน การจัดอบรมหลักสูตร จัดกิจกรรมในเทศกาลสำคัญ ส่วนใครจะหาคู่ หาแฟน กระทั่งขายของ ย่อมเป็นสิทธิที่ทั้งผู้เสนอและผู้รับข้อเสนอจะตกลงกันเองตามความเหมาะสม

ส่วนเป้าหมายต่อจากนี้นั้น นอกจากจะเป็นที่พบปะของกลุ่มหญิงรักหญิงแล้ว Lesla อยากให้เป็นเครือข่ายทางสังคมที่จะสร้างประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมได้อย่างสร้างสรรค์ ให้สังคมยอมรับความหลากหลายทางเพศ ควบคู่กับการให้ความรู้กับสมาชิกอย่างเรื่องทางการแพทย์ การใช้ฮอร์โมน การศัลยกรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่เยาวชนที่เป็นหญิงรักหญิงไม่รู้จะเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องอย่างไร

“เรามีหมอ มีทนายความ มีคนแต่ละอาชีพที่อยู่ในเครือข่าย ซึ่งพร้อมจะช่วยเหลือ จะผ่านมากี่สิบปีแต่หลักการของกลุ่มยังเหมือนเดิม คืออยากให้หญิงรักหญิงทุกคน รู้สึกมั่นใจที่จะเป็นตัวเอง กล้าแสดงออก มีตัวตนและมีพื้นที่ในสังคมไทยอย่างเข้มแข็ง สู้กับภาพลักษณ์ที่คน มักมองทอมในด้านลบ หาว่าทอมกร่างบ้าง เป็นนักเลงบ้าง ซึ่งคือการเหมารวม เราจึงอยากสร้างสังคมที่ช่วยกัน ให้ความรู้ ทำมาหากิน ทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ ดูมีรสนิยม และเป็นคนที่ดีไม่ว่าจะมีเพศสภาวะแบบไหนก็ตาม”